ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่ผ่านมา ประวัติศาสตร์สอนให้เรารู้ว่าโลกสีฟ้าใบนี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และทุก ๆ การเปลี่ยนแปลงย่อมส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์มากน้อยแตกต่างกันไปตามยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นการสูญพันธ์ครั้งใหญ่ของสิ่งมีชีวิตที่เกิดมาหลายครั้ง หนึ่งในนั้นที่เรารู้จักกันดีคือการสูญพันธ์ของไดโนเสาร์ จนไปถึงยุคน้ำแข็งที่ทำให้โลกเราหนาวเหน็บไปอย่างยาวนาน
สำหรับในปัจจุบัน ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับโลกใบนี้กำลังมาจากฝีมือมนุษย์จนส่งผลให้เกิดสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป หรือที่เราเรียกว่า “สภาวะโลกร้อน” ตอนนี้ NASA ได้เผยแพร่ภาพชุดที่ชื่อว่า Images of Change ที่ทำให้เราเห็นว่า ตั้งแต่อดีตที่ผ่านมา โลกเราเปลี่ยนไปมากแค่ไหน และมันอาจทำให้เราคาดเดาอนาคตของเราได้ไม่ยาก
1. พื้นที่น้ำแข็งที่ปกคลุมทะเลอาร์กติกกำลังลงลงจนเหลือน้อยเป็นสถิติใหม่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
2. การหายไปของทะเลอารัล ในเอเชียกลาง ที่เคยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ตอนนี้แห้งเหือดหายไปจนเกือบหมด
3. ธารน้ำแข็ง Muir ในแอลัสกาที่ละลายหายไปจนหมด ในระยะเวลาเพียงครึ่งศตวรรษเท่านั้น
4. ทะเลสาบโพเวลล์ที่แห้งเหือดในแอริโซนาและยูทาห์ ปริมาณน้ำของมันหายไปมากกว่า 42%
5. ทะเลสาบ Poopó ในประเทศโบลิเวียซึ่งเป็นแหล่งประมงที่สำคัญของชุมชนท้องถิ่นได้แห้งลงอีกครั้ง จากการผันน้ำไปใช้ในการทำเหมืองและการเกษตร
6. สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างหนักส่งใผลให้เกิดหิมะตกในทะเลทรายซาฮารา หลังจากที่มันเคยตกมาครั้งสุดท้ายในปี 1979
7. การล่มสลายของธารน้ำแข็งบริเวณเทือกเขาของทิเบต จนส่งผลให้น้ำแข็งและหินก้อนใหญ่ตกลงมาในหุบเขาแคบ ๆ ในเทือกเขา Aru ของทิเบต จนส่งผลต่อชาวท้องถิ่นอย่างมาก
8. ธารน้ำแข็ง Okjökull ที่อยู่บนภูเขาไฟในประเทศไอซ์แลนด์กำลังละลายหายไปจาก 15 ตารางไมล์เหลือเพียง 1 ตารางไมล์เท่านั้น
9. น้ำแข็งที่ก่อตัวในทะเลแบริงในระหว่างฤดูหนาวปี 2017-2018 มีจำนวนลดลงอย่างมาก โดยปกติมันจะต้องครอบคลุมพื้นที่ทางทะเลมากกว่า 5 แสนตารางกิโลเมตร และตอนนี้มันลดลงเหลือเพียงแค่ 10% จากเดิมเท่านั้น
10. ในอีกฟากโลกอย่างนิวซีแลนด์ที่เต็มไปด้วยธารน้ำแข็งกว่า 3,000 แห่ง ก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน และมันจะไม่กลับไปมีขนาดเท่าเดิมอีก
11. การกัดเซาะที่เกิดขึ้นบนชายหาดทางตอนใต้ของเมืองฟรีพอร์ต รัฐเท็กซัส มันกินพื้นที่เข้ามาราว 15 เมตรต่อปี ถือเป็นหนึ่งในการกัดเซาะบนชายฝั่งที่หนักที่สุดในโลก
12. น้ำท่วมแม่น้ำเจมส์ ในเซาท์ ดาโกตา สีน้ำเงินที่อ่อนลงเป็นสีฟ้าคือน้ำที่มีสภาพกลายเป็นน้ำแข็ง
13. ในปี 2018 หมู่เกาะฮาวายต้องเผชิญกับพายุเฮอริเคนวาลากา พายุได้พัดเอาทรายและกรวดส่วนใหญ่หายไปกว่า 28 ไร่
14. ธารน้ำแข็งโคลัมเบียที่ละลายหายไปในแอลัสกา ที่ปกติแล้วจะยื่นออกมาดูราวกับจมูกของเกาะฮีเธอร์ ใกล้กับอ่าวโคลัมเบีย
15. ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมหนักและดินโคลนถล่มในเปรู ถนนกว่า 7,500 กิโลเมตร และสะพาน 509 แห่งได้รับความเสียหาย และมีผู้เสียชีวิตรวมกว่า 70,000 คน
ที่มา : NASA | boredpanda | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ