กระแสการไตในตลาดมืดเป็นที่โด่งดังในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในขณะที่การนำไตตัวเองไปขายกลายเป็นมีมตลกขำขันบนโลกออนไลน์ แต่การถูกขโมยไตไปขายไม่ใช่เรื่องตลก และมันไม่ควรจะเกิดขึ้นโดยเฉพาะถ้าหัวขโมยคนนั้นคือคนใกล้ชิดคุณที่สุด
นี่คือเรื่องราวของ รันจิตา กุนดู หญิงวัยกลางคนจากรัฐโอฑิศา ของอินเดีย ที่อ้างว่าตนเองถูกสามีขโมยไตของเธอไปขายเมื่อ 4 ปีก่อน และเธอเพิ่งมารู้การกระทำของเขาเมื่อไม่นานมานี้หลังจากที่ไปหาหมอเพราะปวดท้อง และได้รู้ว่าเธอเหลือไตเพียงแค่ข้างเดียว
รันจิตากล่าวว่า ย้อนกลับไปในปี 2018 สามีของเธอพยายามพาเธอไปโรงพยาบาลเพื่อรับการผ่าตัดเอานิ่วในไตออก แต่สามีของเธอได้นำไตของเธอออกมาเพื่อที่เขาจะได้นำมันไปขายในตลาดมืด
แน่นอนว่าเรื่องราวดังกล่าวฟังดูน่าเหลือเชื่อมาก ๆ
“ในปี 2018 สามีของฉันพาฉันไปโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในเมืองภูพเนศวร หลังจากที่นิ่วของฉันเริ่มโตขึ้น และที่นั่นเขาได้ขายไตของฉันไปข้างหนึ่งโดยที่ฉันไม่รู้และไม่ยินยอม” รันจิตากล่าว
“ฉันไม่รู้สึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในช่วงเวลานั้นเพราะฤทธิ์ยาสลบ สามีของฉันขายไตให้กับ อาซิม ฮัลเดอร์ ชายจากอีกหมู่บ้านภายในเมืองเดียวกัน”
ประสันต์ กุนดู สามีชาวบังคลาเทศเป็นผู้อพยพผิดกฎหมาย ทั้งคู่แต่งงานกันมา 12 ปี และมีลูกด้วยกัน 2 คน เมื่อ 8 เดือนที่แล้วเขาถูกกล่าวหาว่าทิ้งครอบครัวและหนีไปกับผู้หญิงคนอื่น ซึ่งทำให้รันจิตาถูกไล่ออกจากบ้านของครอบครัวฝ่ายชาย และปัจจุบันเธออาศัยอยู่ที่บ้านของพ่อแม่เธอเอง
สำนักข่าว Kalinga TV ของอินเดียได้รายงานเรื่องนี้ว่า ในช่วงเวลาที่ทั้งคู่เกิดระหองระแหงกันเรื่องเงินค่าสินสอด สามีตัดสินใจขโมยและขายไตของรันจิตาไป เพื่อเป็นเงินที่เขารู้สึกว่าเธอเป็นหนี้อยู่
นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ รันจิตาได้ยื่นฟ้องอดีตสามีและพี่สะใภ้ของเธอ ที่ร่วมกันวางแผนการทั้งหมดโดยการใช้เอกสารปลอม ซึ่งทางตำรวจได้จับอดีตสามีของเธอเรียบร้อยแล้ว และกำลังสืบสวนเรื่องนี้อยู่ว่าอาจมีคนอื่นเกี่ยวข้องอีกหรือไม่
ที่มา: odditycentral