หากมองเผิน ๆ เกาะอิคาเรียในทะเลอีเจียนเป็นเหมือนเกาะธรรมดาทั่วไป ที่มีบ้านของผู้คนจำนวนมากที่อาศัยอยู่บนเกาะ แต่หากใครที่เคยไปยังสถานที่แห่งนี้จะทราบดีว่า บ้านเหล่านี้มีความแตกต่างจากบ้านธรรมดาทั่วไป เนื่องจากพวกมันถูกออกแบบมาสำหรับป้องกันโจรสลัดโดยเฉพาะ
ปัจจุบัน เกาะอิคาเรียเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีชื่อเสียงของประเทศกรีซ โดยมีชายหาด ภูเขา และหมู่บ้านที่งดงามราวกับเกาะสวรรค์
แต่หากย้อนกลับไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน เกาะแห่งนี้คือเป้าหมายหลักสำหรับโจรสลัดที่มีทะเลอีเจียนเป็นเหมือนกับบ้าน ดังนั้นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นี่จึงต้องป้องกันตัวเองจากการถูกรุกราน ด้วยการเริ่มสร้างบ้านที่ลึกเข้าไปในภูเขาเพื่อทำให้เกาะแห่งนี้ดูเหมือนกับไม่มีผู้คนอาศัยอยู่
เมื่อถึงจุดหนึ่ง ประชากรทั้งหมดของเกาะอิคาเรียจึงเก็บตัวอยู่ภายในบ้านหินที่ไม่ดึงดูดความสนใจ เว้นแต่จะมีคนที่เดินผ่านมันจริง ๆ และบ้านเหล่านี้ก็ถูกเรียกว่า ‘บ้านป้องกันโจรสลัด’
บันทึกทางประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่า โจรสลัดได้รุกรานเกาะอิคาเรียและเกาะอื่น ๆ ของทะเลอีเจียนตั้งแต่เมื่อ 2,100 ปีก่อน แต่สิ่งต่าง ๆ ได้แย่ลงเมื่อเวลาผ่านไป ไม่ว่าเกาะอิคาเรียจะตกอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิโรมันหรือจักรวรรดิไบแซนไทน์ ก็ยังคงถูกรุกรานอยู่เรื่อยมา
จนกระทั่งในศตวรรษที่ 14 หลังจากที่เกาะอิคาเรียกลายเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐเจนัว ชาวอิคาเรียจึงตัดสินใจทำลายท่าเรือของตนเองเพื่อป้องกันการบุกรุกจากพวกโจรสลัด
แต่ดูเหมือนว่าแค่นั้นยังไม่พอ…
หลังจากที่เกาะอิคาเรียถูกผนวกรวมเข้ากับจักรวรรดิออตโตมัน ด้วยการปกครองที่หละหลวมมีแต่จะสนับสนุนให้โจรสลัดบุกเข้าโจมตีเกาะต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น และในที่สุดชาวอิคาเรียก็ไม่มีทางเลือกนอกจากการอพยพหนีไปจากถิ่นฐานที่พวกเขาอยู่กันมาอย่างยาวนานหลายร้อยปี
ชาวอิคาเรียตัดสินใจทิ้งบ้านของพวกเขาเอาไว้และย้ายขึ้นไปบนภูเขา ทำให้ดูเหมือนว่าพวกเขาไปทิ้งเกาะแห่งนี้ไปแล้วเรียบร้อย หลายคนสร้างบ้านด้วยหินแบบเรียบง่าย ถึงแม้ว่ามันจะไม่สะดวกสบายเหมือนชายฝั่ง แต่มันก็ทำให้พวกเขาพรางตัวได้อย่างแนบเนียน
บ้านป้องกันโจรสลัดหลายหลังถูกสร้างให้ผสมผสานและกลมกลืนกับธรรมชาติของเกาะอย่างน่าทึ่ง เช่น ก้อนหิน โขดหิน หน้าผา หรือป่าทึบ จุดเด่นของบ้านเหล่านี้คือการที่ตัวบ้านจะอยู่ในระดับต่ำกว่าก้อนหินหรือหน้าผา จึงทำให้คุณไม่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกลหรือจากทะเล
ในขณะที่พฤติกรรมการใช้ชีวิตของชาวอิคาเรียก็ต้องเปลี่ยนไป บ้านเหล่านี้จะต้องไม่มีปล่องไฟเพื่อไม่ให้มีควันไฟเกิดขึ้น การปฏิสัมพันธ์กันจะเกิดในตอนกลางคืน และหลีกเลี่ยงการใช้ไฟหรือแหล่งกำเนิดเสียงใด ๆ นอกจากนั้นพวกเขาก็เลิกเลี้ยงสุนัข เพราะเสียงเห่าของพวกมันอาจดึงดูดแขกที่ไม่ได้รับเชิญได้
ในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่ถูกเรียกว่า piratiki epochi หรือ ‘ยุคทองของโจสลัด’ ซึ่งชาวอิคาเรียยังคงดำเนินการสร้างบ้านป้องกันโจรสลัดต่อไปนานถึง 3 ทศวรรษ
ซึ่งปัจจุบัน บ้านป้องกันโจรสลัดมีจำนวนน้อยลงและยากจะพบเห็นได้เหมือนในอดีต ดังนั้นพวกมันจึงค่อนข้างมีคุณค่าในทางประวัติศาสตร์อย่างมากทีเดียว
ที่มา: odditycentral
