ถ้าพูดถึงสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ได้ถูกแบ่งหมวดหมู่เรียบเรียงเอาไว้มากมาย บ้างก็มีการแบ่งเป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคโบราณ ยุคกลาง และยุคใหม่ ซึ่งรายชื่อสถานที่ๆ คุ้นหูกันดีโดยที่ไม่ได้แบ่งว่าเป็นยุคไหน ก็มีอย่าง กำแพงเมืองจีน มหาพีระมิดแห่งกิซ่า ทัชมาฮาล โคลอสเซียม หอเอนเมืองปิซา สโตนเฮนจ์ นครเปตรา รูปปั้นพระเยซูคริสต์ และอื่นๆ อีกมากมาย
แต่วันนี้เพชรมายาจะขอนำเสนอ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ถูกลืม และคุณอาจไม่เคยได้ยินชื่อสถานที่เหล่านี้เลย แต่ว่ามันมีความมหัศจรรย์ จนสามารถเทียบได้กับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกชื่อดังได้อย่างสบายๆ มาลองดูกันว่า จะมีสถานที่ไหนกันบ้าง
1. มัสยิดแห่งเจนเน (Great Mosque of Djenné), มาลี
มัสยิดแห่งเจนเน ที่ตั้งอยู่ในเมืองไนเจอร์ เดลตา ประเทศมาลี มีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี โดยถือเป็นอาคารที่ทำจากอิฐดินดิบที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ในปี 1988 องค์การยูเนสโก ได้จัดให้มัสยิดแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในมรดกโลก แต่ปัจจุบัน มัสยิดแห่งนี้ถูกปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ส่วนภาพด้านล่างต่อไปนี้ คือภาพที่ถูกแอบถ่ายเพื่อไปลงในนิตยสาร Vogue ในปี 1996
2. แชนด์ เบารี (Chand Baori), อินเดีย
แชนด์ เบารี ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีชื่อว่าอับฮาเนรี ซึ่นี่คือสถาปัตยกรรมบันไดที่เก่าแก่ที่สุดและลึกที่สุดในโลก โครงสร้างที่ใหญ่โตมหึมานี้ คล้ายกับโครงสร้างพีระมิดที่ลึกลงไปใต้ดินราว 100 ฟุต มีกำแพง 3 ด้าน ที่ประกอบไปด้วยขั้นบันไดทรงแคบกว่า 3,500 ขั้น ที่เชื่อมต่อกันลาดลงไปสู่บ่อน้ำสีเขียวเล็กๆ ตรงกลาง
ความลึกทั้งหมดของสถาปัตยกรรมบันไดนี้ อยู่ที่ราวๆ 30 เมตร หรือเทียบเท่ากับตึก 13 ชั้นเลยทีเดียว
นักวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ยังคงทึ่งในผลงานการก่อสร้างของคนโบราณซึ่งคาดว่าบันไดเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาในศตวรรษที่ 9-11 หรือประมาณ 600 ปีก่อน
3. พระราชวังแห่งรัฐสภา (Palace of the Parliament), โรมาเนีย
หนึ่งในแลนด์มาร์กที่สำคัญที่สุดในเมืองบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย โดยถูกสร้างมาตั้งแต่ในสมัยที่โรมาเนียยังเป็นสาธารณรัฐสังคมนิยม
พระราชวังแห่งนี้ถูกพิจารณาให้เป็นอาคารบริหารพลเรือนที่แพงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก โดยงบการก่อสร้างของพระราชวังแห่งนี้มากมายมหาศาสถึง 3,300 ล้านยูโร หรือราวๆ 1.28 แสนล้านบาท
ส่วนความใหญ่โตของที่นี่ ประกอบไปด้วยความสูง 12 ชั้น ชั้นใต้ดินอีก 8 ชั้น มีห้องกว่า 3,100 ห้อง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว่า 330,000 ตารางเมตร
4. สะพานโค้งสตารี (Stari Most), บอสเนีย-เฮอร์เซโกวินา
สะพานแบบโค้งเก่าแก่ ที่ถูกสร้างเอาไว้ข้ามแม่น้ำเนเรทวา ในเมืองโมสตาร์ ได้ถูกบูรณะขึ้นใหม่หลังจากที่เคยถูกทำลายลงโดยกองกำลังทหารบอสเนีย-โครเอเชีย ในปี 1993
สะพานแห่งนี้ถูกจัดให้อยู่ในรายชื่อมรดกโลกเมื่อปี 2005 ซึ่งหากนักท่องเที่ยวคนไหนสนใจความท้าทายอย่างการกระโดดสะพานลงสู่แม่น้ำด้านล่างที่ระดับความสูง 24-30 เมตรล่ะก็ สามารถมาลองได้เลยที่นี่
5. ป้อมคุมบาห์การ์ท (Kumbhalgarh Fort), อินเดีย
อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจในประเทศอินเดีย นั่นก็คือ ป้อมคุมบาห์การ์ท ที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งที่นี่ถูกเรียกขานกันในนาม “ผู้พิทักษ์แห่งความตาย” หรือ “ดวงตาแห่งเมวาร์”
สิ่งที่โดดเด่นของป้อมแห่งนี้ ก็คือกำแพงที่มีความยาวถึง 36 กิโลเมตร และในบางจุดก็มีความสูงถึง 8 เมตร ซึ่งด้วยขนาดที่ใหญ่โตมหาศาล มันจึงใช้เวลาสร้างนานนับ 100 ปี ตั้งแต่ศตวรรษที่ 15-16 และถึงแม้มันจะผ่านศึกสงครามมามากมาย แต่มันก็ไม่เคยได้รับความเสียหาย หรือพ่ายให้กับศัตรูเลย
6. มัสยิดชีคลอฟ ฟลูเลาะห์ (Sheikh Lotfollah Mosque), อิหร่าน
สถาปัตยกรรมชิ้นเอกของราชวงศ์ซาฟาวิดที่เคยปกครองอิหร่านในอดีต โดยมัสยิดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1602-1619 โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นมัสยิดส่วนตัวของราชวงศ์
ตัวโดมมีความสูงถึง 13 เมตร และมีจุดเด่นที่การตกแต่งภายในที่สวยงามด้วยกระเบื้องโมเสคทั่วทุกแห่ง ซึ่งถ้าหากคุณได้มีโอกาสเข้าไปในมัสยิดแห่งนี้ จะสัมผัสกับความอลังการได้อย่างแน่นอน
7. ป้อมเดราวาร์ (Derawar Fort), ปากีสถาน
ป้อมปราการที่มีรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์แห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1733 โดยภายในป้อมแห่งนี้ ประกอบไปด้วยป้อมปราการเล็กๆ ถึง 40 ป้อม ตั้งตระหง่านรวมกันอยู่ท่ามกลางทะเลทรายโชลิสทาน
กำแพงของป้อมเดราวาร์ มีเส้นรอบวงถึง 1,500 เมตร และสูงถึง 30 เมตร ด้วยความที่คนท้องถิ่นไม่ค่อยพูดถึงป้อมแห่งนี้มากนัก นั่นทำให้นักท่องเที่ยวจึงไม่ค่อยทราบถึงการมีอยู่ของสถาปัตยกรรมที่สวยงามแห่งนี้
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา