ถึงแม้คะแนนรีวิวจะสะท้อนคุณภาพและบริการของร้านอาหารต่าง ๆ ได้ แต่มันก็อาจไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป ถ้าการรีวิวคะแนนต่ำ ๆ เกิดจากความเข้าใจผิดของลูกค้าเอง เหมือนกับเรื่องราวต่อไปนี้
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ลูกค้ารายหนึ่งที่เพิ่งเขียนรีวิว 1 ดาวให้กับ Cafe Van Gogh ในเมืองบริกซ์ตันที่เป็นคาเฟ่สำหรับชาววีแกนโดยเฉพาะ โดยลูกค้ารายนี้กล่าวว่า
“ร้านกาแฟแห่งหนึ่งที่ไม่มีนมปกติธรรมดา”
“เป็นประสบการณ์ที่ประหลาดมาก ร้านบอกว่า ‘เป็นมิตรกับวีแกน’ แต่นี่คือร้านเฉพาะวีแกนเท่านั้น ฉันถูกบังคับให้กินคาปูชิโนนมข้าวโอ๊ต มันรสชาติเหมือนโจ๊กเลย”
ดูเหมือนว่าลูกค้ารายนี้จะไม่พอใจเรื่องที่เธอสั่งกาแฟคาปูชิโน แต่แทนที่จะได้นมปกติ เธอกลับได้เป็นนมข้าวโอ๊ตแทน
แต่เจ้าของร้าน สตีฟ คลาร์ก และ โบนิตา เดอ ซิลวา ไม่ได้นิ่งเฉยกับเรื่องนี้ และทั้งคู่ก็ออกมาตอบโต้การรีวิวครั้งนี้อย่างจัดเต็ม
“สวัสดี คุณก้าวเข้ามาในคาเฟ่วีแกนแท้ ๆ เราไม่ได้ขอโทษสำหรับเรื่องนี้ มันเป็นส่วนสำคัญของจุดยืนด้านจริยธรรมของเรา”
“คุณถูกถามว่าคุณอยากได้นมข้าวโอ๊ตหรือนมถั่วเหลือง คุณจะไม่เอาอะไรเลยก็ได้ แต่คุณก็อนุญาตให้เรา ‘บังคับ’ คุณให้ดื่มคาปูชิโนที่คุณไม่ได้ชอบ”
“ด้วยเหตุผลที่เราไม่รู้ คุณไม่ได้พูดกับกับพนักงานเราเลยในตอนนั้น (เราจะได้ไม่ต้องคิดเงินคุณ) แต่คุณเลือกที่จะสมัครเว็บ Tripadvisor เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์อันเลวร้ายของคุณด้วยการให้ 1 ดาวกับเรา (ที่ไม่ได้พูดถึงคาเฟ่เราเลย มันแค่การลิ้มรสของคุณเฉย ๆ”
“คุณได้สร้างรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าให้กับพวกเราทุกคน เราชอบนักรบคีบอร์ดนะ และเราก็หวังว่าจะไม่ได้ทำร้ายคุณที่มั่นใจอะไรผิด ๆ แบบนี้”
เมื่อถูกถามว่าเหตุการณ์ในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนหรือไม่ที่ลูกค้าไม่ทราบว่าอาหารและเครื่องดื่มภายในร้านเป็นวีแกนทั้งหมด สตีฟกล่าวว่ามันไม่ควรเกิดขึ้น
“มันอยู่ในเมนูของเรา บนกระดานดำ บนเว็บไซต์ และบนโปรไฟล์โซเชียลมีเดียของเรา และมักจะถูกพูดอยู่เสมอเวลามีคนสั่งกาแฟเพื่อให้เรารู้ได้ว่าต้องใช้นมอะไร”
ในขณะที่เรื่องนี้ได้กลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ ก็มีชาวเน็ตมากมายมาให้กำลังใจทางร้าน เช่น
“มันคือคาเฟ่วีแกนแท้ ๆ คุณจะไปหาอย่างอื่นที่ไม่ใช่ของวีแกนได้อย่างไร”
“บังคับงั้นหรือ ? คุณหมายถึงว่าคุณถูกมัดกับเก้าอี้แล้วถูกเอานมข้าวโอ๊ตมาใส่ในตัวคุณโดยที่คุณไม่ยินยอมหรือไง ถ้าพวกเขาบอกไม่มีนมวัวปกติ แล้วมีทางเลือกอื่น ๆ แต่คุณก็เลือกนมข้าวโอ๊ตไง”
“พอบอกว่าถูกบังคับ ผมนี่จินตนาการไปถึงลูกค้าที่ถูกมัดกับเก้าอี้แล้วก็มีใครบางคนเอานมข้าวโอ๊ตมากรอกปากเลย”
“ต้องขอบคุณเกรียนคีบอร์ดที่ทำให้ทางร้านได้โฆษณาฟรีไปด้วย”
แต่ชาวเน็ตบางคนก็ไม่ได้เห็นด้วย โดยเฉพาะทางร้านที่ใช้คำว่า “เป็นมิตรกับวีแกน” ที่อาจทำให้ลูกค้าสับสน
“ฉันคิดว่าการใช้คำว่า ‘เป็นมิตรกับวีแกน’ หมายถึงว่ามันคือคาเฟ่ที่รองรับชาววีแกนเช่นเดียวกับลูกค้าทั่วไปนะ ตัวอย่างเช่น ร้านอาหารที่บอกว่าเป็นมิตรกับสุนัข ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องต้อนรับลูกค้าที่มีสุนัขเท่านั้น”
“วีแกนคาเฟ่ก็ควรใช้คำว่า ‘วีแกนคาเฟ่’ การใช้คำว่าเป็นมิตรแบบนี้จะทำให้ผู้คนเข้าใจผิดได้”
“ผมคิดว่าประเด็นที่ลูกค้าต่อว่าก็คือ คาเฟ่ใช้คำว่า ‘เป็นมิตรกับวีแกน’ แทนที่จะเป็นคำว่า ‘วีแกน’ เฉย ๆ เพราะมันเหมือนกับว่าคาเฟ่แห่งนี้ต้อนรับผู้คนทั้ง 2 กลุ่ม”
“ลูกค้าเป็นฝ่ายถูกนะ ถ้าบอกว่า ‘เป็นมิตรกับวีแกน’ ลูกค้าก็คาดหวังว่าจะมีเมนูสำหรับคนที่ไม่ใช่วีแกนเป็นทางเลือกบ้าง”
“ลูกค้าไม่ได้โจมตีมุมมองของคุณหรือเมนูของคุณ แค่เขาชี้ให้เห็นว่า ร้านไม่มีทางเลือกให้สำหรับคนที่ไม่ใช่วีแกน คนที่ใจแคบน่าจะเป็นเจ้าของร้านมากกว่า”
และนี่ก็เป็น 2 มุมมองที่แตกต่างกันไป แล้วคุณล่ะอ่านเรื่องนี้จบแล้วคิดว่าใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายถูก
ที่มา : boredpanda | tripadvisor | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
