ถ้าพูดถึง ชาร์ลี แชปลิน หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อของเขามาบ้างว่าเป็นดาวตลกชื่อดังในอดีตที่มีผลงานการแสดงภาพยนตร์เงียบที่โด่งดัง แต่คุณรู้จักชาร์ลีในมุมอื่นๆ นอกเหนือจากนี้บ้างหรือเปล่า ?
เซอร์ ชาลส์ สเปนเซอร์ แชปลิน จูเนียร์ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ชาร์ลี แชปลิน คือนักแสดงชาวสหราชอาณาจักรที่โด่งดังที่สุดของฮอลลีวู้ดเมื่อ 100 กว่าปีก่อน ผู้คนมักจดจำชาร์ลีได้จากบทบาท “คนจรจัด” (The Tramp) ที่แต่งกายด้วยหมวกทรงสูง ใบหน้าขาว และมีหนวดที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ภายใต้ใบหน้าอันไร้หนวดเขาคือชายหนุ่มผู้มีหน้าตาหล่อเหลา และชีวิตส่วนตัวของเขาก็ไม่ได้สวยหรูอย่างที่หลายคนคิด
ย้อนกลับไปในสมัยเด็ก พ่อของชาร์ลีเป็นนักร้องและนักแสดง ส่วนคุณแม่เองก็เป็นทั้งนักแสดงและนักร้องโอเปรา หลังจากที่พ่อและแม่หย่ากัน ชาร์ลีกับแม่และพี่ชายต่างพ่อก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างยากลำบาก จนวันหนึ่งแม่ของแชปลินซึ่งป่วยเป็นโรคหลอดลมอักเสบ ต้องหยุดแสดงกลางคันเพราะเจ็บคอ ไม่มีเสียง ผู้ชมโห่ฮาไม่พอใจอย่างมาก
ผู้จัดการเวทีไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร บังเอิญเหลือบไปเห็นเด็กน้อยชาร์ลี จึงพาออกมาแนะนำตัวต่อผู้ชมแล้วให้เขาแสดงแทน ชาร์ลีร้องเพลงและเต้นระบำตามที่แม่หัดให้โดยไม่เคอะเขิน การแสดงของเขาเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมอย่างไม่คาดฝัน และนั่นเป็นการแสดงบนเวทีครั้งแรกของเขา แต่เป็นครั้งสุดท้ายของแม่
แต่เมื่อแม่ไม่สามารถยึดอาชีพนักแสดงได้ต่อไป ความเป็นอยู่ในครอบครัวก็ลำบากขึ้น แชปลินและพี่ชายต้องเร่ขายของและทำงานรับจ้างหาเงินมาจุนเจือครอบครัว ในที่สุดแม่ก็เสียสติจนต้องเข้ารับรักษาตัวในโรงพยาบาลจิตเวช เขาและพี่ชายต้องเข้าพึ่งสถานสงเคราะห์เด็กอนาถา
แม้จะประสบปัญหาทางการเงิน แต่ความฝันของชาร์ลีก็ยังไม่หมดไป ทุกเย็นเขาจะไปเดินเตร่แถวสำนักจัดหานักแสดง เมื่ออายุ 12 ปี ชาร์ลีได้งานแสดงงานแรกเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์ชื่อ บิลลี ในละครเรื่อง เชอร์ล็อก โฮมส์ และได้งานต่อมาในเรื่อง Jim, The Romance of a Cockney และเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ชาร์ลีได้เข้ากลุ่มนักแสดงที่ชื่อ The Eight Lancashire Lads และได้รับความนิยมมากขึ้นจากฝีมือการเต้นแท็ปของเขา ซึ่งเพียงครั้งแรกที่แชปลินได้อวดฝีมือในการแสดง นักวิจารณ์ก็เขียนชมว่า “ชาร์ลีจะกลายเป็นดาราที่อนาคตสดใสแน่นอน”
ต่อมา ชาร์ลีได้มีโอกาสเดินทางไปอเมริกาโดยร่วมไปกับคณะละครของเฟรด คาร์โน และได้รับการติดต่อให้แสดงภาพยนตร์ของบริษัทคีย์สโตน ชาร์ลีสร้างความชื่นชอบให้แก่ผู้ชมด้วยภาพของตัวตลกที่สวมเสื้อคับ กางเกงหลวม รองเท้าขนาดใหญ่ สวมหมวกใบจิ๋ว ควงไม้เท้า และติดหนวดแปรงสีฟันเหนือริมฝีปากภาพยนตร์ทุกเรื่องของชาร์ลีทำรายได้อย่างงดงามเป็นที่กล่าวขวัญตามหน้าหนังสือพิมพ์และร้านกาแฟ หลังจากที่ประสบความสำเร็จทางด้านการแสดง แชปลินก็ขอเขียนบท กำกับการแสดงเอง รวมไปถึงแต่งเพลงประกอบในภาพยนตร์อีกด้วย
และนั่นทำให้ชาร์ลีได้มีโอกาสสร้างภาพยนตร์เป็นของตนเอง แถมยังได้รับบทบาทการแสดงในภาพยนตร์มากถึง 35 เรื่องต่อปี เขามีรายได้มากมายจนได้เซ็นสัญญากับบริษัทที่ใหญ่ขึ้น และทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีเบอร์ต้นๆ ของฮอลลีวู้ด จนได้รับฉายาว่าเป็นศิลปินอัจฉริยะของโลก
แต่ไม่ใช่ว่าอาชีพการงานของชาร์ลีจะรุ่งโรจน์เพียงอย่างเดียว เนื่องจากทัศคติทางด้านการเมืองของเขาค่อนข้างรุนแรง ภาพยนตร์ของเขาหลายเรื่องมีการสอดแทรกความคิดทางการเมืองของเขาไปด้วย จนในที่สุดทางรัฐบาลสหรัฐได้กล่าวหาว่าชาร์ลีเป็นผู้ฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ และมีความคิดทางการเมืองที่ขัดกับรัฐบาล จนทำให้ชาร์ลีถูกเนรเทศออกจากสหรัฐอเมริกาและห้ามกลับเข้ามาอีกในปี 1952
ในส่วนชีวิตครอบครัวของชาร์ลีเองไม่ได้ประสบความสำเร็จเหมือนกับอาชีพการงาน เขาผ่านการหย่าร้างกับนักแสดงสาวถึง 3 คน กว่าจะมาเจอรักแท้ในการแต่งงานครั้งที่ 4 และนั่นทำให้ชาร์ลีมีลูกชายและลูกสาวรวมแล้วกว่า 8 คนด้วยกัน
20 ปีต่อมา ในปี 1972 ชาร์ลี แชปลินกลับมายังสหรัฐอเมริกาอีกครั้งในรอบ 20 ปี เพื่อมาได้รับรางวัลออสการ์เกียรติยศ ในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 44 ซึ่งเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตที่ได้ขึ้นรับรางวัลออสการ์ด้วยตนเอง
เขากล่าวคำขอบคุณทุกคนที่ยังระลึกถึงเขาได้และเขารู้สึกซาบซึ้งใจมากจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ทุกคนในงานลุกขึ้นตบมือให้เขานานมากจนถึงกับบันทึกไว้ในสถิติของการจัดงานเลยว่าเป็นการสแตนดิ้งโอเวชั่นที่ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ของออสการ์
และในปี 1975 ชาร์ลีได้รับการแต่งตั้งจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ให้เป็นท่านเซอร์ ชาลส์ สเปนเซอร์ แชปลิน จูเนียร์ จนกระทั่งอีก 2 ปีต่อมา ชาร์ลี ได้จากไปอย่างสงบ เป็นอันปิดฉากตำนานดาวตลกระดับโลก ด้วยวัย 88 ปี และถึงแม้กาลเวลาจะผ่านไปนานกว่า 100 ปี ก็ยังไม่มีใครลืม ชาร์ลี แชปลิน ได้เลย
ที่มา : | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ