หนึ่งในทฤษฎีสมคบคิดที่มาพร้อม ๆ กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด นั่นก็คือความอันตรายของสัญญาณ 5G เป็นสาเหตุของเชื้อโควิด และนั่นถือเป็นช่องทางให้พ่อค้าหัวใสใช้ประโยชน์จากความเชื่อตรงนี้ ผลิตสินค้าบางอย่างขึ้นมาและอ้างว่ามันสามารถป้องกันสัญญาณ 5G รวมถึงป้องกัน “กัมมันตรังสี” ได้อีกด้วย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ หน่วยงานเพื่อความปลอดภัยและการป้องกันรังสีนิวเคลียร์ของเนเธอร์แลนด์ (ANVS) ได้สั่งห้ามจัดจำหน่ายสินค้าหลายชนิดที่อ้างว่าช่วย “ป้องกันรังสี” และ “ป้องกันสัญญาณ 5G” ที่ปรากฎว่ามันเป็นวัสดุที่มีส่วนประกอบของธาตุกัมมันตรังสีเสียเอง
ตั้งแต่จี้ห้อยคอควอนตัม (Quantum Pendant) จนไปถึงกำไลและหน้ากากสำหรับนอน โลกออนไลน์ล้วนเต็มไปด้วยสินค้าที่แปลกประหลาดที่อ้างว่าสามารถปกป้องผู้สวมใส่จากเทคโนโลยี 5G ได้
แม้ว่าเราจะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่า 5G เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ แต่ก็มีผู้คนจำนวนมากยินดีจ่ายเงินเพื่อซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ไปใช้เพื่อความปลอดภัยด้วยคำกล่าวที่ว่า “ปลอดภัยไว้ก่อน”
โดยก่อนหน้านี้ ก็มีชายคนหนึ่งที่ทำเงินมหาศาลจากการขาย USB ที่อ้างว่าช่วยปกป้องสัญญาณ 5G ได้ โดยมันมีราคาสูงถึง 283 ปอนด์ หรือประมาณ 12,700 บาท
ย้อนกลับมาที่ จี้ห้อยคอควอนตัมที่กำลังกลายเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากถูกหน่วยงานของเนเธอร์แลนด์แบนไม่ให้นำเข้าและจัดจำหน่ายในประเทศ
“รังสีไอออไนซ์สามารถทำลายเนื้อเยื่อและดีเอ็นเอได้” ANVS กล่าวในการแถลงข่าว
“ปริมาณรังสีที่วัดได้ในผลิตภัณฑ์ที่ทดสอบมีน้อย อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ใช้เป็นเวลานานและต่อเนื่อง การได้รับรังสีทางผิวหนังอาจเกินขีดจำกัดที่กฎหมายกำหนด”
ปัญหาคือ ผลิตภัณฑ์ที่ถูกตรวจสอบเหล่านี้ถูกออกแบบมาให้สวมใส่ได้อย่างต่อเนื่องและสัมผัสกับผิวหนังอย่างกใกล้ชิด ซึ่งยิ่งทำให้เป็นอันตรายมากขึ้น แม้ว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะมีคำอธิบายว่าช่วย “ป้องกันรังสี” แต่ดูเหมือนมันจะมีผลตรงกันข้ามเพราะทำให้ผู้สวมใส่ได้รับรังสีเสียเอง
อุปกรณ์ป้องกันสัญญาณ 5G และป้องกันรังสีมักถูกโปรโมตว่ามีส่วนประกอบของสิ่งที่เป็น “ประจุลบ” ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพลายอย่าง เช่น เถ้าภูเขาไฟ ไททาเนียม ทัวร์มาลีน ซีโอไลต์ ทรายเจอร์เมเนียมและโมนาไซต์ และธาตุกัมมันตรังสีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น ยูเรเนียมและทอเรียม
ส่วนข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า เทคโนโลยี 5G จะปล่อยคลื่นที่ไม่ก่อประจุ โดยจะไม่ทำลาย DNA แต่หลายคนก็ยังเชื่อทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับ 5G จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมอุปกรณ์แปลก ๆ เหล่านี้ถึงทำกำไรให้กับคนขายได้อย่างมหาศาล
ที่มา : odditycentral | เรียบเรียงโดย เพชรมายา