ชาวชาวลิทัวเนียคนหนึ่งเพิ่งถูกจับกุมที่สเปน หลังจากถูกกล่าวหาว่าแกล้งทำเป็นหัวใจวายในร้านอาหารกว่า 20 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเลี่ยงการจ่ายเงินค่าอาหาร
รายงานระบุว่า ชายชาว 50 ปีรายนี้หลอกลวงร้านอาหารอย่างน้อย 20 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคคอสตา บลังกา ของสเปน โดยแกล้งทำเป็นหัวใจวาย
หลังจากรับประทานอาหารและเครื่องดื่มจนหมดแล้ว เขาจะเริ่มแสดงละครโดยการจับหน้าอกของตัวเองและแกล้งทำเป็นลมบนพื้น การหลอกลวงนี้เป็นไปอย่างแนบเนียน จนกระทั่งมีเจ้าของร้านอาหารคนหนึ่งเริ่มสงสัยในพฤติกรรมของชายคนดังกล่าว และเริ่มเตือนเพื่อนร่วมอาชีพของเขาว่าอย่าตกหลุมพรางของชายผู้นี้
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนที่แล้ว ชายชาวลิทัวเนียรายนี้กำลังนั่งอยู่ในร้านอาหาร El Buen Comer ในเมืองอาลิกันเต เขากำลังเพลิดเพลินกับอาหารทะเลและวิสกี จนกระทั่งพนักงานนำใบเสร็จมาเก็บเงินจำนวน 34.85 ยูโร มาวางบนโต๊ะ (ประมาณ 1,300 บาท)
หลังพนักงานเดินออกไป เขาก็พยายามเดินออกจากร้าน แต่ก็ถูกหยุดเอาไว้และแจ้งว่ายังไม่ได้จ่ายค่าอาหาร เขากล่าวว่ากำลังจะไปเอาเงินจากห้องพักโรงแรม แต่พนักงานไม่ยอมให้เขาออกไป เมื่อถึงจุดนี้ เขาจึงเริ่มแกล้งทำเป็นหัวใจวาย
“มันดูปลอมมาก เขาแกล้งเป็นลมและทรุดตัวลงกับพื้น” ผู้จัดการร้านกล่าว “เราได้ส่งภาพถ่ายของเขาไปยังร้านอาหารทุกแห่งในเมือง เพื่อไม่ให้เขาทำแบบนี้กับใครอีก”
ในตอนนั้นเอง พนักงานร้านไม่ได้สนใจการแสดงของเขาและรีบแจ้งตำรวจทันทีแทนที่จะเรียกรถพยาบาล
เมื่อตำรวจมาถึง ชายผู้นี้ร่ำร้องแต่จะไปโรงพยาบาล แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ ตำรวจจำเขาได้จากประวัติการชักดาบที่ร้านอาหารอื่นในเมืองอาลิกันเตมาแล้ว
สรุปแล้ว ชายวัย 50 ปีผู้นี้ มีประวัติโชกโชนในการ “กินแล้วหนี” ตามร้านอาหารต่าง ๆ มากมาย เขาถูกพบเห็นครั้งแรกในเดือนพฤศิจกายนปี 2022 และหลังจากนั้นเป็นต้นมา ชื่อเสียงของเขาก็ดังกระฉ่อนจากการแกล้งหัวใจวายเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าอาหาร
การกระทำของเขาเริ่มอุกอาจมากขึ้นเพราะตำรวจไม่สามารถทำอะไรเขาได้มากไปกว่าการจับเขาไปขังคุก 1-2 คืน เท่านั้น เขายิ้มเสนอเวลาที่โดนจับ และจะกลับออกมาทำพฤติกรรมแบบเดิมอีกครั้งหลังจากถูกจับไม่นาน
ในขณะที่ค่าอาหารที่เขาชักดาบ มักเป็นจำนวนเงินที่ไม่มากแค่เพียงไม่กี่สิบยูโร คดีของเขาจึงดูเหมือนเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ก่อนที่คดีล่าสุดของเขาจะกลายเป็นข่าวดัง และตอนนี้มีเจ้าของร้านอาหารหลายร้านกำลังรวมตัวกันยื่นเรื่องร้องเรียน และนั่นอาจทำให้เขาได้รับโทษจำคุกสูงสุดถึง 2 ปี
ที่มา: odditycentral