มีชาเลนจ์มากมายที่เกิดขึ้นบนโลกโซเชียลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บางชาเลนจ์ก็เป็นสิ่งสร้างสรรค์ แต่สำหรับบางชาเลนจ์ก็เป็นอันตรายและยากที่จะควบคุมได้ แต่วิธีการหยุดกระแสที่ไร้สาระเหล่านี้ได้ อาจต้องใช้วิธีแบนทั้งแพลตฟอร์มแบบนี้
เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีชาเลนจ์หนึ่งที่กลายเป็นกระแสอย่างมากบนโลกของ TikTok นั่นคือ Milk Crate Challenge หรือ Crate Challenge ที่ผู้คนจะซ้อนลังนมขึ้นไปจนสูงเป็นพีระมิด 7 ชั้น และพยายามปีนขึ้นไปให้ถึงบนลังชั้นบนสุดให้ได้
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่คุณจะทำได้สำเร็จ ดังนั้นกระแสชาเลนจ์นี้จึงมีชาวเน็ตรวมถึงอินฟลูเอนเซอร์จำนวนมากที่พยายามจะพิชิตชาเลนจ์นี้ให้ได้ คลิปวิดีโอมากมายถูกโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดียช่องทางต่าง ๆ โดยเริ่มจาก TikTok และลามไปยัง Twitter, Instagram และ Facebook
การท้าทายดังกล่าวไม่ได้โด่งดังเพียงแค่ในโลกออนไลน์เท่านั้น เพราะในชีวิตจริงได้มีการจัดการแข่งขันปีนขึ้นลังนมอย่างจริงจัง ตัวอย่างอย่างในสวนสาธารณะ Sara D. Roosevelt ในแมนฮัตตัน ได้มีการแข่งขันปีนลังนมโดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 100 คน
BROKE HIS NECK #CrateChallenge pic.twitter.com/RvB1gMOyAH
— 🅱️R🅰️ND🅾️ (@iTweetBrando) August 22, 2021
“ทุกคนต่างตื่นเต้นและชอบมันมาก พวกเขารู้สึกคลั่งไคล้เมื่อมีคนทำมันสำเร็จ” เนต แบรดลีย์ หนึ่งในผู้ร่วมงานกล่าว
“แต่เมื่อใดก็ตามที่มีคนล้มลง ทุกคนก็จะหัวเราะโห่ฮา และให้คนอื่นเอาชนะมันให้ได้ต่อไป”
แต่นี่คือหนึ่งในชาเลนจ์ที่อันตรายและมีหลายคนออกมาเตือนถึงความอันตรายที่อาจเกิดขึ้่นได้ แต่การแก้ที่ปลายเหตุไม่ให้ชาเลนจ์นี้กลายเป็นกระแสดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ล่าสุดทาง TikTok จึงตัดสินใจแบนการค้นหาเกี่ยวกับชาเลนจ์นี้ไปเรียบร้อย เนื่องจากมันละเมิดหลักเกณฑ์ด้านพฤติกรรมและเนื้อหาของทางแอปพลิเชัน TikTok ซึ่งการส่งเสริมเรื่องความปลอดภัยและประสบการณ์เชิงบวกถือเป็นความสำคัญอันดับแรกที่ต้องคำนึงถึง
โฆษกของ TikTok กล่าวในแถลงการณ์ว่า “TikTok ห้ามเนื้อหาที่ส่งเสริมหรือเชิดชูการกระทำที่เป็นอันตราย และเราลบวิดีโอและเปลี่ยนเส้นทางการค้นหาไปยังหลักเกณฑ์ชุมชนของเราเพื่อกีดกันเนื้อหาดังกล่าว”
“เราสนับสนุนให้ทุกคนใช้ความระมัดระวังในพฤติกรรมของตนเองไม่ว่าจะบนโลกออนไลน์หรือออฟไลน์ก็ตาม”
การตัดสินใจของ TikTok เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เนื่องจากมีผู้คนมากมายได้รับบาดเจ็บในขณะทำชาเลนจ์นี้ บางคนก็เจ็บหนักจนถึงกับต้องถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล
ที่มา : mashable | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ