การที่คุณมองไม่เห็นอะไรเลยคืออุปสรรคอันใหญ่หลวงที่คุณไม่สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้ในชีวิตประจำวัน แต่สำหรับเด็กหนุ่มคนนี้กลับกลายเป็นนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลที่สามารถเล่นร่วมกับคนปกติได้อย่างเหลือเชื่อ
เจเซน เบรซี เด็กหนุ่มจากเมืองโมเดสโต รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้รับการวินิจฉันว่าเป็นมะเร็งจอประสาทตาที่ทำให้เกิดเนื้องอกในตาของเขาตั้งแต่เพียงอายุ 1 ขวบ แม้จะได้รับการรักษาหลายครั้งแต่สุดท้ายเมื่อเขาอายุได้ 7 ขวบ ดวงตาของเขาก็ไม่สามารถมองเห็นได้อีกต่อไป
ทุกวันนี้ สิ่งเดียวที่เขาสามารถแยกแยะได้คือกลางวันหรือกลางคืน แต่อุปสรรคครั้งใหญ่นี้ไม่ได้ขัดขวางความฝันของเขาที่จะกลายเป็นนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลแต่อย่างใด
เจเซนในวัย 15 ปี เติบโตขึ้นมาจากการเล่นอเมริกันฟุตบอลอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยเข้าร่วมเล่นในเกมท้องถิ่นกับพ่อของเขาที่คอยบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสนาม
เจเซนตกหลุมรักในกีฬาอเมริกันฟุตบอลมาตั้งแต่เด็กและฝึกซ้อมกับพ่อมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อ 2 ปีก่อน เขาได้รับของขวัญเป็นไอโฟนเครื่องแรกเป็นของตัวเอง และนั่นทำให้เด็กชายเริ่มติดต่อทีมฟุตบอลท้องถิ่นทั้งหมดในเมืองเพื่อดูว่าจะมีพื้นที่ให้เขาไปเล่นด้วยได้หรือไม่
พ่อแม่ของเจเซนไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน จนกระทั่งวันหนึ่งทั้งคู่ได้รับโทรศัพท์จาก เดวิด นิโคลส์ โค้ชของทีม Modelo Raiders และเขาถามว่า “เฮ้ ผมได้รับโทรศัพท์จากลูกชายของคุณที่ถามว่าจะมาเล่นฟุตบอลด้วยได้ไหม แต่เขาบอกว่าเขาตาบอดใช่ไหม”
เดวิดยอมรับว่าครั้งแรกที่เขาเห็นเจเซน เขาถึงกับถามตัวเองว่า “จะทำอย่างไรดี” แต่พอเห็นเด็กชายเริ่มเล่นฟุตบอล เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเจเซนสามารถทำได้ทุกอย่าง เขาขาดเรื่องการมองเห็น แต่ก็ชดเชยมาด้วยการรับรู้ในเรื่องของระยะและความทรงจำ เขารู้ว่าเพื่อนร่วมทีมควรจะไปอยู่ที่ไหน และขว้างลูกบอลได้อย่างแม่นยำ
เดวิดกล่าวกับสื่อว่า “เขารู้ว่าต้องไปที่ไหน ขว้างบอลไปที่ไหน เด็กคนอื่นจะไปที่ไหน เขารู้วิธีทำคะแนน”
โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจเซนมองไม่เห็น ดังนั้นพวกเขาจึงปฏิบัติต่อเจเซนเหมือนกับผู้เล่นคนอื่น ๆ
“ผมไม่ได้บอกพวกเขาทั้งก่อนหรือหลังเกม ดังนั้นพวกเขาจึงไม่คิดที่จะออมมือให้” เจเซนกล่าว
“ผมเป็นควอเตอร์แบ็ก และงานของผมคือการนำทีม ในฐานะผู้นำ ผมต้องควบคุมทีมนี้ นำพวกเขาผ่านช่วงเวลาที่ดีและไม่ดี ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ต้องก้าวผ่านมันไปให้ได้ และผมจะแข็งแกร่งเหมือนเหล็ก ผมจะเล่นให้หนัก”
เพื่อที่จะทำหน้าที่ในสนามของเขาให้สมบูรณ์ เจเซนจะจดจำทุกแผนการเล่นและตำแหน่งทั้งหมดที่เพื่อนร่วมทีมของเขาควรอยู่เมื่อขว้างบอลออกไป นอกจากนี้เขายังให้พ่อที่อยู่ข้างสนามคอยรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านเครื่องรับส่งวิทยุอีกด้วย
“แค่เห็นเขา เขาได้แสดงให้ผมเห็นว่าไม่มีอะไรที่คุณทำไม่ได้ และนั่นก็สะท้อนไปถึงเด็กคนอื่น ๆ นับตั้งแต่มีเขาอยู่ในทีม เขาก็ดึงดูดให้คนอื่น ๆ อยู่รอบตัว” เดวิดกล่าว
“มันเปลี่ยนมุมมองชีวิตทั้งหมดของเด็กคนอื่น เขาทำให้มันเป็นฤดูกาลที่น่าจดจำ ถ้าเราไม่ชนะ แต่การที่ทีมมีเคมีที่เข้ากันอาจหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมเคยมีมา”
จริง ๆ แล้ว นอกจากอเมริกันฟุตบอล เจเซน เบรซี ยังคงเล่นกีฬาชนิดอื่นเช่น ายน้ำและเบสบอล แต่อเมริกันฟุตบอลคือสิ่งที่เขาหลงใหลมากที่สุด และเขาฝันเอาไว้ว่าสักวันจะก้าวไปถึงระดับ NFL ให้ได้
ที่มา : odditycentral | เรียบเรียงโดย เพชรมายา