คุณเคยจินตนาการเล่น ๆ หรือไม่ว่า ถ้าเกิดกระจกรถที่คุณขับอยู่ เกิดปลิวหลุดออกไปในระหว่างที่คุณขับมาด้วยความเร็วสูง แน่นอนว่ามันอาจทำให้คุณตื่นเต้นใจหายใจคว่ำ แต่ความตื่นเต้นนั้นจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ถ้ามันเกิดเหตุการณ์เดียวกันนี้บนเครื่องบิน
ย้อนกลับไปในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 10 มิถุนายน 1990 สายการบินบริติชแอร์เวย์ เที่ยวบิน 5390 ได้ออกเดินทางจากสนามบินนานาชาติเบอร์มิงแฮม ไปยังเมืองมาลากา ประเทศสเปน กัปตันและผู้ช่วยได้จัดการเครื่องบินตามขั้นตอนการปฏิบัติงานตามปกติ และไม่มีอะไรผิดสังเกตทั้งสิ้น
ต่อมาในช่วงเวลาประมาณ 7.33 น. ในขณะที่พนักงานต้อนรับกำลังเตรียมเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นช่วงที่เครื่องบินกำลังไต่ระดับอยู่ที่ความสูง 17,300 ฟุต จู่ ๆ ก็เกิดเสียงดังและภายในเครื่องบินก็เต็มไปด้วยหมอกหนาทันที
ในตอนนั้นเอง ไนเจล อ็อกเดน พนักงานต้อนรับที่ทำงานอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าได้รีบเข้าไปยังห้องนักบินทันที แต่ภาพที่เขาเห็นตรงหน้าก็คือ ทิโมธี แลนแคสเตอร์ กัปตันของพวกเขากำลังถูกดูดออกไปจากช่องกระจกบังลมด้านซ้ายของเครื่องบินที่ในตอนนี้ไม่มีกระจกเหลืออยู่แล้ว มันปลิวหลุดออกไป ส่วนแรงดันภายในห้องนักบินก็ลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว
ไนเจลตัดสินใจคว้าตัวกัปตันเอาไว้ทันที โชคยังดีที่ขาของกัปตันข้างหนึ่งติดอยู่ที่คอนโซลหน้าของเครื่องบิน ในตอนนั้นเองผู้โดยสารทุกคนถูกสั่งให้รัดเข็มขัดนิรภัย และนักบินผู้ช่วยก็พยายามเข้าควบคุมเครื่องบินแทน และพยายามแก้ไขเพื่อกลับเข้าสู่ระบบการบินอัตโนมัติอีกครั้ง
สถานการณ์ภายในห้องนักบินเริ่มแย่ลงเรื่อย ๆ ไนเจลต้องใช้แรงอย่างมากในการรั้งตัวของกัปตันเอาไว้ เขามีอาการหนาวสั่นจากอุณหภูมิที่ลดต่ำจนติดลบ ลูกเรือส่วนใหญ่คิดว่ากัปตันอาจเสียชีวิตไปแล้ว แต่ไนเจลก็ยังยึดร่างของกัปตันเอาไว้ต่อไป
นอกจากนั้น เขาเกรงว่าหากตัวเองปล่อยมือ ร่างของกัปตันอาจชนเข้ากับเครื่องยนต์ ปีก หรือเหล็กกันโคลงของเครื่องบิน ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงกว่าเดิม สิ่งที่เขารู้เพียงอย่างเดียวก็คือ ร่างของกัปตันกำลังค่อย ๆ หลุดมือเขาไปและศีรษะของเขาก็กระแทกกับเครื่องบินซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ก่อนที่ไนเจลจะหมดแรง ไซมอน โรเจอส์ ลูกเรืออีกคนก็เข้ามาช่วยจับขาของกัปตันเอาไว้ พร้อมทั้งเอาเชือกมันตัวเองเอาไว้กับเบาะเพื่อไม่ให้ตัวเองปลิวหลุดออกไป
ในขณะที่การสื่อสารระหว่างผู้ช่วยนักบินกับทางหอบังคับการบินก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเสียงภายในห้องนักบินดังมาก ทั้งเสียงเครื่องยนต์และเสียงลมที่พัดอื้ออึงไปทั่ว
ทุกอย่างอยู่ในสภาพทุลักทุเลจนกระทั่ง 15 นาทีผ่านไปหลังหน้าต่างปลิวหลุด เครื่องบินก็ลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินเซาแทมป์ตันอย่างปลอดภัย
ไนเจล อ็อกเดน ต้องเจอกับอาการน้ำแข็งกัดบนใบหน้าของเขาจนทำให้ตาข้างหนึ่งของเขาได้รับบาดเจ็บ รวมไปถึงไหล่ของเขาด้วย ส่วนทิโมธี แลนแคสเตอร์ กัปตันที่เกือบหลุดออกไปจากเครื่องบินกลับรอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ เขาถูกน้ำแข็งกัด และกระดูกมือและแขนหักหลายส่วน
จากการสอบสวนภายหลังทราบว่า หน้าต่างบานที่ปลิวหลุดออกไปเพิ่งถูกติดตั้งใหม่เพียงแค่ 27 ชั่วโมงก่อนเที่ยวบินดังกล่าว และมีการใช้น็อตที่ผิดขนาด
น็อตที่ใช้ยึดกระจกมีทั้งหมด 90 ตัว แต่มี 84 ตัวที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กไป 0.66 มิลลิเมตร ในขณะที่ 6 ตัวที่เหลือมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่ถูกต้อง แต่ดันสั้นไป 2.5 มิลลิเมตร น็อตทั้ง 6 ตัวนี้ควรจะยาว 20.3 มิลลิเมตร ไม่ใช่ 17.8 มิลลิเมตร
เรียกได้ว่าเป็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่อาจผิดพลาดได้เลยจริง ๆ ซึ่งแน่นอนว่าความผิดทั้งหมดนี้เกิดจากความสะเพร่าของทีมช่างซ่อมบำรุงเครื่องบินนั่นเอง
ที่มา: aviation-safety | historydefined | เรียบเรียงโดย เพชรมายา