ต้นกำเนิดซินเดอเรลลามาจากจีน และนี่คือนางซินเวอร์ชันจีนที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน

เชื่อว่าเกือบทุกคนบนโลกต้องเคยฟังนิทานเรื่องซินเดอเรลลามาอย่างน้อยสักครั้งในชีวิต แต่สิ่งที่เราไม่เคยรู้ก็คือต้นกำเนิดของซินเดอเรลลาแท้จริงแล้วมาจากไหน ว่ากันว่าต้นกำเนิดที่เก่าแก่ที่สุดมาจากเรื่อง Rhodopis ที่ถูกเล่าโดย สตราโบ เมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อน โดยเป็นเรื่องของทาสสาวชาวอิยิปต์ที่แต่งงานกับกษัตริย์ชาวกรีก แต่ถ้าเป็นตำนานซินเดอเรลลาในเอเชียที่เก่าแก่ที่สุดปรากฏขึ้นที่ประเทศจีนเมื่อพันกว่าปีก่อน

เรื่องนี้เกิดขึ้นในระหว่างราชวงศ์ฉินและราชวงศ์ฮั่น โดยเป็นเรื่องราวของหัวหน้าหมู่บ้านนามว่า หวู่ตง ที่แต่งงานมีภรรยา 2 คน และต่างคนก็ต่างมีลูกสาว โดยลูกสาวของภรรยาคนหนึ่งมีชื่อว่า เย่เซี่่ยน เธอเป็นคนสวย จิตใจดี อ่อนโยน และอ่อนน้อมถ่อมตน จนทำให้หวู่ตงรักลูกสาวคนนี้มาก จนกระทั่งแม่ของเย่เซี่ยนได้เสียชีวิตลง ยิ่งทำให้เขารักลูกสาวคนนี้มากขึ้นไปอีก

เมื่อเย่เซี่ยนโตเป็นสาวได้ไม่นาน หวู่ตงก็ได้จากโลกนี้ไปจนทำให้หญิงสาวต้องอยู่ในความดูแลของแม่เลี้ยงที่เป็นภรรยาอีกคน แต่สถานะของเย่เซี่ยนไม่เหมือนเดิมแล้วตอนนี้ เพราะเธอโดนแม่เลี้ยงและพี่สาวกดขี่ข่มเหง และให้เธอทำหน้าที่เสมือนคนรับใช้ภายในบ้าน เนื่องจากทั้งคู่อิจฉาเย่เซี่ยนที่มีหน้าตาสละสวย

เย่เซี่ยนต้องอยู่กับแม่เลี้ยงของเธอด้วยความทุกข์ระทม สิ่งเดียวที่เป็นเพื่อนของเธอคือปลาตัวหนึ่งที่สวยงามและมีนัยน์ตาสีทองกลมโตในทะเลสาบ ในทุก ๆ วัน ปลาตัวนี้จะว่ายมาหาเย่เซี่ยนที่ริมฝั่ง และเธอก็จะแบ่งปันอาหารของตัวเองที่มีอยู่น้อยนิดให้มันเสมอ

ไม่นานนัก เรื่องนี้ก็รู้ไปถึงหูของแม่เลี้ยง เธอจึงปลอมตัวเป็นเย่เซี่ยนเพื่อหลอกล่อปลาตัวนี้ให้ปรากฏตัวออกมา จากนั้นก็แทงมันด้วยมีดสั้น และจับมันไปทำอาหารค่ำในคืนนั้นเอง

เย่เซี่ยนใจสลายเมื่อได้รู้ข่าวร้ายนี้ เธอนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่นานจนกระทั่งเธอได้ยินเสียงของชายชราคนหนึ่งเรียกเธอ ชายชราคนนี้แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าหลุดรุ่ย ผมเผ้ารุงรังยาวจนถึงบ่า แต่หน้าตาของเขาดูฉลาดเฉลียว ชายชราบอกกับเย่เซี่ยนว่า กระดูกของปลาตัวนี้เต็มไปด้วยจิตวิญญาณอันแข็งแกร่ง ถ้าเธอคุกเข่าต่อหน้ากระดูกของปลาและบ่งบอกถึงความปรารถนาที่อยู่ในใจแล้วล่ะก็ ความปรานารถนั้นจะเป็นจริง

เย่เซี่ยนออกไปค้นหากระดูกของปลาตัวนี้ที่กองขยะและซ่อนมันไว้ในที่ปลอดภัย แต่เธอไม่เคยขอสิ่งใดจนกระทั่งเวลาผ่านไปจนถึงช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ มันเป็นช่วงเวลาที่คนหนุ่มสาวในหมู่บ้านจะมาพบปะกันเพื่อหาคู่ที่ตนชื่นชอบ เย่เซี่ยนปรารถนาที่จะไปงานนี้แต่แม่เลี้ยงของเธอไม่อนุญาต เพราะเธอกลัวว่าจะมีผู้ชายสนใจเย่เซี่ยนมากกว่าลูกสาวของตนเอง

จากนั้นแม่เลี้ยงและพี่สาวก็ได้ออกไปเที่ยวในงานเทศกาลโดยทิ้งเย่เซี่ยนเอาไว้ที่บ้าน เธอจึงตัดสินใจหยิบกระดูกปลาที่ซ่อนไว้เพื่อมาขอเสื้อผ้าสวย ๆ เพื่อสวมใส่ไปงาน ทันใดนั้นเอง เสื้อผ้าของเธอก็กลายเป็นชุดสีฟ้าที่สวยงาม พร้อมกับผ้าคลุมที่ประดับไปด้วยขนนกกระเต็น

เท้าที่ว่างเปล่าของเธอจู่ ๆ ก็มีรองเท้าที่ถูกถักทอด้วยด้ายสีทองคล้ายลวดลายของเกล็ดปลา และมีพื้นรองเท้าที่ถูกทำมาจากทองคำแท้ รองเท้าคู่นี้ทำให้ตัวเธอรู้สึกเบากว่าอากาศ แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ เธอได้รับคำเตือนว่า ห้ามทำรองเท้าหายเด็ดขาด

เย่เซี่ยนตัดสินใจเดินทางไปงานเทศกาลทันที และสายตาทุกคู่ภายในงานก็จับจ้องเธอเพียงคนเดียว ไม่มีใครรู้มาก่อนว่าหญิงสาวที่สวยงามคนนี้คือใคร จนแม่เลี้ยงและพี่สาวของเธอเข้ามาใกล้ ด้วยความตกใจกลัวว่าจะถูกจับได้ เย่เซี่ยนตัดสินใจวิ่งหนีกลับบ้านโดยเผลอทำรองเท้าข้างหนึ่งหลุดไว้ข้างหลัง

เมื่อกลับถึงบ้าน เย่เซี่ยนกลับมาถึงบ้าน เธอรีบเปลี่ยนชุดกลับไปเป็นชุดเก่า ๆ เหมือนเดิม เธอพยายามพูดกับกระดูกปลาแต่ครั้งนี้ไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นอีก ด้วยความเศร้าเธอจึงนำรองเท้าข้างที่เหลือซ่อนเอาไว้ ข่าวลือเรื่องสาวสวยปริศนาเป็นที่กล่าวขวัญไปทั่ว แม้กระทั่งแม่เลี้ยงกับพี่สาวของเธอเองก็ไม่ทราบว่านี่คือเย่เซี่ยน

หลังจากนั้นไม่นาน มีพ่อค้าคนหนึ่งได้พบกับรองเท้าที่หายไปโดยบังเอิญ เขาเห็นว่ามันเป็นรองเท้าทองคำที่น่าจะมีมูลค่าสูง จึงขายต่อไปให้กับพ่อค้าอีกคนหนึ่ง และพ่อค้าคนนี้ได้นำรองเท้าทองคำไปถวายให้กับพระราชาแห่งอาณาจักรแห่งหนึ่ง

กษัตริย์รู้สึกประทับใจกับรองเท้าคู่นี้และต้องการทราบว่าเจ้าของรองเท้าที่สวยงามคู่นี้คือใครกันแน่ พระองค์จึงส่งทหารออกไปค้นหาจนทั่วอาณาจักรแต่ก็ล้มเหลว ไม่มีใครที่สามารถสวมรองเท้าสีทองที่มีขนาดเล็กกว่าปกติข้างนี้ได้เลย พระองค์จึงตัดสินใจวางรองเท้าคู่นี้เอาไว้บนศาลาริมทางแห่งหนึ่งบริเวณที่รองเท้าคู่นี้ถูกพบ โดยประกาศว่ารองเท้าจะถูกส่งคืนให้กับผู้ที่เป็นเจ้าของตัวจริงเท่านั้น

หญิงสาวจากทั่วอาณาจักรต่างเดินทางมาลองใส่รองเท้าข้างนี้แต่ก็ไม่มีใครที่สามารถใส่มันได้แม้แต่คนเดียว จนกระทั่งคืนหนึ่ง เย่เซี่ยนตัดสินใจที่จะลอบเข้าไปในศาลาอย่างเงียบ ๆ เพื่อนำมันกลับมา แต่เธอก็ไม่อาจลอดพ้นจากสายตาของทหารยามได้ เย่เซี่ยนถูกจับและถูกส่งตัวให้กับพระราชาทันที

เมื่อทราบเรื่อง พระราชารู้สึกเดือดดาลและพระองค์ไม่อยากเชื่อว่า ใครก็ตามที่แต่งตัวด้วยผ้าขี้ริ้วแบบนี้จะเป็นเจ้าของรองเท้าทองคำได้ แต่ทันทีที่พระองค์ทรงเดินเข้ามาใกล้เย่เซี่ยน ก็ต้องสะดุดตาเพราะเธอมีใบหน้าที่สวยงามและเท้าของเธอก็มีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่ตนเคยเห็นมา

เย่เซี่ยนกล่าวว่าเธอไม่ได้มาขโมยรองเท้าแต่รองเท้าข้างนี้เป็นของเธอ ทุกคำพูดของเธอล้วนออกมาจากใจ มันเต็มไปด้วยความซื่อสัตย์และอ่อนหวาน พระราชาตัดสินใจพาเย่เซี่ยนกลับบ้าน เมื่อไปถึงเธอหยิบรองเท้าข้างที่ซ่อนไว้ออกมา เมื่อเธอสวมรองเท้าทั้งสองข้าง เสื้อผ้าที่เหมือนผ้าขี้ริ้วของเธอก็เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่งดงามเหมือนตอนที่เธอใส่ไปยังงานเทศกาลอีกครั้ง

ตอนนั้นเอง แม่เลี้ยงและพี่สาวของเย่เซี่ยนรีบกล่าวทูลพระราชาว่า แท้จริงแล้วชุดนี้เป็นของพี่สาวเธอ แต่พระราชาทราบได้ทันทีว่าทั้งคู่โกหก มาถึงตอนนี้พระราชาได้ตกหลุมรักเย่เซี่ยนเข้าแล้ว พระองค์ตัดสินใจขอเธอแต่งงาน และเย่เซี่ยนตอบตกลงด้วยความยินดี

เย่เซี่ยนเดินทางกลับวังไปกับพระราชาในฐานะราชินี และอาศัยอยู่กับพระราชาอย่างมีความสุข ส่วนแม่เลี้ยงและพี่สาวของเธอถูกสั่งให้อยู่แต่ในบ้านห้ามออกไปไหน ทั้งคู่เริ่มทะเลาะกันเองจนสุดท้าย บ้านที่เป็นถ้ำของพวกเธอก็พังถล่มลงมาจนทั้งคู่จบชีวิตลงอย่างอนาถ

และนี่ก็เป็นซินเดอเรลลาในเวอร์ชันจีนที่มีความคล้ายคลึงกับเวอร์ชันของดิสนีย์ที่เราคุ้นเคยไม่น้อย หลังจากอ่านจบแล้วคุณรู้สึกชอบในเวอร์ชันไหนมากกว่ากัน

ที่มา : myseveralworlds | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ