ศาลจีนเพิ่งมีคำตัดสินที่กลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ โดยสั่งให้หญิงสาวรายหนึ่งชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 3.79 ล้านหยวน หรือคิดเป็นเงินไทยราว 20 ล้านบาท ให้กับภรรยาของชายคนหนึ่ง เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับผู้ชายคนนั้น “ขัดต่อประเพณีสาธารณะ”
เรื่องราวดังกล่าวเกิดถูกเปิดเผยผ่านเอกสารของศาลประชาชนของเมืองกวางเหอ มณฑลเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน เมื่อนางหลี่ผู้เป็นโจทย์ได้ยื่นฟ้องต่อนางเซี่ย หลังจากที่เธอกล่าวหาว่านางเซี่ยแอบเป็นชู้กับนายหวางผู้เป็นสามีของเธอ
นางหลี่กับนายหวางแต่งงานกันตั้งแต่ปี 1991 จนกระทั่งในปี 2008 นายหวางเริ่มนอกใจไปคบกับนางเซี่ย ซึ่งเป็นเวลานานนับสิบปี จนกระทั่งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา นางหลี่เริ่มระแคะระคายสามีของเธอ จนพบว่านายหวางแอบส่งเงินไปให้กับใครบางคนเป็นประจำ
นายหวางยอมรับว่าตนเองแอบคบกับนางเซี่ยมานานแล้ว จนถึงกับมีลูกอายุ 10 ขวบด้วยกัน หลักฐานที่นางหลี่นำเสนอต่อศาลก็คือ จำนวนเงินที่มากถึง 1.47 ล้านหยวน (ราว 7.86 ล้านบาท) ที่นายหวางโอนไปให้กับชู้ของเขาระหว่างปี 2013 ถึง 2020
และนั่นยังไม่รวมถึงอะพาร์ตเมนต์ 2 ห้องที่มีมูลค่าอีก 1.45 ล้านหยวน (ราว 7.75 ล้านบาท) และรถยนต์มูลค่า 870,000 หยวน (ราว 4.6 ล้านบาท)
ในขณะที่นางเซี่ยโต้แย้งว่า เธอไม่เคยรู้ว่านายหวางแต่งงานแล้วและเงินที่เธอได้รับมาตลอดหลายปีก็ถูกนำไปเลี้ยงดูลูกทั้งสิ้น
แต่ศาลกล่าวว่า คดีนี้การเป็นเจ้าของทรัพย์สินไม่ได้เกี่ยวกับการเลี้ยงดูบุตร ซึ่งตามกฎหมายของจีนระบุว่า สามีภรรยาจะไม่สามารถใช้ทรัพย์สินส่วนกลางของทั้งคู่ได้หากปราศจากความยินยอมจากอีกฝ่าย
และเนื่องจากนางหลี่ไม่เคยรู้เรื่องการใช้เงินของนายหยางเลย ดังนั้นนางเซี่ยจึงต้องคืนเงินจำนวน 3.79 ล้านหยวน หรือประมาณ 20 ล้านบาท กลับคืนไปให้กับนางหลี่ผู้เป็นภรรยา
ศาลกล่าวกับนางเซี่ยว่า เธอมีทางเลือกก็คือการยื่นฟ้องแยกต่างหากต่อนายหวางเพื่อขอค่าเลี้ยงดูบุตร แต่เนื่องจากความสัมพันธ์ของทั้งคู่ถูกระบุว่า “ขัดต่อประเพณีสาธารณะ” ดังนั้นจึงต้องติดตามกันต่อไปว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร
ที่มา: scmp