ถึงแม้ว่าเกาหลีเหนือจะเป็นประเทศที่คุณยากจะเข้าใจ โดยเฉพาะการกำจัดการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อปิดหูปิดตาประชาชนไม่ให้เห็นโลกภายนอก แต่เมื่อเร็ว นี้ ผู้แปรพักตร์รายหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยว่า ผู้ชายวัยหนุ่มชาวเกาหลีเหนือก็มีเกมฮิตในประเทศเช่นกัน
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ฮัง ซอนบี ผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือที่เปิดช่องยูทูปในชื่อว่า 장선비의한양살이 ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่น่าตกใจเกี่ยวกับเกาหลีเหนือว่า ผู้ชายในวัย 20-30 ปี นิยมเล่นเกม DotA2 เป็นอย่างมาก ที่สำคัญก็คือถ้าผู้ชายคนไหนบอกว่าไม่รู้จัก DotA แสดงว่าคุณไม่ใช่ผู้ชายอีกด้วย
เรื่องนี้ถูกนำมาเปิดเผยใน Reddit โดยสมาชิกนามว่า cnatspeakENG1207 จนกลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ทันที สมาชิกรายนี้กล่าวว่า เขาสงสัยว่ามันจริงหรือไม่ จึงได้สอบถามไปยังเพื่อนชาวเกาหลีเหนือคนหนึ่งที่เพิ่งหนีออกจากประเทศบ้านเกิดมาก็ทำให้ทราบความจริงมากยิ่งขึ้น
เพื่อนของเขากล่าวว่า เดิมทีชาวเกาหลีเหนือนิยมเล่น DotA ภาคแรกที่เป็น Mod หรือแผนที่หนึ่งในเกม Warcraft 3 ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเล่น DotA2 เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากพื้นที่ชายแดนระหว่างเปียงยางกับจีนและรัสเซียเปลี่ยนมาเล่น DotA2 กันหมด
และเนื่องจากเกาหลีเหนือห้ามใช้อินเทอร์เน็ต จึงทำให้พวกเขาต้องจับกลุ่มรวมตัวกันเล่นผ่านระบบ LAN ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในเกาหลีเหนือ เนื่องจากมันคือวัฒนธรรมตะวันตกที่ท่านผู้นำสูงสุดห้ามไม่ให้เข้าถึงเด็ดขาด
ภาพของท่านคิมที่ถูกนำมาตัดต่อทำเป็น meme เกี่ยวกับ DotA
ในขณะที่ชาวเน็ตมีความคิดเห็นที่หลากหลายเกี่ยวกับเรื่องนี้ เช่น
“น่าสนใจมาก ผมสงสัยว่าพวกเขาเล่นกันแพทช์ไหน ผมเดาว่าเนื่องจากอินเทอร์เน็ตถูกจำกัด พวกเขาต้องส่งไฟล์ติดตั้งเกมผ่านแฟลชไดรฟ์”
“เมต้าของพวกเขาจะต้องประหลาดมากเมื่อเทียบกับพวกเรา”
“พวกเขาอาจไม่มีแคร์รี ทุกเงินจะได้รับ Gold เท่ากันหมด”
“ความหวังใหม่ของวงการ DotA เกาหลี ในแบบที่ไม่มีใครคิดมาก่อน”
“ที่งาน TI14 ทีมแข่งเกาหลีเหนือโผล่ออกมาจากเงามืด ซ้อมหนักกันแบบ LAN ซึ่งทีมอื่นไม่เคยเห็นฝีมือพวกเขามาก่อน และตำนานของทีมเกาหลีเหนือก็ได้เริ่มต้นขึ้น”
“ทีมเกาหลีเหนือชนะงาน TI ทำให้ GDP เพิ่มขึ้น 20%”
“รอข่าวได้เลยว่า ทีมเกาหลีเหนือชนะ TI 10 ครั้งติดต่อกันโดยไม่เสียคิลและแพ้แม้แต่เกมเดียว”
นี่ถือเป็นเรื่องที่ทำให้เราแปลกใจไม่น้อยเนื่องจากหลายคนเชื่อว่าจะมีแต่ชนชั้นสูงเท่านั้นที่จะมีคอมพิวเตอร์ได้ แต่เรื่องนี้ก็สะท้อนให้เราได้เห็นว่า การปิดหูปิดตาประชาชนของเกาหลีเหนือไม่อาจทำได้อย่างมิดชิดตลอดไป
ที่มา : Youtube | reddit | เรียบเรียงโดย เพชรมายา