ย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายนปี 2012 เด็กมัธยม 8 คนจากโรงเรียนเทคนิคแห่งหนึ่งในจังหวัดนะงะโนะ ได้จับกลุ่มกันทำโครงการ “ถ่ายภาพชั้นสตราโตสเฟียร์ด้วยบอลลูน” แต่ดูเหมือนว่างานกลุ่มของเด็กชายเหล่านี้จะไม่ได้ประสบความสำเร็จอย่างที่คิด
จากการคำนวณทิศทางลมเป็นที่เรียบร้อย ทั้งหมดได้ตัดสินใจปล่อยบอลลูนที่เมืองเอเฮจิ จังหวัดฟุกุอิ ซึ่งเป็นจุดที่ห่างไกลจากสนามบิน เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องฟ้า
และทำการติดกล้องเอาไว้ 2 ตัวที่ด้านข้างและด้านล่างของบอลลูน สำหรับการสำรวจชั้นบรรยากาศที่ระดับความสูงกว่า 30,000 เมตร มีการติดตั้งสมาร์ทโฟนเอาไว้เพื่อการติดตามตำแหน่งของบอลลูนผ่านสัญญาณ GPS รวมถึงข้อมูลติดต่อกลับเอาไว้ในกล่อง ในกรณีที่มีคนเก็บได้
แต่หลังจากที่บอลลูนลอยสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าที่ระดับ 8,600 เมตร พวกเขาก็ขาดการติดต่อกับบอลลูนไป จากข้อมูลที่บันทึกได้สรุปว่า ตำแหน่งที่สัญญาณขาดหายไปอยู่ห่างออกไปราว 260 กิโลเมตร พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตป่าในจังหวัดไซตามะ
ทั้งหมดนั่งรถเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าวโดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง แต่พวกเขาก็ไม่เคยพบอุปกรณ์ที่ติดตั้งไปกับบอลลูนอีกเลย
8 ปีต่อมา ในขณะที่ทุกคนลืมเรื่องนี้ไปหมดแล้ว จู่ ๆ ก็มีโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ป่าไม้คนหนึ่งโทรมาบอกกับคุณครูเจ้าของโครงการว่า เขาพบอุปกรณ์ดังกล่าวติดอยู่บนต้นไม้ ในเขตเทือกเขาฮิกิในจังหวัดไซตามะ ห่างจากจุดตกที่คำนวณไว้ประมาณ 20 กิโลเมตร และห่างจากจุดที่เด็ก ๆ ไปค้นหาเพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น
ไม่กี่วันต่อมา อุปกรณ์ทั้งหมดได้ถูกส่งคืนให้กับทางโรงเรียน และมีสมาชิกโครงการนี้ 5 คนมารวมตัวกันที่โรงเรียนเพื่อเปิดดูไฟล์วีดีโอที่ถูกบันทึกไว้
ในวีดีโอดังกล่าวมีความยาวกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง แสดงให้เห็นว่าบอลลูนค่อย ๆ ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า เหนือกลุ่มก้อนเมฆภายในเวลาไม่ถึง 7 นาที
จากนั้นบอลลูนได้ลอยสูงขึ้นจนไปถึงชั้นสตราโตสเฟียร์ได้อย่างที่ทุกคนตั้งใจไว้ และทำให้เราได้เห็นเส้นโค้งของโลกจนพวกเขาต่างพูดเป็นเสียงเดียวว่า “มันน่าทึ่งและสวยงามมาก”
หลังจากที่บอลลูนลอยขึ้นสูงไปประมาณ 32,000 เมตร ก็ระเบิดออกเหนือทะเลสาบซูวะ และทำให้เราได้เห็นภาพภูเขาไฟฟูจิจนกระทั่งมันตกลงมาติดบนต้นไม้ในป่าบนเทือกเขาฮิกิ
ทาคาฮิโระ มิยาอุจิ หนึ่งในนักเรียนมัธยมปลายที่ตอนนี้กลายเป็นพนักงานออฟฟิศกล่าวว่า “ผมรู้สึกประหลาดใจอย่างมากหลังต้องใช้เวลานานถึง 8 ปี กว่าจะมีคนค้นพบมัน ผมอยากจะขอบคุณคนที่ค้นพบมันจริง ๆ การมองเห็นโลกจากชั้นสตราโตสเฟียร์เหมือนกับที่ผมจินตนาการไว้ และผมดีใจที่ได้เห็นภาพนี้พร้อมกับเพื่อน ๆ ผม”
เรื่องราวของพวกเขาได้กลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ของญี่ปุ่น และทำให้ชาวญี่ปุ่นต่างรู้สึกว่าชีวิตในสมัยเรียนมัธยมปลายล้วนเต็มไปด้วยความฝันและจินตนาการ แตกต่างจากช่วงเวลาแห่งวัยทำงานที่เต็มไปด้วยความกดดันและความเครียด ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้พวกเขารู้สึกชุ่มชื่นหัวใจ หวนกลับไปนึกถึงในช่วงวัยเด็กอีกครั้ง
ที่มา : gigazine | minamishinshu | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ