โลกของเราในยุคปัจจุบันนี้ร้อนขึ้นทุกวันๆ จนมีการคาดการณ์ว่า ในอนาคต หากอุณหภูมิโลกเปลี่ยนไป สูงขึ้นจนมนุษย์ไม่สามารถทนอยู่บนพื้นผิวโลกได้ พวกเราอาจจะต้องย้ายลงไปอาศัยอยู่ใต้ดินแทน
แต่ดูเหมือนว่าความคิดนี้จะไม่ได้เป็นอนาคตอันไกลโพ้นเสียทีเดียว เพราะบนโลกใบนี้ มีเมืองที่ชื่อว่า คูเบอร์ เพดี ในประเทศออสเตรเลีย ที่มีประชากรราว 1,600 คน ซึ่งมีผู้คนจำนวนมากย้ายไปอาศัยอยู่ในบ้านใต้ดิน เพราะพวกเขาไม่สามารถทนอุณหภูมิบนพื้นผิวที่สูงขึ้นทุกวันได้
ปล่องไฟเหล่านี้ เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้รู้ว่า มีอารยธรรมที่อยู่ใต้ทะเลทรายที่แห้งแล้งแห่งนี้
นี่คือป้ายเตือนว่าห้ามวิ่ง ห้ามเดินถอยหลัง และระวังปล่องต่างๆ เนื่องจากมีหลุมที่ไม่ได้ทำเครื่องหมายอยู่ในบริเวณนี้
ถึงแม้จะดูทุรกันดาร แต่ คูเบอร์ เพดี เป็นเมืองที่อุดมไปด้วยอุตสาหกรรมเหมืองแร่ โดยเฉพาะแร่หินที่มีค่าอย่าง โอปอล ก็สามารถพบได้มากมายบริเวณนี้ และด้วยความที่เมืองที่อยู่ใจกลางทะเลทรายอันกว้างใหญ่ไพศาล ชาวบ้านจึงไม่คิดที่จะย้ายไปที่ไหนได้อีก เพราะไปที่ไหนๆ ก็ล้วนมีแต่ทะเลทรายทั้งสิ้น
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ทะเลทรายเหล่านี้จะทำให้ชาวเมืองอยู่อย่างลำบากยากแค้น ตัวอย่างเช่นภาพด้านล่างนี้ แสดงให้เห็นว่ามีร้านอาหารหรูหราอยู่ภายใต้ผินดินที่แห้งแล้ง
ร้านขายหนังสือ เป็นสถานที่จำเป็นมากสำหรับเมืองนี้
พวกเขาสามารถสร้างสถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจได้หลายแห่ง อย่างเช่นโบสถ์เหล่านี้
นอกจากนั้นยังมีพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะ ร้านสัตว์เลี้ยง เหมืองโอปอล และสิ่งอำนายความสะดวกพื้นฐานครบครัน
ที่นี่ยังเปิดรับนักท่องเที่ยว ให้สามารถมาตั้งแคมป์ใต้ดินได้อีกด้วย
ถือเป็นอีกสถานที่บนโลกใบนี้ ที่น่ามหัศจรรย์เอามากๆ แต่หวังว่า ในอนาคต มนุษย์เราจะไม่ต้องเจออุณหภูมิที่ร้อนจัด จนต้องไปอาศัยกันใต้ดินกันหมดเมืองแบบนี้
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจเพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
ที่มา : viralnova | เรียบเรียงโดย เพชรมายา