นางแบบผิวสีถือว่าได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งหากใครที่ติดตามชมข่าวต่างประเทศ ก็อาจเคยเห็นนางแบบผิวสีสวยๆ มากมายจากทั่วโลกมาบ้างแล้ว และนี่ก็เป็นนางแบบผิวสีอีกหนึ่งคนที่ชาวเน็ตทั่วโลกต่างชื่นชมในความสวยงามของเธอ จนได้รับฉายาว่า “บาร์บี้สีดำ” หรือ Black Barbie
ดักกี ธอท คือนางแบบสาวชาวออสเตรเลียที่มีชื่อเสียงอย่างมาก จนมีผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากกว่า 1.1 ล้านคน รวมถึงมีแบรนด์ดังๆ มากมายติดต่อให้เธอไปเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาให้
แต่เส้นทางชีวิตของเธอก็ไม่ได้สวยหรู โดยเฉพาะการถูก Bully จากสังคมและผู้คนรอบตัว จนเกือบจะทำให้ชีวิตเธอต้องพังลงไป
ย้อนกลับไปในอดีต พ่อแม่ของดักกีคือผู้ลี้ภัยชาวซูดานใต้ที่เดินทางมายังประเทศออสเตรเลียเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ดักกีเป็นหนึ่งในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 7 คนที่เติบโตขึ้นในเมืองเมลเบิร์น และเธอเองก็มีความฝันที่อยากจะเป็นนางแบบมาตั้งแต่เด็ก
จริงๆ แล้วเธอไม่ได้ชื่อดักกีมาตั้งแต่เกิด เพราะชื่อของเธอจริงๆ คือ เอ็นยาดัค แต่เนื่องจากคุณครูและเพื่อนๆ ของเธอไม่สามารถออกเสียงชื่อของเธอได้ เธอจึงถูกตั้งชื่อใหม่ว่า “ดักกี”
หลังจากเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ดักกีมีโอกาสเข้าร่วมรายการ Australia’s Next Top Model ในปี 2013 ที่โด่งดังมากๆ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้เธอกำลังจะได้ทำอาชีพที่เธอใฝ่ฝัน
แต่แทนที่ผิวสีของเธอจะกลายเป็นความโดดเด่น แต่มันกลับกลายเป็นที่จับจ้องให้ถูกจับผิด ดักกีที่อายุเพียงแค่ 17 ปีในตอนนั้น ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากสไตลิสต์ในรายการ โดยเฉพาะเรื่องเส้นผมของเธอที่ไม่เคยได้รับการดูแล
ส่วนกระแสของชาวเน็ตเองก็มีแต่ด้านลบเสียเป็นส่วนใหญ่ รูปลักษณ์ภายนอกของเธอถูกนำมาล้อเลียน เสียดสี ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง สีผิว ทรงผม จนไปถึงน้ำหนักตัว แถมยังมีคนตั้งฉายาให้เธอว่า “หัวดอกกล่ำ” อีกต่างหาก
ไม่เพียงแค่นั้น หลายคนยังไม่เชื่อว่ารูปลักษณ์ของเธอที่ดูคล้ายตุ๊กตาบาร์บี้ จะเป็นของขวัญที่ได้มาจากธรรมชาติ ผู้คนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าเธอต้องผ่านการทำศัลยกรรม รวมถึงภาพถ่ายของเธอก็ต้องผ่านการตัดต่อมาอย่างแน่นอน
ไม่เพียงแค่กระแสบนโลกออนไลน์ แต่เพื่อนร่วมอาชีพของเธอบางคนก็ยังพูดจาไม่ดีเกี่ยวกับตัวเธออีกด้วย
ถึงแม้จะมีกระแสด้านลบเกี่ยวกับตัวเธอมากมาย แต่ดักกีก็ได้รับอันดับที่ 3 จากการประกวดในครั้งนั้น และมีโอกาสเริ่มต้นอาชีพนางแบบในเมลเบิร์น ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ดักกีเคยให้สัมภาษณ์ในนิตยสาร Teen Vogue เอาไว้ว่า ในฐานะที่เธอเป็นเพียงเด็กผู้หญิงอายุ 17 ปี เธอต้องทนรับความเจ็บปวดแบบนี้หลายต่อหลายครั้ง จนในที่สุดเธอก็คิดได้ว่า เธอไม่สมควรที่จะต้องทนรับเรื่องแบบนี้อีกต่อไป
ดักกีตัดสินใจออกจากวงการ หลบหนีผู้คนจากโลกออนไลน์ เธอเลิกยุ่งเกี่ยวกับอาชีพนางแบบไปนานถึง 2 ปีเต็มๆ ซึ่งการหายตัวไปครั้งนี้ทำให้เธอได้ค้นพบอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม
ในที่สุด ดักกีได้ตัดสินใจหวนคืนวงการอีกครั้งด้วยจิตใจที่เข้มแข็งกว่าเดิม เธอกล่าวว่า ในช่วงที่เธอหายไป เธอรู้สึกแย่มาก แต่เธอได้เปิดใจลองฟังเสียงตัวเองมากขึ้น ถึงแม้จะมีคนพูดถึงเธอในแง่ลบมากมาย แต่ก็ไม่มีใครสามารถมากำหนดชีวิตของเธอได้
กระแสวิจารณ์ในแง่ลบไม่ได้ส่งผลต่อชีวิตของเธออีกต่อไป การกลับมาครั้งนี้ หลายคนยอมรับในตัวเธอมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมีผู้คนมากมายที่ยอมรับในความสวยงามในแบบที่เธอเป็น ผิวสีที่งดงาม และหน้าตาที่น่าหลงใหลของเธอ ทำให้เธอกลับมาโลดแล่นในวงการแฟชั่นอีกครั้ง
ปัจจุบัน ดักกี ธอท ในวัย 23 ปี กลายเป็นนางแบบที่มีชื่อเสียง เธอได้รับการเซ็นสัญญากับเอเจนซีดังๆ มากมาย ทั้งจากนิวยอร์ก ปารีส มิลาน และซิดนีย์ และได้มีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์ดังระดับโลกอีกเพียบ
เรื่องราวของดักกี สอนให้เรารู้ว่า การรับมือกับความคิดตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเราไม่สามารถเปลี่ยนความคิดคนอื่นได้ แต่สิ่งที่เราทำได้เพียงอย่างเดียวก็คือ การเปลี่ยนความคิดของตัวเอง และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมันจะดีกว่าที่คุณคิดอย่างแน่นอน
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา