เราสามารถจำพล็อตเรื่องการ์ตูนดังได้มากมาย นั่นเป็นเพราะเราเคยดูมันหรือเคยได้ยินมานับสิบๆ รอบตั้งแต่เด็กจนโต แต่ต้นกำเนิดของการ์ตูนเหล่านั้นล่ะคุณทราบหรือไม่ว่ามันเหมือนกับที่คุณเคยได้ยินมาหรือเปล่า วันนี้เพชรมายาจะขอพาทุกท่านไปชมต้นกำเนิดการ์ตูนดังที่คุณยังไม่เคยรู้กัน
1. มู่หลาน
พล็อตเรื่องของมู่หลานอ้างอิงมาจากเรื่องตำนานหญิงสาวที่ชื่อ ฮวา มู่หลัน ที่อยู่ในบันทึกตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 โดยมู่หลันเองถูกพ่อฝึกฝนเรื่องการต่อสู้ ขี่ม้า ยิงธนู และดาบ จนกระทั่งจักรพรรดิได้เกณฑ์ชายทุกคนไปร่วมสงคราม มู่หลันได้ปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อไปแทนพ่อที่ป่วย และตลอดระยะเวลา 12 ปีที่เธอเป็นทหาร เธอได้รับความดีความชอบมาก แต่เธอบอกปัดตำแหน่งลาภยศและขอกลับมาที่บ้านของเธอดังเดิม
2. อนาสตาเซีย
อนาสตาเซีย คือบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริง และเธอก็เป็นพระธิดาองค์สุดท้ายของจักรพรรดินิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซีย โดยเด็กหญิงถูกประหารชีวิตพร้อมกับครอบครัวที่เหลือของเธอในปี 1918 หลังจากนั้นก็มีผู้หญิงราว 30 คนที่ประกาศอ้างตนว่าเป็นตัวว่าเป็นอนาสตาเซีย แต่สุดท้ายก็ถูกจับได้เสียก่อน
3. Up
เรื่องราวของคุณปู่คาร์ลจากเรื่อง Up มีที่มาจากเหตุการณ์ในปี 2006 เมื่อการก่อสร้างตึกระฟ้าในย่านซีแอตเติลได้เริ่มขึ้น อีดิธ เมสฟิลด์ หญิงชราวัย 85 ปี ปฏิเสธที่จะย้ายออกไปจากบ้านของเธอที่อยู่ท่ามกลางการก่อสร้างอันแสนวุ่นวาย เธอได้รับข้อเสนอเป็นเงินถึง 1 ล้านเหรียญเพื่อให้ย้ายออกไป แต่เธอปฏิเสธและกล่าวว่า เงินไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ
4. สโนไวท์
ต้นแบบของสโนไวท์ที่น่าเชื่อถือที่สุด มาจากเรื่องราวของหญิงสาวที่ชื่อ มาเรีย โซเฟีย มาร์กาเรธา แคธารินา ฟอน อาธัล (ชื่อยาวไปไหน) ที่เกิดในปี 1729 ในเมืองลัวห์ ประเทศเยอรมนี โดยเธออาศัยอยู่ในปราสาทโบราณกับแม่เลี้ยงใจร้ายจอมเผด็จการ สิ่งที่เชื่อมโยงกับสโนไวท์ ยังมีเรื่องของพื้นที่บริเวณเนินเขาลัวห์ที่เต็มไปด้วยสวนแอปเปิ้ลและต้นไม้มีพิษมากมาย แถมยังมีคนงานเหมืองร่างเตี้ยดูจะเป็นแรงบันดาลใจในเรื่องคนแคระ
ถึงแม้ภาพสเก็ตช์ของเธอจะไม่มีหลงเหลือมาถึงปัจจุบัน แต่สิ่งที่เป็นหลักฐานชั้นดีก็คือ “กระจกวิเศษ” สิ่งสำคัญที่พ่อของเธอมอบให้กับแม่ของสโนไวท์ และมันยังมีกลไกพิเศษที่เปล่งเสียงออกมาคล้ายคนพูด จนมันได้รับฉายาว่า “กระจกพูดได้”
5. โพคาฮอนทัส
โพคาฮอนทัส เป็นชื่อเล่นที่ถูกตั้งโดยหัวหน้าเผ่าชาวอเมริกันพื้นเมือง ที่ตั้งให้กับลูกสาวของเขาที่ชื่อเจ้าหญิงมาโตอาคา โดยเธอมีชีวิตอยู่ในช่วงปี 1595-1617 และเป็นบุคคลสำคัญในการรักษาสันติภาพระหว่างชาวอาณานิคมอังกฤษกับชนเผ่าอินเดียนแดง
ในปี 1607 โพคาฮอนทัสถูกกล่าวหาว่าได้ช่วยชายชาวอังกฤษที่ชื่อ จอห์น สมิธ ที่กำลังจะถูกชนเผ่าของเธอประหารชีวิต
ต่อมาในปี 1613 เธอถูกจับตัวโดยนักล่าอาณานิคมและถูกเรียกค่าไถ่ ต่อมาเธอได้แต่งงานกับ จอห์น โรล์ฟ ได้ถวายตัวเป็นคริตส์ศาสนิกชน และเปลี่ยนชื่อตนเองเป็น รีเบคกา จนเธอได้ย้ายไปอยู่ที่อังกฤษ และเสียชีวิตในอีกไม่กี่ปีต่อมาด้วยโรคฝีดาษ
6. บัลโต
เรื่องจริงอันน่าทึ่งที่เกิดขึ้นในปี 1925 เมื่อชาวหมู่บ้าน Nome ได้รับความเดือดร้อนจากโรคคอตีบระบาด สุนัขหลายตัวรวมถึงบัลโตต้องทำหน้าที่ลากเลื่อนพาอาสาสมัครเดินทางฝ่าอากาศที่หนาวเหน็บเพื่อไปเอาเซรั่มจากหมู่บ้านใกล้เคียง โดยทีมของบัลโตต้องวิ่งบนหิมะตลอด 5 วันเป็นระยะทาง 52 ไมล์
สุดท้ายเรื่องราวของบัลโตได้กลายเป็นตำนานของหมู่บ้านและชาวอเมริกัน และถูกนำไปสอนในโรงเรียนเขตอลาสกา และได้มีการจัดแข่งขันสุนัขลากเลื่อนทุกๆ ปี ในเส้นทางที่เจ้าบัลโตเคยวิ่ง ปัจจุบันนี้คุณสามารถเห็นอนุเสาวรีย์ของบัลโตได้ที่เซ็นทรัลปาร์ค ในนิวยอร์กอีกด้วย
7. พิน็อกคิโอ
คาร์โล โลเรนซินี หรือที่รู้จักกันในนามปากกา คาร์โล คอลโลดี นักเขียนชาวอิตาลีที่ไม่ค่อยปลื้มเด็กๆ สักเท่าไหร่ และเพื่อเป็นการสั่งสอนเด็กๆ เขาจึงแต่งเรื่องราวการผจญภัยของหุ่นไม้ที่มีชีวิตกับพ่อผู้ยากจนของเขา และทุกครั้งที่หุ่นไม้พูดโกหก จมูกของเขาจะยาวขึ้น แต่เนื่องจาการทำผิดซ้ำซาก สุดท้ายพิน็อกคิโอถูกจับแขวนคอตาย ภายหลังทางสำนักพิมพ์ได้ขอให้เขาแก้ไขเนื้อเรื่องใหม่ เป็นพิน็อกคิโอเวอร์ชั่นปัจจุบัน ที่ตอนจบกลายเป็นเด็กชายที่มีชีวิตจริงๆ
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา