ถ้าพูดถึงหนึ่งในการ์ตูนที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกในยุคที่ผ่านมาต้องมีชื่อของ นารูโตะ หรือที่มีชื่อไทยแบบน่ารักๆ ว่า “นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ” ซึ่งมีในเรื่องนารูโตะนี้เอง ได้มีตัวละคนมากมายหลายตัวที่แฟนๆ จดจำได้เป็นอย่างดี และกลายเป็นตัวละครในดวงใจของใครหลายๆ คน จนถึงขนาดมีชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยที่นำชื่อของตัวละครในเรื่องนารูโตะมาตั้งเป็นชื่อลูกๆ ของตัวเองอีกด้วย
จนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา อ.มาซาชิ คิชิโมโตะ ได้ออกมาเปิดเผยถึงที่มา ก่อนจะมาเป็นชื่อ “ซาบุสะ” และ “กาอาระ” ในรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นประโยคสนทนาระหว่างตัวเขากับบรรณาธิการดังนี้
อ.มาซาชิ: “ผมจะให้ตัวร้ายนี้ชื่อว่า โมโมทาโร่”
บรรณาธิการ: “ใช้ชื่อ ซาบุสะ แทนเถอะ”
อ.มาซาชิ: “ผมจะให้ตัวละครเจ๋งๆ นี้ชื่อว่า โคทาโร่”
บรรณาธิการ: “ใช้ชื่อ กาอาระ แทนเถอะ แล้วก็หยุดพูดเป็นคนแก่เหมือนคาคาชิได้แล้ว”
โมโมจิ ซาบุสะ คือผู้ใช้ดาบสะบั่นหัวที่ได้รับสืบทอดจากบิวะ จูโซ เป็นอสูรกายที่ซ่อนอยู่ในหมอกที่เก่งกาจ ในขณะที่ อ.มาซาชิ พยายามที่ตั้งชื่อตัวละครนี้ว่า โมโมทาโร่ เทพนิยายพื้นบ้านของญี่ปุ่น ที่ว่าด้วยเรื่องของเด็กชายที่เกิดมาจากลูกท้อ ที่เดินทางไปพร้อมกับสหายสัตว์ทั้ง 3 เพื่อไปปราบปีศาจ
ส่วน กาอาระ คือเด็กหนุ่มที่มีพลังของภูติทราย และมีแต่ความเกลียดชังอยู่ในใจ นี่คือหนึ่งในตัวละครที่คนจดจำชื่อได้มากที่สุด แต่ก่อนหน้านี้ อ.มาซาชิ พยายามตั้งชื่อตัวละครนี้ว่า “โคทาโร่” ซึ่งมาจากเทพนิยายพื้นบ้านของญี่ปุ่นเรื่อง “ตำนานของ โคทาโร่ โคอิซุมิ” โดยเป็นเรื่องของเด็กที่เกิดมาจากพ่อซึ่งเป็นมนุษย์และแม่ที่เป็นงู
แทนที่จะใช้ชื่อของตัวละครในตำนานพวกนี้ แต่บรรณาธิการกลับมองว่า ตัวละครทั้ง 2 นี้ควรใช้ชื่อธรรมดาจะดีกว่า
แต่นั่นก็ไม่ใช่ทั้งหมดของเรื่อง เพราะตัวละครหลายตัวอย่างเช่น โอโรจิมารุ, จิไรยะ, สึนาเดะ ชื่อทั้ง 3 ก็มาจากเทพนิยายเรื่อง “The Heroic Tales of Jiraiya”
ส่วนชื่อของ ซารุโทบิ และ ซาสึเกะ ก็มาจากชื่อของ ซารุโทบิ ซาสึเกะ นินจาผู้มีชื่อเสียงที่ปรากฏอยู่ในนิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่นมากมายระหว่างช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20
การถกเถียงกันเพื่อเปลี่ยนรายละเอียดต่างๆ ในเรื่องนารูโตะไม่ใช่แค่ชื่อของตัวละครเท่านั้น แต่ยังมีรายละเอียดต่างๆ ที่บรรณาธิการขอปรับอีกเช่น การตัดฉากระเบิดที่มากมายออก, เพิ่มบทให้ซาสึเกะ, การเพิ่มแคว้นนามิโนะคุนิ (รวมทั้งตัวละคร ซาบุสะและฮาคุ), เปลี่ยนฮาคุ จากเดิมที่เป็นหมีให้กลายเป็นคน, เปลี่ยนนารุโตะจากจิ้งจอกให้เป็นมนุษย์, ปรับโมเดลของ ร็อค ลี และตัวละครอื่นๆ ที่สอบจูนิน, เปลี่ยนไม่ให้โฮคาเงะและอาจารย์เป็นสัตว์ , ปรับให้ตัวเอกตาแคบลง และตัวร้ายตากว้างขึ้น รวมถึงส่วนอื่นๆ อีกไม่น้อย”
หลังจากอ่านมาถึงตรงนี้ หลายๆ คนคงจะเห็นว่า มีหลายสิ่งมากมายที่ถูกแนะนำโดยบรรณาธิการ ซึ่งทำให้เราเห็นว่า ถึงแม้อาจารย์มาซาชิ จะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว แต่การได้กองบรรณาธิการที่มีประสบการณ์สูงมาเป็นส่วนช่วยเสริม ก็ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ถูกตีพิมพ์ออกมาจนกลายเป็นตำนานได้
ที่มา : soranews24 | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ