มีคำกล่าวที่ว่า เมื่อตัดสินใจเลือกใช้ชีวิตจะเป็นโจร คุณอาจต้องใช้ชีวิตที่เหลือด้วยการหลบหนีไปตลอดชีวิต
เช่นเดียวกับเรื่องราวของนาย หลิว มู่ฝู ชายวัย 36 ปี ชาวเมืองเอิ้นชี มณฑลหูเป่ยของจีน ที่ตัดสินใจปล้นปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งร่วมกับพี่เขยของเขาและผู้สมรู้ร่วมคิดอีกคน พวกเขาลงเอยด้วยการปล้นเงินไปได้ 156 หยวน (ประมาณ 790 บาท)
หลังจากนั้นพวกเขาใช้เงิน 60 หยวนไปกับค่าอาหารและดอกไม้ไฟ ในขณะที่เหลือก็ถูกแบ่งกันคนละ 32 หยวน (ประมาณ 162 บาท) เท่านั้น
ต่อมาชายทั้งสามแยกทางกัน แต่แค่เพียงไม่นานตำรวจก็สามารถจับกุมชาย 2 คนเอาไว้ได้ ยกเว้นแค่เพียงนายหลิว เมื่อถึงจุดนี้ เขาตระหนักว่าตนเองคงใช้ชีวิตได้อย่างอิสระอีกไม่นาน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะซ่อนตัวจากผู้คน โดยที่ไม่เคยคิดเลยว่าอนาคตของตนเองต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร
นายหลิวใช้เวลาหลายวันซ่อนตัวอยู่ในป่าแห่งหนึ่งในขณะที่ตำรวจบุกค้นบ้านและสอบสวนครอบครัวของเขา ในที่สุดเขาก็หาที่ลงหลักปักฐานในถ้ำเล็ก ๆ เริ่มล่าสัตว์และเสาะหาอาหารในป่า บางครั้งเขาก็แอบเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อขโมยของต่าง ๆ เช่น มันฝรั่งและเนื้อสัตว์ และไปพบพ่อแม่ของเขาแค่เพียงไม่กี่นาที
นายหลิวใช้ชีวิตอยู่ในป่าตามลำพังกับสุนัขจรจัดไม่กี่ตัวที่เขาพามาอาศัยด้วยเพื่อป้องกันสัตว์ป่าในตอนกลางคืน การใช้ชีวิตในป่าเป็นไปอย่างราบรื่น ถึงแม้จะรู้สึกเหงาและเครียด แต่สิ่งที่เขากลัวยิ่งกว่าก็คือการถูกตำรวจจับ ถึงแม้ว่าพ่อแม่และภรรยาของเขาจะโน้มน้าวให้เขามอบตัวหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ
ดังนั้นเขาจึงใช้ชีวิตในป่าเป็นเวลานานถึง 14 ปีเต็ม โดยที่พลาดโอกาสใช้ชีวิตกับครอบครัว พลาดไปงานศพของพ่อและงานแต่งงานของลูกชาย แถมเขายังไม่เคยเห็นหน้าหลานตัวเองอีกด้วย
ในที่สุด เมื่อเดือนที่ผ่านมา เขาก็ตัดสินใจออกมามอบตัวกับตำรวจ
“ผมอายุ 50 ปีแล้ว ภรรยาของผมสุขภาพไม่ค่อยดี และผมก็มีหลานชายที่น่ารักคนหนึ่ง” นายหลิวกล่าว “ผมอยากมีชีวิตปกติ”
นายหลิวพาตำรวจไปยังถ้ำที่ซ่อนตัวของเขาที่กลายเป็นบ้านมาตลอด 14 ปีที่ผ่านมา มันตั้งอยู่ลึกเข้าไปในป่าบนภูเขาที่ห่างจากถิ่นฐานที่ผู้คนอาศัยอยู่ถึง 10 กิโลเมตร แต่ถึงแม้ว่าเขาจะหลบหนีไปซ่อนตัวไกลมาก แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาได้ยินเสียงผิดปกติหรือน่าสงสัย เขาจะหนีออกจากถ้ำและซ่อนตัวลึกเข้าไปในป่าอีก
แม้จะผ่านไปนานถึง 14 ปี แต่เขาก็ยังไม่สามารถหลบหนีโทษตามกฎหมายของจีนได้ นายหลิวต้องเผชิญกับข้อหาก่ออาชญากรรมที่เสี่ยงต่อการติดคุกถึง 3 ปี และเนื่องจากเขาใช้อาวุธระหว่างปล้น นั่นหมายความว่าโทษสูงสุดที่เขาได้รับอาจมากถึง 10 ปี ถึงแม้ว่าเงินที่เขาปล้นมาจะมีจำนวนเล็กน้อย แต่คดีปล้นชิงทรัพย์ถือเป็นความผิดทางอาญาที่ร้ายแรงมาก
โชคร้ายที่การขังตัวเองในป่าเป็นเวลา 14 ปี ไม่ได้ช่วยบรรเทาโทษทางอาญาของเขาได้แม้แต่นิดเดียว
ที่มา: odditycentral