ลองจินตนาการว่า คุณเดินออกจากบ้านในช่วงบ่ายของวันแต่กลับพบว่าท้องฟ้าเหนือศีรษะของคุณมีแต่ความมืดมิดราวกับเวลากลางคืน มันจะน่ากลัวขนาดไหน
อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่าในช่วงที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ไฟป่าครั้งใหญ่ในบริเวณป่าอเมซอน จนส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงในประเทศแถบอเมริกาใต้ โดยเฉพาะในเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิลที่เจอหมอกควันหนาทึบปกคลุมแสงอาทิตย์จนไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน
ส่วนชาวเน็ตที่อาศัยอยู่ในเซาเปาโลต่างก็แชร์ภาพในช่วงบ่าย ตัวอย่างเช่นในคลิปนี้ เป็นช่วงเวลาประมาณ 14.00-15.00 น. แต่ท้องฟ้ากลับมืดสนิท จากหมอกควันและฝุ่นละเอียดที่ปกคลุมท้องฟ้า
ส่วนนี่คือช่วงเวลาประมาณ 15.50 น.
เวลาประมาณ 15.30 น. ซึ่งมืดมิดราวกับเมืองก็อดแธม ซิตี้
“นี่คือภาพจากหน้าต่างของฉันเวลา 15.50 น. ระหว่างฝนตก และพระอาทิตย์ก็ตกดินในอีก 2 ชั่วโมงต่อมา”
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความมืดมิด แต่มันคือผลกระทบที่เกิดจากฝุ่นควันจากไฟป่า ตัวอย่างเช่น นี่คือตัวอย่างจากชาวบ้านบางคนที่เก็บกักน้ำฝนเอาไว้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างจากจุดไฟป่าหลายพันกิโลก็ตาม
ถ้าจะว่ากันตามจริง จุดบริเวณที่เกิดไฟป่าอยู่ห่างจากเมืองเซาเปาโลถึง 2,730 กิโลเมตร แต่ด้วยกระแสลมที่พัดพาควันไฟเหล่านี้มา ทำให้เซาเปาโลต้องตกอยู่ในความมืดมิดตลอดเวลา
ส่วนเธอคนนี้กล่าวว่า ท้องฟ้าในเซาเปาโลตอนบ่าย 3 เป็นแบบนี้เนื่องจากจากไฟป่าอเมซอน ที่อยู่ห่างไปถึง 3,000 กิโลเมตร ไฟป่ายังคงลุกลามต่อเนื่องจากมากกว่า 15 วัน และยังไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้เลย
“สวัสดีตอนเช้า บางทีคุณอาจจะอยากรู้ว่าวันโลกแตกเป็นยังไง ? นี่คือเซาเปาโลเมื่อวานตอนบ่าย 3”
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับป่าอเมซอนก็คือ ที่นี่เป็นพื้นที่ป่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยเป็นแหล่งผลิตออกซิเจนมากถึง 20% ของปริมาณออกซิเจนทั้งหมดบนโลกใบนี้
สถาบันวิจัยอวกาศแห่ชาติของบราซิล (INPE) เปิดเผยตัวเลขที่น่าตกใจว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ไฟป่าเกิดขึ้นในแถบป่าอเมซอนไปแล้วกว่า 72,843 ครั้ง เพิ่มขึ้น 83% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หรือสัปดาห์ที่เกิดเหตุไฟป่ามากที่สุด มีจำนวนมากถึง 9,500 ครั้งเลยทีเดียว
ที่มา : | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ