หลายคนทราบเรื่องราวของ คิม จองอึน ผู้นำของประเทศเกาหลีเหนือว่าเป็นผู้นำจอมเผด็จการที่มักถูกชาวเน็ตนำมาล้อเลียนอยู่บ่อยครั้ง แต่สิ่งที่หลายคนไม่เคยทราบเลยก็คือ ในสมัยเด็กๆ ท่านคิมเคยศึกษาที่โรงเรียนนานาชาติเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในระหว่างปี 1988-2000 และนั่นทำให้ชีวิตของเขาเสี้ยวหนึ่ง กลายเป็นที่รู้จักให้กับชาวโลกมากขึ้น ผ่านคำบอกเล่าของบรรดาเพื่อนในสมัยเด็กนั่นเอง และวันนี้เพชรมายาจะขอพาทุกท่านไปรู้จักตัวตนของท่านคิมมากขึ้น ผ่านคำบอกเล่าจากปากเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเขากัน
1. ท่านคิมไม่ได้ใช้ชื่อจริงในการเรียน
ไม่มีใครคิดว่าผู้นำจอมเผด็จการของประเทศเกาหลีเหนืออย่าง คิม จองอิล ในตอนนั้นจะส่งลูกชายสุดที่รักมาเรียนที่สวิตเซอร์แลนด์ แน่นอนว่า คิม จองอึน เข้ามาในโรงเรียนด้วยชื่อปลอมว่า “ปาร์ค อึน” โดยอ้างว่าตนเองเป็นลูกชายของเจ้าหน้าที่ในสถานทูตเกาหลีเหนือในกรุงเบิร์น ซึ่งทั้งครูและนักเรียนในโรงเรียนต่างสังเกตว่าพ่อแม่ของเขาไม่เคยมาโรงเรียนแม้แต่ครั้งเดียว
2. ท่านคิมรักบาสเก็ตบอล, ชิคาโก บูลส์ และ แอร์ จอร์แดน
เช่นเดียวกับเด็กหนุ่มหลายคนในสมัยนั้น ท่านคิมมีกีฬาโปรดเป็นบาสเก็ตบอลในสมัยที่ ไมเคิล จอร์แดน และชิคาโก บูลส์ โด่งดังเป็นพลุแตก เพื่อนของท่านคิมกล่าวว่า ภายในอพาร์ทเมนท์ของเขาเต็มไปด้วยของที่ระลึกเกี่ยวกับ ชิคาโก บูลส์ และบาสเก็ตบอล ท่านคิมชอบใช้เวลาว่างวาดรูป ไมเคิล จอร์แดน แถมยังบอกอีกว่า รองเท้าในฝันของเขาคือ แอร์ จอร์แดน จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมตอนนี้เขาถึงกลายเป็นเพื่อนกับ เดนนิส ร็อดแมน ได้
3. ท่านคิมชื่นชอบหนังแอ็คชั่นมาก
ในปี 2009 เพื่อนของท่านคิมคนหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์กับ The Washington Post ว่า ท่านคิมค่อนข้างขี้อายเวลาที่ต้องท่ามกลางผู้คน โดยเฉพาะกับกลุ่มสาวๆ และในเวลาที่เขาไม่ได้ดูบาสเก็ตบอล ท่านคิมก็จะใช้เวลาดูหนังแอ็คชั่น โดยเฉพาะหนังของเฉินหลง และเล่นเครื่อง Play Station ซึ่งส่วนมากมักจะเป็นเกมแนวสงคราม
4. ท่านคิมมีผู้ติดตาม
การปรากฏตัวของท่านคิมในโรงเรียนค่อนข้างแปลกกว่าเด็กคนอื่นๆ เพราะเขามักจะมีผู้ติดตามอยู่ไม่กี่คน ที่จะปรากฏตัวทำหน้าที่คล้ายกับคนรับใช้บ้าง บอร์ดี้การ์ดบ้าง หรือเป็นผู้ช่วยก็มี อย่างเช่น จะมีผู้ติดตาม 2 คนที่คอยอัดวีดีโอเกมบาสเก็ตบอลให้กับท่านคิม เพื่อนๆ ของท่านคิมคิดว่ามันเป็นเรื่องแปลก แต่พวกเขาก็คิดว่ามันเป็นวัฒนธรรมของ “เกาหลี”
5. ท่านคิมเคยเผยความลับของเขา
แม้ว่าท่านคิมจะต้องเก็บเรื่องราวของครอบครัวและเชื่อจริงของเขาไว้เป็นความลับ แต่เขาก็เคยเผยความลับเกี่ยวกับตนเองให้เพื่อนร่วมชั้นรู้ อ้างอิงจาก เจา มิคาเอโล เพื่อนร่วมชั้นของท่านคิมได้บอกว่า ท่านคิมเคยประกาศเรื่องครอบครัวของเขาในระหว่างการพูดคุยกัน ซึ่งตอนนั้นเอง มิคาเอโลคิดว่าท่านคิมโกหก ซึ่งเขากล่าวว่า “ตามปกติแล้ว ลูกของผู้คนระดับนี้จะไม่ไปเรียนในโรงเรียนธรรมดา” มิคาเอโลให้สัมภาษณ์กับ CNN ในปี 2010
6. ท่านคิมเกลียดสปาร์เก็ตตี้ที่เย็นชืด
มิคาเอโลเองไปหาท่านคิมที่อพาร์ทเมนท์บ่อยๆ ในสำนักงานใหญ่ของสถานทูตเกาหลีเหนือ และเขาสังเกตได้ว่า ท่านคิมดูจะสงวนท่าทีเล็กน้อยเวลาที่อยู่กับคนในสถานทูต ครั้งหนึ่งทางสถานทูตได้เสิร์ฟสปาร์เก็ตตี้เย็นชืดให้กับพวกเขาทั้งคู่ ท่านคิมกล่าวด้วยท่าทีที่มีมารยาทกับคนรับใช้ด้วยคำพูดที่เฉียบคม มิคาเอโลเองกล่าวว่า เขาไม่เคยเห็นท่านคิมในลักษณะนี้มาก่อน
7. ท่านคิมชื่นชอบ Track Suit
Track Suit ก็คือชุดวอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในสมัยยุค 70 ซึ่งท่านคิมเองก็ชื่นชอบการแต่งตัวสบายๆ และชื่นชอบ Track Suit อย่างมาก ภายในตู้เสื้อผ้าของเขาประกอบด้วยชุด Track Suit ของไนกี้จำนวนมาก ที่เขาชอบใส่ไปโรงเรียนอีกด้วย
8. เขาไม่ใช่เด็กเรียนเก่ง
แม้ว่าท่านคิมจะอายุมากกว่าเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเขาถึง 2 ปี เพราะเขายังไม่ชำนาญภาษาเยอรมัน เขาก็ยังมีปัญหาเกี่ยวกับการตามเรียนให้ทันเพื่อนอยู่ดี ในปี 2012 สื่อยักษ์ใหญ่อย่าง Telegraph รายงานว่า ท่านคิมขาดเรียในปีการศึกษาแรกถึง 75 วัน และในปีที่สองถึง 105 วัน เขาสอบตกในวิชาวิทยาศาสตร์ และได้คะแนนในวิชาอื่นๆ ต่ำสุดๆ
9. ท่านคิมชื่นชอบสวิสชีสมากเป็นชีวิตจิตใจ
ท่านคิมเป็นนักกินตัวจริงมาตั้งแต่เด็ก เขาหลงรักสวิสชีสมากจนถึงขนาดให้พ่อครัวส่วนตัวของเขาไปเรียนในโรงเรียนสอนทำอาหารฝรั่งเศส เพื่อที่จะได้ทำเลียนแบบชีส Emmental ที่เป็นชีสแข็งชนิดหนึ่งของสวิสชีส เพื่อที่ท่านคิมเองจะกินในระหว่างที่เขาเป็นนักเรียนอยู่ที่นั่น และนี่อาจเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้น้ำหนักของเขาพุ่งขึ้นมามากถึง 40 กิโลกรัม ในระหว่างปี 2012-2016 ก็เป็นได้
10. ท่านคิมหายตัวไปกระทันหัน
ในขณะที่ท่านคิมยังเรียนไม่จบดี จู่ๆ เขาก็หายไปอย่างกระทันหันในช่วงปี 2000 โดยที่ไม่ได้บอกกล่าวเพื่อนๆ ว่า เขาหายไปไหนหรือหายไปเพราะอะไร “เราคิดว่าเขาอาจจะป่วยหรือเป็นอะไรบางอย่าง และอาจจะกลับมาเรียน” นิโคลา โควาเซวิช เพื่อนร่วมชั้นเรียนของเขากล่าวกับ The Washington Post “ผมหวังว่าเขาจะเป็นเผด็จการที่ดี แต่ผู้นำเผด็จการมักจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
ที่มา : mentalfloss | เรียบเรียงโดย เพชรมายา