ถ้าพูดถึงซีรีย์นิยายแฟนตาซีที่โด่งดังที่สุดบนโลกใบนี้ แน่นอนว่าทุกคนคงต้องนึกถึง Harry Potter ขึ้นเป็นชื่อแรก และหลังจากที่หนังสือขายดิบขายดีไปจนทั่วทุกมุมโลกแล้ว ในปี 2001 ภาพยนตร์ Harry Potter ตอนแรกก็ถือกำเนิดขึ้น ซึ่งหลายๆ คนคงทราบกันดีว่า ในภาพยนตร์ที่เราชมกัน ไม่ได้มีการมานั่งอธิบายรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหมือนกับในหนังสือ และนั่นอาจทำให้เราพลาดสิ่งเล็กๆ ที่เราไม่เคยสังเกตมาก่อนไปนั่นเอง แต่วันนี้เพชรมายาจะขอพาทุกท่านย้อนกลับไปชมรายละเอียดเหล่านี้กัน
1. เสื้อผ้าของศาสตราจารย์ โดโลเรส อัมบริดจ์
อ้างอิงจาก “แฮร์รี พอตเตอร์ กับภาคีนกฟินิกซ์” ศาสตราจารย์คนใหม่อย่าง โดโลเรส อัมบริดจ์ ก้าวเท้าเข้ามาสู่ฮอกวอตส์และทำตัวเป็นผู้ร้ายที่น่ารังเกียจที่สุดในเรื่องก็ว่าได้ และถ้าหากใครสังเกตดีๆ จะพบว่า ยิ่งศาสตราจารย์อัมบริดจ์ชั่วร้ายมากขึ้นเท่าไหร่ เสื้อผ้าที่เธอสวมใส่จะยิ่งสีเข้มมากขึ้นเท่านั้น
2. มอเตอร์ไซค์ที่ปรากฏในภาคแรกและภาคสุดท้าย
ในภาพยนตร์ตอนแรกสุด แฮกริดได้พาแฮร์รีไปยังบ้านของพวกเดอร์สลีย์ด้วยมอเตอร์ไซค์บินได้ของซีเรียส และเมื่อถึงเวลามารับแฮร์รีออกจากบ้าน แฮกริดก็มารับแฮร์รีด้วยมอเตอร์ไซค์คันเดิม รวมถึงในภาคสุดท้ายที่เราจะเห็นแฮกริดพาแฮร์รี่หนีผู้เสพความตายกลางอากาศและยังใช้มอเตอไซร์ของซีเรียสเล่นงานผู้เสพความตายไปหลายคน
3. มูดดี้ และ บิล วีสลีย์ เหมือนกันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ตัวละคร แมด-อาย มูดดี้ และ บิล วีสลีย์ พี่ชายของรอน เป็นตัวละครที่รู้จักกันดีสำหรับแฟนๆ ทุกคน และหลายคนที่ช่างสังเกตอาจรู้สึกว่า ทั้งคู่มีความคล้ายคลึงกันอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งความจริงที่หลายคนไม่รู้ก็คือ นักแสดงที่รับบทเป็นมูดดี้ ก็คือพ่อแท้ๆ ของนักแสดงที่รับบท บิล วีสลีย์ นั่นเอง
4. แก๊ง 3 ตัวร้ายเปลี่ยนไป
อ้างอิงจากหนังสือ แก๊ง 3 ตัวร้ายได้แก่ มัลฟอย แคร็บ และ กอยล์ คือตัวละครที่จะต้องอยู่ในโศกนาฎกรรมในห้องต้องประสงค์ แต่เนื่องจากทีมผู้สร้างต้องเปลี่ยนตัวนักแสดงกระทันหัน เนื่องจากนักแสดงที่รับบทแคร็บถูกจับ เราจึงเห็น เบลส ซาบินี โผล่มาในฉากนี้แทน
5. เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ ตั้งท้อง ?
ไม่ใช่แต่ก็ใกล้เคียง เพราะในระหว่างถ่ายทำ “แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับเจ้าชายเลือดผสม” เฮเลนา บอนแฮม นักแสดงที่รับบทเบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ ตั้งครรภ์อยู่แล้ว และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงเห็นเธอใส่ชุดเดรสหลวมๆ และมักมีอะไรปิดบังตัวเธออยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์หรือสิ่งของก็ตาม โดยเฉพาะเวลาที่มีการโคลสอัพเข้าไปใกล้ๆ
6. “ฉันเปิดเมื่อปิด” (I Open at the Close)
หนังสือ แฮร์รี พอตเตอร์ เล่มแรกถูกวางจำหน่ายในอเมริกาปี 1998 เป็นปีเดียวกับที่เกิดสงครามฮอกวอตส์ขึ้น (อ้างอิงจากหนังสือเล่มสุดท้าย) ทำให้ชาวอเมริกันหลายคนตีความเกี่ยวกับคำๆ นี้ ที่อยู่บนลูกสนิชที่ดัมเบิลดอร์ทิ้งไว้ให้แฮร์รีว่า “ฉันเปิดเมื่อปิด” ก็เหมือนกับการเปิดเรื่องของแฮร์รี เมื่อสงครามปิดฉากลงนั่นเอง
7. ความรู้สึกจริงๆ ที่เกิดขึ้น
คุณจำฉากในภาพยนตร์ภาคแรกได้หรือไม่ ตอนที่นักเรียนทุกคนเดินเข้ามาในห้องโถงของฮอกวอตส์เพื่อมาเข้าร่วมพิธีคัดเลือกเป็นครั้งแรก สีหน้าประหลาดใจปนตื่นเต้นที่เกิดขึ้นแทบไม่ได้เกิดจากการแสดง เพราะไม่ว่าจะเป็น แดเนียล, รูเพิร์ต และเอ็มม่า ทั้ง 3 คน ต่างก็เพิ่งเคยเห็นโถงนี้ครั้งแรกจริงๆ
8. โช แชง ยังมาโรงเรียนทำไม ?
เชื่อว่าทุกคนต้องจำ โช แชง นักเรียนสาวที่เป็ฯรักครั้งแรกของแฮร์รีได้แน่นอน แต่หลายๆ คนยังงงว่าทำไมเธอถึงยังมานั่งใส่ชุดนักเรียนปรากฏตัวอยู่จนถึงภาค 7 พร้อมๆ กับนักเรียนคนอื่น ทั้งๆ ที่ โช แชง อยู่ชั้นเรียนที่แก่กว่าแฮร์รี 1 ปี ดังนั้น เธอควรจะเรียนจบฮอกวอตส์ไปได้แล้ว เอ๊ะ! หรือว่าเธอจะเรียนซ้ำชั้น
9. ผู้พิทักษ์ของรอนและเฮอร์ไมโอนี่ มีความเกี่ยวข้องกัน
ผู้พิทักษ์ของรอนคือสุนัขพันธุ์ แจ็ค รัสเซล เทอร์เรีย สุนัขล่าเนื้อที่มักถูกใช้ในการล่าตัวนาก ส่วนผู้พิทักษ์ของเฮอร์ไมโอนี่ ก็คือตัวนาก แน่นอนว่ามันอาจมีความเกี่ยวข้องกันตามแรงปรารถนา เหมือนกับผู้พิทักษ์ของ นิมฟาดอร่า ท็องส์ ที่เป็นหมาป่า โดยปรากฏขึ้นตามแรงปรารถนาและความรักของเธอที่มีต่อศาสตราจารย์ลูปิน ที่เป็นมนุษย์หมาป่า
10. เหตุผลที่สีผมของ นิมฟาดอร่า ท็องส์ เปลี่ยนไป
ในหนังสือได้อธิบายเอาไว้ว่า นิมฟาดอร่า ท็องส์ คือแม่มดที่มีความสามารถในการเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตนเอง เธอชื่นชอบผมสีชมพู แต่ในภาพยนตร์กลับเป็นสีม่วง เหตุผลที่เป็นแบบนั้นก็คือเพื่อป้องกันไม่ให้เธอดูมีความเกี่ยวข้องกับ โดโลเรส อัมบริดจ์ ที่ชื่นชอบสีชมพูเป็นชีวิตจิตใจ
11. ภรรยาในเรื่อง ก็คือแฟนในชีวิตจริง
ในบทส่งท้าย เราได้เห็นตัวละครในเรื่องที่เติบโตขึ้นและมีลูกๆ ของแต่ละคน นั่นรวมถึงฉากของ เดรโก มัลฟอย กับภรรยาและลูกชาย โดยบทภรรยา แอสเทอเรีย มัลฟอย นั้นรับบทโดยนักแสดงสาวที่ชื่อ เจด กอร์ดอน ซึ่งเป็นแฟนของ ทอม เฟลตัน ในตอนนั้น
12. โลโก้สตาร์บัคส์
ในตอน “แฮร์รี พอตเตอร์ กับภาคีนกฟินิกซ์” เมื่อแฮร์รี พอตเตอร์กำลังสำรวจลำดับครอบครัวของซีเรียส แบล็ค เราจะสังเกตได้ว่าตระกูลนี้มีการตั้งชื่อลูกหลานให้เป็นชื่อดวงดาวหรือกลุ่มดาว เช่น ซีเรียส, รีกูลัส, เบลลาทริกซ์ และ อันโดรเมดา นอกจากนั้นยังมีรายละเอียดขำๆ ที่หลายๆ คนสังเกตเห็นก็คือ ภาพบนกำแพงบ้านที่มีรูปของเงือก 2 หางปรากฏอยู่ ไม่แน่ว่าครอบครัวแบล็ค อาจมีส่วนร่วมในการสร้างโลโก้สตาร์บัคส์ก็เป็นได้
13. ฉากบทสรุปที่ถูกตัดออก
อ้างอิงจากหนังสือเล่มสุดท้าย วิคเตอร์ ครัม ได้ไปร่วมงานแต่งงานของ บิล และ เฟลอร์ เดอลากูร์ ซึ่งในภาพยนตร์เองก็มีฉากที่ครัมไปขอเฮอร์ไมโอนี่เต้นรำ โดยอยู่ในสายตาของรอนที่ดูจะไม่ชอบใจเท่าไหร่ แต่สุดท้ายผู้สร้างตัดสินใจที่จะเอาฉากนี้ออกไป และนั่นทำให้เราไม่เคยเห็นฉากนี้ในภาพยนตร์นั่นเอง
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา