กลายเป็นกระแสโด่งดังขึ้นมาอีกครั้ง สำหรับเกมสุดสยองอย่าง Momo Game หรือ Momo Challenge ที่ถูกกล่าวอ้างว่ากำลังแพร่กระจายอยู่บนโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ แต่ก่อนอื่นมีหลายเรื่องที่เราต้องทำความเข้าใจที่มาที่ไปของเกม Momo รวมไปถึงเจ้าของภาพสุดสยองนี้กันเสียก่อน ว่ามันคืออะไร แล้วเรื่องราวนี้เป็นจริงหรือไม่ ?
1. Momo Challenge คืออะไร ?
นี่คือเกมท้าทายเป็นรูปแบบหนึ่งของการกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต ที่แพร่กระจายอยู่ในแอปพลิเคชัน WhatsApp เมื่อผู้คนสามารถส่งข้อความไปยังหมายเลขที่ไม่รู้จัก และตัวละคร Momo ลึกลับจะส่งคำท้าทายที่อันตรายกลับมา ซึ่งความท้าทายนี้จะมีตั้งแต่การให้ทำอะไรแผลงๆ จนรุนแรงไปถึงขั้นจบชีวิตตัวเอง
2. ที่มาของ Momo Challenge
ในนช่วงกลางปี 2018 ได้เกิดข่าวลือว่าการเล่น Momo Challenge เป็นสาเหตุการคิดสั้นของเด็กหญิงอายุ 12 ในประเทศอาร์เจนตินา ทางตำรวจได้มีการสืบสวนถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นว่าใครที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ แต่ปรากฏว่าไม่มีการเชื่อมโยงไปถึงเกมหรือการท้าทายใดๆ
3. การแพร่กระจายใน Youtube
เรื่องราวไม่ได้จบเพียงแค่นั้น เมื่อมีข่าวลือว่าใครบางคนพยายามหยิบเอา Momo Challenge มาแทรกอยู่ในวีดีโอเด็ก เช่น Peppa Pig โดยมีการโน้มน้าวให้เด็กติดต่อไปยังเบอร์ WhatsApp ปริศนา
4. กลายเป็นกระแสไปทั่วโลกโซเชียล
เมื่อเกม Momo Challenge เริ่มถูกสื่อตีข่าวอย่างครึกโครม ทางผู้เชี่ยวชาญ ครูอาจารย์ โรงเรียน จนไปถึงรัฐบาลต่างก็มีการประกาศเตือนไปถึงผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดในเรื่องการเสพสื่อออนไลน์
5. เรื่องราวได้หายไป และกลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง
หลังจากเป็นข่าวดังได้พักใหญ่ เรื่องราวของ Momo ก็เงียบหายไป แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีกระแสการท้าทายมรณะกลับมาอีกรอบ โดยเฉพาะในอังกฤษและอเมริกา โดยการกลับมาในครั้งนี้จะเป็นการแทรกหน้าของ Momo เข้าไปในบางช่วงของคลิปการ์ตูนดังๆ เพื่อสั่งให้เด็กทำเรื่องรุนแรง
6. Youtube ยืนยันว่าไม่พบ Momo
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Youtube ได้ทำการทวิตเกี่ยวกับ Momo Challenge ว่า ไม่มีการพบหลักฐานคลิปวีดีโอที่สนับสนุนการเล่น Momo Challenge บนช่องยูทูป ซึ่งวีดีโอในลักษณะนี้ถือว่าเป็นเรื่องอันตรายและผิดต่อนโยบายของทางยูทูปอยู่แล้ว
7. หน่วยงานต่างๆ ชี้ Momo เป็นเรื่องเท็จ
มีหลากหลายสมาคมทั้งองค์กรอิสระ และองค์กรรัฐ ได้ออกมาชี้ตรงกันว่า ยังไม่พบหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่ามีการเล่น Momo Challenge เกิดขึ้นจริง ไม่ว่าจะในอังกฤษ อเมริกา หรือในประเทศอื่นๆ
8. ที่มาของใบหน้า Momo สุดสยอง
ใบหน้าสุดหลอนที่กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของ Momo Challenge แท้จริงแล้วเป็นแค่เพียงงานประติมากรรมที่มีชื่อว่า Mother Bird ซึ่งเป็นผลงานศิลปินชาวญี่ปุ่น เคสุเกะ ไอโซะ ที่ถูกจัดแสดงอยู่ใน Link Factory โดยทางศิลปินเองก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย
9. ปิดตำนานรูปปั้น Momo
ล่าสุดทางเคสุเกะเอง ก็ได้ตัดสินใจที่จะทำลายงานปั้นชิ้นนี้ที่เขาสร้างมากับมือ เนื่องจากภาพลักษณ์ของมันถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดอย่างมหันต์ เคสุเกะกล่าวว่า
“มันไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้วตอนนี้ มันเน่าเสียและผมก็โยนมันทิ้งไป เด็กๆ มั่นใจได้เลยว่า โมโม่ได้จากไปแล้ว เธอไม่มีอยู่อีกและคำสาปก็ได้หายไปเช่นกัน”
“ผมมีความรู้สึกที่ผสมปนเปกันอยู่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ใจหนึ่งผมก็รู้สึกไม่ดีที่มันเป็นสาเหตุของเรื่องเลวร้าย แต่อีกใจหนึ่งในฐานะศิลปิน ผมก็รู้สึกยินดีที่ผลงานของผมได้ออกไปสู่สายตาคนทั้งโลก”
“ผมสร้างผลงานนี้ขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน ตอนนั้นมันถูกจัดแสดงอยู่ที่นิทรรศการแห่งหนึ่ง แต่มันไม่ได้รับความสนใจมากนัก ตอนนั้นผมรู้สึกผิดหวังมาก ผู้คนอาจไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แต่เห็นได้ชัดว่ามันส่งผลกระทบต่อความรู้สึกเด็กๆ ผมรู้สึกว่าเป็นคนก่อปัญหา ทั้งหมดเป็นความรับผิดชอบของผม”
แต่เด็กๆ ก็ยังอ่อนไหวต่อโลกออนไลน์อยู่ดี
ถึงแม้ Momo Challenge จะเป็นเพียงแค่ Hoax หรือเรื่องหลอกลวงบนอินเทอร์เน็ต แต่พ่อแม่ผู้ปกครองก็ยังต้องระมัดระวังในเรื่องของการเสพสื่ออนไลน์ในเด็กเล็กอยู่ดี การดูแลอย่างใกล้ชิด โดยไม่ปล่อยให้เด็กอยู่บนหน้าจอตามลำพังเป็นระยะเวลานาน ถือเป็นการช่วยป้องกันได้ในระดับหนึ่ง ที่สำคัญพ่อแม่ผู้ปกครองควรสอน ทำความเข้าใจ และพูดคุยรับฟังปัญหาของเด็กอยู่บ่อยๆ เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กต่อไปในอนาคตอีกด้วย
ที่มา : | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ