15 ภาพการพบเจอความน่าทึ่งจากธรรมชาติ ที่อาจเกิดขึ้นครั้งเดียวในชีวิต

สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นบนโลกเราใบนี้ส่วนใหญ่ล้วนเกิดมาจากธรรมชาติแทบทั้งสิ้น เราอาจได้เห็นภัยธรรมชาติที่น่ากลัว สิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติที่น่าทึ่ง และถ้าโชคดีพอคุณจะสามารถเก็บภาพความมหัศจรรย์เหล่านั้นเอาไว้เป็นความทรงจำได้ วันนี้เพชรมายาจึงอยากพาทุกท่านไปพบกับการพบเจอความมหัศจรรย์จากธรรมชาติ ที่คุณอาจเจอมันเพียงครั้งเดียวในชีวิต

1. เซลฟี่คู่กับพายุทอร์นาโด

นี่คือ ออดรา โธมัส หญิงสาวที่อาศัยอยู่ในเมืองบีเวอร์ รัฐเนบราสกา ซึ่งเป็นสถานที่ที่เกิดาพายุทอร์นาโดขึ้นบ่อยครั้ง แต่จะมีสักกี่คนที่กล้าถ่ายภาพคู่กับทอร์นาโดขนาดยักษ์แบบนี้ใกล้ ๆ โดยออดราอยู่ห่างจากพายุทอร์นาโดออกไปราว 1 ไมล์

ส่วนทางกรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติถึงกับขมวดคิ้วและได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับความอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับการถ่ายภาพในลักษณะนี้

2. นกที่พยายามช่วยเพื่อนของมัน

มันเป็นเหตุการณ์นาทีชีวิต เมื่อนกอินทรีหัวขาวกำลังจัดการนกนางนวลเหยื่อของมัน แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนของนกนางนวลกำลังพยายามอย่างเต็มความสามารถ เพื่อที่จะช่วยชีวิตเพื่อนของมันเอาไว้

3. Roar ภาพยนตร์ที่อันตรายที่สุด

Roar คือภาพยนตร์ในปี 1981 ที่นำแสดงโดย โนเอล มาร์แชลล์ และ ทิปปี เฮเดรน ภรรยาของเขาในขณะนั้น ซึ่งถือเป็นภาพยนตร์ที่อันตรายที่สุดเท่าที่เคยมีมา เนื้อเรื่องของ Roar ได้บอกเล่าถึงหญิงชาวอเมริกันและลูก ๆ ของเธอที่เดินทางไปแอฟริกาเพื่อเยี่ยมนักวิทยาศาสตร์ที่อาศัยอยู่ในป่า

เสือที่ถูกนำมาเข้าฉากควรถูกทำให้เชื่อง แต่พวกมันทำให้นักแสดงรวมถึงทีมงานกว่า 70 ชีวิตได้รับบาดเจ็บบ่อยครั้ง ซึ่งมีตั้งแต่เป็นรอยขีดข่วน จนไปถึงได้รับบาดเจ็บรุนแรง

4. หมีแพนด้าสีน้ำตาลตัวเดียวในโลก

ชีไจ๋ ลูกหมีแพนด้าที่ถูกแม่ของมันทอดทิ้งหลังจากลืมตาดูโลกได้เพียงไม่กี่เดือนเนื่องจากสีที่ผิดปกติของมัน การกลายพันธุ์ส่งผลให้ชีไจ๋มีขนสีน้ำตาลและสีขาว แทนที่จะเป็นขนสีดำ โชคดีที่มีคนไปพบมันเข้าและพาไปยังศูนย์ดูแลแพนด้า และนั่นทำให้ชีไจ๋กลายเป็นแพนด้าสีน้ำตาลเพียงตัวเดียวในโลกที่มนุษย์รู้จัก

5. ปลากระเบนราหูยักษ์

ในปี 1933 เอ.แอล. คาห์น เจ้าของโรงงานผลิตผ้าไหมในนิวยอร์กได้เดินทางไปเที่ยวพักผ่อนในฟลอริดา แต่จู่ ๆ สมอเรือของเขาได้ไปเกี่ยวเข้ากับปลากระเบนราหูยักษ์โดยบังเอิญ หลังเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง หน่วยยามชายฝั่งก็มาถึงพร้อมกระสุนปืนอีกหลายสิบลูก จนสามารถพิชิตปลากระเบนยักษ์ตัวนี้ขึ้นมาได้

การจับกระเบนยักษ์ขนาด 20 ฟุตและมีน้ำหนักกว่า 2,267 กิโลกรัมกลายเป็นข่าวใหญ่ คาห์นเรียกเก็บเงิน 10 เซ็นต์ต่อคนเพื่อเข้ามาดูกระเบนยักษ์ของเขาจนระดมเงินได้มากถึง 3,000 เหรียญเพื่อนำไปซื้อรถดับเพลิงคันใหม่ให้กับแผนกดับเพลิงท้องถิ่น

6. ฝูงแร็กคูนที่น่าขนลุก

เป็นที่ทราบกันดีว่าแร็กคูนเป็นสัตว์ที่มักอยู่โดดเดี่ยวและออกหากินเวลากลางคืน พวกมันไม่ค่อยอยู่ร่วมกันเป็นสังคมมากเท่าไหร่ ยกเว้นแค่แม่กับลูก ๆ ของพวกมัน แต่สำหรับหญิงรายหนึ่งที่ไปตั้งแคมป์เมื่อ 30 ปีก่อนได้เจอกับเหตุการณ์ที่เธอคาดไม่ถึง หลังจากที่เธอได้ยินเสียงแปลก ๆ กลางดึกอยู่เสมอ จนเธอตั้งกล้องเอาไว้ที่นอกเต็นท์และพบกับภาพนี้

7. คลื่นยักษ์ที่ประภาคารนอกชายฝั่งฝรั่งเศสในปี 1989

ภาพถ่ายที่โด่งดังนี้ถูกถ่ายโดย ฌอง กีชาร์ ในปี 1989 ทำให้เราเห็นคลื่นยักษ์ที่กำลังจะกลืนกินประภาคารที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ส่วนบุคคลในภาพก็คือ ธีโอดอร์ มัลกอร์น ผู้ดูแลประภาคารที่ดูเหมือนว่าเขากำลังเฝ้าดูคลื่นอย่างสงบ แต่จริง ๆ แล้วเขากำลังรอความช่วยเหลืออยู่ และสุดท้ายเขาก็สามารถรอดมาได้อย่างปลอดภัย

8. ฉลามยักษ์เมกาโลดอน VS ฉลามขาว

ต้องขอบคุณที่ฉลามยักษ์เมกาโลดอนนั้นสูญพันธุ์ไปจากโลกนี้แล้ว เนื่องจากขนาดของมันที่ถูกพบจากฟอสซิลแสดงให้เห็นว่ามันมีขนาดใหญ่กว่าฉลามขาวมากขนาดไหน เมกาโลดอนอาจมีความยาวได้ถึง 60 ฟุตและมีแรงกัดที่มากกว่า 40,000 ปอนด์ มันคือนักล่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและทรงพลังที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา

9. กำแพงน้ำแข็งสีน้ำเงินสูง 50 ฟุตที่สวยงามในแอนตาร์กติก

บางคนอ้างว่านี่คือภาพถ่ายของคลื่นยักษ์สีนามิที่กลายเป็นน้ำแข็งอย่างฉับพลัน แต่ในความเป็นจริงแล้วมันคือปรากฎการณ์ทางธรรมชาติของน้ำแข็งสีน้ำเงิน เมื่อน้ำแข็งมีความหนาและใสจนแสงสามารถลอดผ่านเข้าไป ความยาวคลื่นสีแดงจะถูกกรองออก น้ำแข็งจึงสะท้อนแสงกลับออกมาเป็นสีน้ำเงิน

10. ภาพถ่ายฟ้าผ่าต้นไม้ที่ไม่เหมือนใคร

ดาร์เรน เพียร์สัน ช่างภาพที่ถ่ายภาพสายฟ้าที่กำลังผ่าลงกลางต้นไม้ต้นหนึ่ง โดยเขาเปิดรูรับแสงนานจนทำให้เห็นกระแสไฟฟ้าไหลผ่านอากาศลงมาบนต้นไม้และลงสู่พื้น สีของสายฟ้าที่เปลี่ยนไปแสดงให้เห็นเห็นว่าความเข้มของไฟฟ้ากระจายไปหลังจากที่มันลงสู่พื้นดิน ในขณะที่หลายคนเชื่อว่ามันเป็นภาพที่ผ่านการตัดต่อ

11. ครอบครัวเสือแทสมาเนียสุดท้ายก่อนสูญพันธุ์

ไทลาซีน หรือ เสือแทสมาเนีย เป็นสัตว์ที่มีศีรษะคล้ายสุนัข มีลวดลายคล้ายเสือโคร่ง แต่มันไม่ใช่ทั้งเสือและหมาป่า อันที่จริงแล้วมันเป็นสัตว์ที่มีกระเป๋าหน้าท้องที่มีถิ่นกำเนิดในแทสมาเนีย ออสเตรเลีย และนิวกินี

พวกมันเป็นนักล่าที่ขี้อายและออกหากินเวลากลางคืน โดยภาพถ่ายดังกล่าวเป็นฝูงเสือแทสมาเนียกลุ่มสุดท้ายบนโลกใบนี้ที่อยู่ในสวนสัตว์โบมาริส ในเมืองโฮบาร์ตของออสเตรเลีย ในปี 1910 ก่อนที่พวกมันสูญพันธุ์ไปตลอดกาล

12. ภาพถ่ายปรากฎการณ์เมฆม้วนจากเครื่องบิน

ภาพถ่ายของเมฆม้วน หรือ Morning Glory Cloud ภาพนี้ถูกถ่ายจากเครื่องบินที่ใกล้กับสนามบินเบิร์กทาวน์ ในออสเตรเลีย ถือเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่หายากมาก เมฆม้วนเหล่านี้จะมีขนาดใหญ่และมีความยาวหลายกิโลเมตร บางครั้งก็เกิดขึ้นหลายม้วนพร้อม ๆ กัน

13. ทะเล 2 สี

เมื่อความหนาแน่นของน้ำ อุณหภูมิของน้ำ และความเค็มของน้ำที่แตกต่างกันมาเจอกันนอกชายฝั่งของอ่าวแอลัสกา เมื่อน้ำฝั่งหนึ่งคือน้ำทะเลที่มีความหนาแน่นและความเค็ม มาผสมกับน้ำจืดที่ละลายมาจากธารน้ำแข็ง มันแตกต่างกันมากเกินไป เกินกว่าที่จะผสมกันได้อย่างลงตัว จนเกิดเป็นปรากฎการณ์ที่หายากนี้

14. ทหารโซเวียตกำลังป้อนอาหารหมีขาวในทศวรรษ 1950

หมีขาวเป็นหนึ่งในหมีที่อันตรายต่อมนุษย์มากที่สุด แต่ด้วยสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายจนทำให้แม่หมีและลูก ๆ ของมันเผชิญกับความอดอยาก จนกระทั่งทหารโซเวียตได้ส่งนมข้นกระป๋องให้พวกมัน แม่หมีเลียนมข้นจากกระป๋องแล้วป้อนให้กับลูก ๆ อีกด้วย

15. วาฬเบลูกาที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นนางเงือก เพราะมีหัวเข่าเหมือนมนุษย์

มีรายงานการพบเห็นนางเงือกจากบรรดาลูกเรือมาหลายร้อยปีแล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเห็นอะไรบางอย่างที่ผิดปกติในมหาสมุทร ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่ลูกผสมระหว่างมนุษย์กับปลาอย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะบางครั้งมันคือการพบเห็นวาฬเบลูกาที่มีถิ่นกำเนิดในน่านน้ำอาร์กติก

วาฬเบลูกามีลักษณะทางกายวิภาคที่เป็นเอกลักษณ์และแตกต่างจากวาฬชนิดอื่น ๆ สีขาวของมันทำให้มันดูคล้ายกับผิวซีดของมนุษย์ ครีบหลังที่ไม่มีเหมือนกับวาฬและปลาทั่วไป และที่สำคัญคือรูปร่างส่วนร่างที่มีลักษณะคล้ายกับหัวเข่าของมนุษย์ จึงเป็นเหตุให้ผู้คนเข้าใจผิดได้ไม่ยากเวลาที่เห็นมันผ่าน ๆ ในมหาสมุทร

ที่มา : historydaily | เรียบเรียงโดย เพชรมายา