ในภาพยนตร์หนึ่งเรื่อง มักจะประกอบไปด้วยนักแสดงที่รับบทเป็น พระเอก นางเอก ตัวร้าย และตัวประกอบอื่นๆ อีกมากมาย แต่นั่นก็ไม่เสมอไป เพราะในภาพยนตร์บางเรื่อง ก็อาศัยการแสดงนำของนักแสดงเพียงคนเดียวเป็นตัวหลัก โดยมีคนอื่นๆ เป็นเพียงแค่ตัวประกอบเล็กๆ น้อยๆ หรือบางเรื่องก็แทบไม่มีนักแสดงคนอื่นๆ เลย วันนี้เพชรมายาจึงขอรวบรวมภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดที่ใช้นักแสดงนำเพียงคนเดียวเป็นตัวเดินเรื่องตลอดทั้งเรื่อง มาลองดูกันว่า เรื่องไหนจะอยู่ในดวงใจของคุณกันบ้าง
1. The Shallows (2016)
แนนซี่ รับบทโดย เบลค ไลฟ์ลี นักเล่นกระดานโต้คลื่น ที่กำลังดื่มด่ำความสวยงามอยู่บนเกาะที่เป็นเหมือนดั่งสวรรค์ แต่จู่ๆ เธอต้องพบกับฉลามที่แสนดุร้ายบุกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว หนังเรื่องนี้ทำให้ผู้ชมระทึกอยู่ตลอดเวลา ด้วยการแสดงของ เบลค ไลฟ์ลี ก็ทำให้เราต้องคอยเอาใจช่วยเธอจนแทบหยุดหายใจ
2. Duel (1971)
หนังเรื่องแรกของสตีเว่น สปีลเบิร์ก ที่ใช้เวลาถ่ายทำเพียงแค่ 13 วัน เท่านั้น ซึ่งเรื่องราวในภาพยนตร์เริ่มจากชายคนหนึ่งไปทำให้คนขับรถบรรทุกไม่พอใจ จึงเกิดการไล่ล่ากันบนท้องถนนตลอดทั้งเรื่อง ส่วนนักแสดงนำเรื่องนี้ก็คือ เดนนิส วีเวอร์ ที่แสดงได้ถึงบทบาทจริงๆ
3. All Is Lost (2013)
หนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดของ โรเบิร์ต เรดฟอร์ด โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเอาชีวิตรอดบนเรือยอชหรูท่ามกลางมหาสมุทรอินเดีย เมื่อทั้งพระเอกของเราต้องสูญเสียเครื่องนำทางและวิทยุสื่อสาร จนหลงทางไปเจอกับพายุรุนแรง แถมยังต้องพบกับปัญหาเสบียงที่ร่อยหรอ แถมยังมีฉลามที่รอคอยเขาอยู่ใต้ทะเลอีกด้วย
4. Cast Away (2000)
ทอม แฮงส์ รับบทเป็นประธานบริษัทเฟดเอกซ์ ที่เครืองบินเกิดเจอพายุและตกลงทะเลและไปติดอยู่ที่เกาะร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาต้องหาวิธีเอาชีวิตรอดบนเกาะแห่งนี้ให้ได้ เรื่องนี้ทำให้ ทอม แฮงส์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 73 ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมอีกด้วย
5. Locke (2013)
ทอม ฮาร์ดี รับบทเป็น อิวาน ล็อค ที่กำลังขับรถไปหากิ๊กสาวที่กำลังตั้งท้องลูกของเขาที่โรงพยาบาล หนังเรื่องนี้ถ่ายทำแค่ในรถคันเดียว โดยพระเอกของเรื่องต้องเจอกับปัญหาสารพัด ทั้งภรรยาและลูก รวมไปถึงเรื่องานใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาที่ทิ้งมากลางคัน โดยใช้วิธีการสื่อสารผ่านโทรศัพท์เท่านั้น ถือเป็นหนังที่ทรงพลังด้านอารมณ์มากๆ อีกเรื่องหนึ่ง ที่คนรักความดราม่าไม่ควรพลาด
6. Zulo (2005)
มิเกล (รับบทโดย Jaume García Arija) ชายวัย 40 ปี ที่วันหนึ่งตื่นขึ้นมาในบ่อน้ำร้าง รอบตัวเขามีเพียงแค่ถังน้ำกับผ้าห่ม สิ่งที่เขาจำได้คือ ถูกลักพาตัวโดยชายใส่หน้ากาก 2 คน ที่โยนเขาลงมา ซึ่งบางครั้งพวกเขาก็โยนบุหรี่ เศษชีส หรือเทียนลงมา จนเขาเริ่มรู้สึกว่าอาจจะไม่รอดถ้าต้องอยู่ในนี้ต่อไป หนังเรื่องนี้ออกแนวปรัชญาและทำให้เห็นจิตใจมนุษย์ได้เป็นอย่างดี
7. 1408 (2007)
ไมค์ นักเขียนนิยายสยองขวัญ ที่รับบทโดย จอห์น คูแซ็ค ที่ไม่เชื่อว่าผีมีจริง เดินทางไปสถานที่ต่างๆ ที่เคยว่าเฮี้ยนและมีผีหลอก เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าความเชื่อเหล่านั้นเป็นเพียงแค่ความเข้าใจผิด จนกระทั่งเขาได้มาลองของยังห้องพัก 1408 ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในระหว่างที่ไมค์ได้พยายามพิสูจน์ว่าผีไม่มีจริงอยู่ได้ไม่นานนั้น เขาก็ได้เห็นกับสิ่งที่ไม่เคยคาดฝันมาก่อน จนทำให้เขาตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต
8. Buried (2010)
ไรอัน เรย์โนลด์ รับบทเป็น พอลผู้รับเหมาในอีรัก หลังจากที่เขาถูกกองกำลังฝ่ายร้ายของอีรักโจมตีจนหมดสติ เมื่อเขาตื่นขึ้นมา จึงพบว่าตัวเองอยู่ในโลงศพไม้ที่ถูกฝังไว้ใต้ดิน ถูกมัดมือมัดเท้า มีแสงสว่างจากไฟแช็ค และมือถือที่มีแบตเหลือไม่มาก และเขาจะต้องพยายามเอาชีวิตรอดให้ได้จากสถานการณ์ที่คับขันสุดๆ นี้
9. Bronson (2008)
หนังอีกเรื่องของ ทอม ฮาร์ดี โดยหนังเรื่องนี้เล่าถึงชีวิตจริงของ ชาร์ล บรอนสัน อาชญากรที่มีชื่อเสียงที่สุดในเกาะอังกฤษ ถึงแม้หนังเรื่องนี้จะไม่ใช่หนังที่มีตัวแสดงเพียงคนเดียว แต่มันก็เกือบๆ เพราะนักแสดงคนอื่นเหมือนจะมีไว้เพียงประดับฉากเท่านั้น และ ทอม ฮาร์ดี ก็แสดงออกมาได้อย่างดีเยี่ยมทีเดียว
10. Moon (2009)
แซม ร็อคเวลล์ ที่รับบทเป็น แซม เบลล์ นักบินอวกาศ ที่อยู่บนดวงจันทร์ มา 3 ปี กับคอมพิวเตอร์คู่ใจ เกอร์ตี ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่แซมสื่อสารด้วย จนเขาเริ่มรู้สึกว่ามันนานเกินไป จนมีเหตุการณ์ที่ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บและเริ่มสงสัยถึงสถานะตัวเอง จนต้องพยายามหาทางกลับมายังโลกเพื่อพบหน้าลูกเมียอีกครั้ง
11. I Am Legend (2007)
เป็นเวลา 3 ปี ที่ โรเบิร์ต เนวิลล์ (รับบทโดย วิล สมิธ) เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่รอดชีวิตจากเชื้อไวรัสล้างโลก พยายามส่งข้อความผ่านคลื่นวิทยุทุกวัน เพื่อหาผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ เขาใช้ชีวิตอยู่กับสุนัขคู่ใจมาตลอด จนกระทั่งเขาได้เจอกับพวกกลายพันธุ์ที่เฝ้ารออยู่ในความมืดที่คอยไล่ล่าเขา จนต้องหาทางเอาชีวิตรอด และต้องหาทางรักษาผู้คนจากไวรัสนี้ให้ได้
12. Life of Pi (2012)
เรื่องราวของ ‘พาย’ ชายชาวอินเดียที่นับถือถึง 3 ศาสนา คือ ฮินดู คริสต์ และ อิสลาม ที่ต้องเจอกับเหตุการณ์เรือแตก และทำให้เขาต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังกับบรรดาสัตว์นานาชนิด และ ‘ริชาร์ด พาร์เกอร์’ เสือเบงกอลขนาดใหญ่ พร้อมด้วยการผจญภัยไปกับเรื่องราวที่น่าเหลือเชื่อต่างๆ มากมาย เรื่องนี้ทำให้หนุ่มน้อย สุราจ ชาร์มา ได้รับคำชมอย่างมากกับบทบาทของเขา
13. Brake (2012)
สตีเฟน ดอร์ฟ รับบทเป็น เจอรามี่ รีนส์ หน่วยสืบราชการลับที่ถูกจับตัวมาถูกขังอยู่เพียงลำพังพร้อมตัวเลขนาฬิกานับถอยหลัง หนังเรื่องนี้เกือบทั้งเรื่องมีเพียงแค่ฉากแคบๆ กับนักแสดงคนเดียว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกของหนังเรื่องนี้ลดลงเลย
14. Phone Booth (2002)
โคลิน ฟาร์เรลล์ รับบทเป็น สตู เชฟเฟิร์ด ที่ปรึกษาสื่อโฆษณา ที่ดันไปรับสายโทรศัพท์สาธารณะเข้าด้วยความไม่ตั้งใจหลังได้ยินเสียงโทรศัพท์ดัง หลังจากนั้นตำรวจและนักแม่นปืนก็บุกมาล้อมเขา เพราะคิดว่าเขาคือบุคคลอันตราย ส่วนชายที่อยู่ในสายก็ระบุว่า หากเขาวางโทรศัพท์เมื่อไหร่ ก็หมายถึงการตายสถานเดียว
15. Wrecked (2010)
เอเดรียน โบรดี รับบทเป็นชายคนหนึ่งที่ตื่นขึ้นมาในซากรถที่พังยับเยินด้านล่างของหน้าผาสูงชัน เขาติดอยู่ภายในรถและได้รับบาดเจ็บความจำของเขาก็เลือนหายไป เขาจึงต้องพึ่งพาสัญชาตญาณดั้งเดิมที่สุดของเขา เพื่อความอยู่รอดจากการสังหารและสถานการณ์ต่างๆให้ได้
16. Gravity (2013)
แซนดร้า บูลล็อค รับบทเป็น ดร.ไรอัน สโตน วิศวกรรมอัจฉริยะด้านการแพทย์ที่อยู่ในภารกิจบนยานอวกาศเป็นครั้งแรกร่วมกับแม็ตต์ โควัลสกี มนุษย์อวกาศที่มากประสบการณ์ (จอร์จ คลูนีย์) แต่ช่วงที่เดินสำรวจอวกาศได้เกิดเหตุร้ายขึ้น ยานอวกาศพังสิ้นสภาพจนสโตนและโควัลสกี้ต้องอยู่อย่างเคว้งคว้าง ไม่สามารถยึดติดกับสิ่งใดได้นอกจากพวกเขาที่ต้องโคจรออกไปในความมืดและความเงียบสงัด
17. 127 Hours (2010)
เป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริงของนักปีนเขาที่ชื่อ อารอน รัลสตัน (รับบทโดย เจมส์ ฟรังโก) ที่ประสบอุบัติเหตุหินหล่นลงมาใส่แขน จนทำให้เขาต้องติดอยู่อย่างโดดเดี่ยวในร่องหุบเขาที่ยูท่าห์เป็นเวลากว่า 5 วัน ซึ่งในระหว่างนั้นเขาต้องทดลองทำทุกวิถีทางที่พอจะคิดได้ เพื่อเอาชีวิตรอดกลับมาให้ได้
18. The Jungle Book (2016)
เด็กน้อยที่เติบโตมากับฝูงหมาป่า ที่ทุกคนน่าทราบเนื้อเรื่องกันอยู่แล้ว ถึงแม้ในภาพยนตร์เรื่องนี้จะเห็นหนุ่มน้อย นีล เซธี ผู้รับบทเป็นเมาคลี สนทนากับสัตว์ต่างๆ มากมาย แต่ในความเป็นจริง นอกจากหนูน้อยเซธีแล้ว ก็ไม่มีนักแสดงตัวเป็นๆ คนอื่นอีกเลย มีแต่เพียงการใช้เทคนิค CGI เท่านั้น
ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชมายา