ขึ้นชื่อว่าเมือง ย่อมเป็นสถานที่ๆ ก่อกำเนิดมาจากผู้คนที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน อยู่อาศัยกันมาจนเติบใหญ่กลายเป็นชุมชน มีอาคารบ้านเรือน มีสาธารณูประโภค ซึ่งมันไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่พิศดารเลย เว้นแต่เพียงว่า เมืองนั้นเป็นเมืองหลอกๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเหตุผลบางอย่าง เหมือนกับเรื่องราวดังต่อไปนี้ ที่เพชรมายาจะนำมาเสนอให้ชมกัน
1. Mcity, มิชิแกน, สหรัฐอเมริกา
Mcity เปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2015 เพื่อเป็นเมืองจำลองสำหรับการทดสอบการขับรถยนต์ขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติ โดยมีเนื้อที่กว้างถึง 80 ไร่ ที่เต็มไปด้วยถนน มีทางเท้า สัญญาณไฟจราจร ป้ายสัญลักษณ์บอกทาง และตึกจำลอง นอกจากนั้นที่นี่ยังถูกสร้างให้มีลักษณะความซับซ้อน เพื่อทดสอบอุปสรรคต่อการตอบสนองของรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ เช่น อุโมงค์ วงเวียน ถนนหลายเลน เส้นแบ่งเลนที่จากหายไป ลวดลายกราฟฟิตี้บนท้องถนน และอื่นๆ อีกมากมาย
สำหรับโครงการนี้ ได้รับทุนจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน รัฐบาลท้องถิ่น และภาคเอกชนอย่าง Ford, GM, Honda, Nissan, Toyota, State Farm, Verizon และ Xerox
2. กรุงปารีสจำลอง, ฝรั่งเศส
ในปี 2011 หนังสือพิมพ์ Le Figaro ได้เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดของ “กรุงปารีสจำลอง” ที่ถูกสร้างขึ้นในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อสับขาหลอกนักบินของเยอรมนี ให้หลงกลไปทิ้งระเบิดยังเมืองจำลอง แทนที่จะมาทิ้งลงกรุงปารีสของจริง โดยสถานที่ๆ ถูกสร้างอยู่บริเวณเขต Maisons-Laffitte ที่อยู่ห่างจากปารีสไป 15 ไมล์ โดยมีการติดตั้งระบบไฟฟ้า เพื่อสร้างแสงสว่างให้เหมือนของจริง มีการใช้ภาพวาดและยานพาหนะปลอมๆ มาตั้งไว้เพื่อหลอกอีกด้วย
ถึงแม้ว่าเมืองจำลองนี้จะถูกสร้างยังไม่เสร็จดี ก่อนที่ฝูงบินเยอรมันจะโจมตีครั้งสุดท้ายเดือนกันยายน 1918 และมันไม่เคยได้ใช้งานจริงเลย จนกระทั่งถูกทุบทิ้งหลังสงคราม
3. เมืองฝึกรับมือผู้ก่อการร้าย, เวอร์จิเนีย, สหรัฐอเมริกา
ในเดือนมกราคม 2014 หน่วยรบพิเศษ AWG ของกองทัพสหรัฐ ได้ใช้พื้นที่ขนาด 758 ไร่ เมืองจำลองขึ้นมาในเวอร์จิเนีย ที่ถูกออกแบบมาสำหรับฝึกรับมือกับผู้ก่อการร้าย โดยที่นี่มีทั้งตึกสถานทูตขนาด 5 ชั้น ธนาคาร โรงเรียน มัสยิด สนามฟุตบอล ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ และสถานีรถไฟใต้ดิน ที่สามารถใช้ขนส่งเดินทางได้จริง
โครงการที่มีราคาสูงถึง 96 ล้านเหรียญ หรือราวๆ 3,300 ล้านบาท ได้รับการออกแบบอย่างพิถิพิถันในทุกจุด เพื่อให้หน่วย AWG ที่ถูกก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2004 ได้ฝึกฝนการรับมือกับผู้ก่อการร้ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงลดช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้นด้วย
4. หมู่บ้านคีจอง-ดอง, เกาหลีเหนือ
หมู่บ้าน คีจอง-ดอง ที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนเกาหลีเหนือนี้ ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1953 ถ้าดูจากภายนอก ที่นี่ดูเหมือนเมืองปกติทั่วไปที่มีทั้งบ้านคน โรงเรียน หรือแม้แต่โรงพยาบาล แต่จริงๆ แล้วมันกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะถ้าหากคุณได้อยู่ในเขตปลอดทหาร ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ล่ะก็ คุณจะรู้ว่ามันคือ “หมู่บ้านโฆษณาชวนเชื่อ” ที่เอาไว้สร้างภาพให้ดูดีในสมัยนั้น
เกาหลีเหนืออ้างว่า เมืองแห่งนี้มีผู้อยู่อาศัยราว 200 ครอบครัว และเป็นภาพสะท้อนของความสำเร็จทางเศรษฐกิจของประเทศ แต่ถ้าสังเกตุดีๆ คุณจะไม่เห็นว่ามีมนุษย์คนไหนอาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้สักคนเดียว ที่นี่มีแต่อาคารคอนกรีตที่ไม่มีกระจกหน้าต่าง จะมีก็แต่เสาวิทยุกระจายเสียงที่ใช้เป่าหูด้วยคำโฆษณาชวนเชื่อ และมีเพียงคนกวาดถนนเท่านั้น ที่เข้ามาทำหน้าที่ให้ดูเหมือนว่ามีความเคลื่อนไหวอยู่ที่เมืองแห่งนี้
5. เมืองแห่งความอยู่รอด, เนวาดา, สหรัฐอเมริกา
ในปี 1955 สหรัฐอเมริกาได้มีการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์จำนวน 14 ลูกที่เรียกว่า “ปฏิบัติการกาน้ำชา” โดยพื้นที่สำหรับทดสอบคือทะเลทรายในรัฐเนวาดาที่เรียกว่า “ที่ราบยัคคา” และด้วยความต้องการทราบถึงผลกระทบของระเบิดนิวเคลียร์ที่เกิดขึ้น ทางกองทัพขึ้นได้สร้างเมืองที่ชื่อว่า “Survival Town” หรือเมืองแห่งความอยู่รอดขึ้นมา
เมืองแห่งนี้ประกอบไปด้วยบ้าน 2-3 ชั้น สถานีไฟฟ้า สถานีวิทยุ สถานีก๊าซโพรเพน รวมถึงหุ่นตุ๊กตาที่จำลองเป็นครอบครัวในบ้าน รวมถึงมีการนำอาหารแช่แข็งและอาหารกระป๋องไปเก็บไว้ในบ้าน เพื่อดูว่ามันจะปลอดภัยจากการโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์หรือไม่
หนึ่งในบ้านที่รอดจากแรงระเบิดอย่างไม่น่าเชื่อและได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย ตั้งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางระเบิดไปเพียง 6,800 ฟุต ส่วนบ้านบางหลังก็ยังสามารถตั้งตระหง่านอยู่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งคุณสามารถแวะไปเยี่ยมชมของจริงได้อีกด้วย
6. เมืองร้างที่เปลี่ยนไป, ไอร์แลนด์เหนือ
จากการที่ประเทศไอร์แลนด์เหนือได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพในการประชุม G8 ในเดือนมิถุนายนปี 2013 ทางรัฐบาลจึงใช้เงินราว 2 ล้านปอนด์หรือราวๆ 90 ล้านบาท ปิดบังเมืองที่ถูกทิ้งร้างด้วยป้ายโฆษณา พวกเขารื้อทำลายสิ่งที่เกะกะสายตาออกและติดตั้งรั้วรักษาความปลอดภัย ตามเส้นทางที่ขบวนผู้นำประเทศต้องผ่าน
เมืองใหม่ที่ดูปลอมๆ ถูกสร้างขึ้นแบบโรยหน้า อดีตร้านขายเนื้อที่ซอมซ่อ ถูกสติ๊กเกอร์นำไปปิดกระจกเพื่อให้ดูเหมือนว่ามีเนื้อขายเพียบ และธุรกิจกำลังรุ่งเรือง ส่วนอีกฟากของถนน ห้องเปล่าๆ ก็ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นร้านค้าและสำนักงานอีกด้วย
7. เมืองแอโกล, นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา
เมืองแอโกล (Agloe) ในนิวยอร์ก ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อเป็นกลอุบายเกี่ยวกับการเขียนแผนที่ในทศวรรษที่ 1930 แต่สุดท้ายมันได้กลายเป็นสถานที่ๆ มีอยู่จริง
กลอุบายที่พูดถึงก็คือ ในกลุ่มของนักเขียนแผนที่ก็มักจะมีการก๊อปปี้งานสร้างแผนที่กันอยู่เสมอ ดังนั้น ออตโต จี. ลินด์เบิร์ก จากบริษัท General Drafting และผู้ช่วยของเขา เออเนสต์ อัลเปอร์ส จึงได้คิดกลอุบายขึ้นมา เพื่อที่จะได้รู้ว่า มีใครบ้างที่ก๊อปงานเขียนแผนที่ของพวกเขาไป ซึ่งกลอุบายนั้นก็คือการสร้าง เมืองที่ไม่มีอยู่จริงขึ้นมา ซึ่งเมืองนั้นก็คือเมืองแอโกลนั่นเอง และแล้วบริษัทเขียนแผนที่ชื่อดังอย่าง Rand McNally ก็ติดกับ เพราะในแผนที่ของพวกเขาก็มีเมืองแอโกลอยู่ด้วย
ต่อมามีร้านค้าไปเปิดแถวนั้นโดยใช้ชื่อว่า แอโกล เจเนอรัล สโตร์ เนื่องจากเจ้าของเห็นชื่อแอโกล บนแผนที่ๆ ถูกจัดจำหน่ายโดยบริษัทน้ำมัน Esso ที่ซื้อลิขสิทธิ์แผนที่ของลินด์เบิร์กและอัลเปอร์สมาอีกที และกลายเป็นว่าคนแถวนั้นก็ยึดชื่อแอโกล จนกลายเป็นสถานที่ๆ มีอยู่จริงในที่สุด
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
ที่มา : oddee | เรียบเรียงโดย เพชรมายา