ในสมัยอดีต ชาวผิวสีในอเมริกาไม่ได้ถูกยอมรับอย่างในทุกวันนี้ พวกเขาเป็นทาสและชนชั้นล่างที่ถูกกระทำราวกับสัตว์ การเหยียดผิวมีอยู่ทุกหนแห่งหน จนถึงขนาดมีสวนสัตว์มนุษย์ ที่จับคนดำชาวเผ่าจากแอฟริกา มาโชว์กันเลยทีเดียว จนกระทั่งในปี 1863 ประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอล์น ได้ประกาศเลิกทาส นั่นเป็นจุดเปลี่ยนให้ชาวผิวสีทั้งหลาย ได้มีชีวิตที่เป็นอิสระอีกครั้ง แต่ถึงแม้กระนั้น พวกเขาก็ยังถูกเหยียดผิว แบ่งชนชั้น และไม่เคยได้รับการยอมรับ ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยมานานเป็นร้อยปีก็ตาม
ในปี 1956 เด็กผิวสีทั้งหมด 40 คนได้สมัครเข้าสอบเข้าเรียนที่โรงเรียนคนผิวขาวแห่งหนึ่ง จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 4 กันยายน 1957 โดโรธี เคาท์ส เด็กหญิงผิวสีวัย 15 ปี สามารถสอบผ่านมาอยู่ที่โรงเรียน แฮร์รี ฮาร์ดิง ไฮสคูล ในเมืองชาร์ลอต รัฐนอร์ทแคโรไลนา ซึ่งเธอเป็น 1 ใน 4 คนที่สอบผ่าน ส่วนอีก 3 คนถูกส่งไปอยู่โรงเรียนอื่นๆ
หลังจากที่ภรรยาของ จอห์น ซี. วอร์ลิค ผู้นำของสภาประชาชนผิวขาว ได้กระตุ้นให้เด็กผู้ชายทั้งหลายไล่เธอออกไป ในขณะที่ให้เด็กผู้หญิงถ่มน้ำลายใส่เธอ แต่โดโรธีกลับเดินผ่าน โดยไม่แสดงปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ ทั้งสิ้น
ฝูงชนตะโกน “กลับไปยังที่ๆ แกมาซะ” และมีอีกหลายคนที่ปาก้อนหินใส่เธอ เหยียบเท้าเธอ ตีเธอที่หลัง ล้อเลียนเธอ ในวันแรกที่เธอเข้าเรียน โดยภาพเหล่านี้ถูกถ่ายไว้ได้โดย ดักลาส มาร์ติน ซึ่งต่อมา ภาพของเขาได้รับรางวัลชนะเลิศ ภาพถ่ายสื่อมวลชนโลกแห่งปี 1957
มากกว่าการที่โดนฝูงชนผิวขาวโห่ไล่และคุกคามเธอในวันแรก ในวันต่อมา เธอยังโดนโยนถังขยะเข้าใส่ ขณะที่เธอกำลังรับประทานอาหาร และครูก็ไม่สนใจเธอ
ถึงแม้ในวันที่ 3 เธอจะเริ่มมีเพื่อนเป็นเด็กผู้หญิงผิวขาว 2 คน แต่พวกเธอทั้ง 2 ก็ถูกอยู่กับโดโรธีไม่ได้ เพราะถูกคุกคามจากเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ และของในล็อกเกอร์ของเธอก็ถูกขโมย
วันที่ 4 ครอบครัวของโดโรธีโดนทุบรถและโทรศัพท์ข่มขู่ จนต้องตัดสินใจให้โดโรธีออกจากโรงเรียนทันที
หลังจากนั้นโดโรธีและครอบครัวได้ย้ายไปอยู่ในเพนซิลวาเนีย ซึ่งเป็นที่ๆ เธอเรียนจบและต่อมาเธอได้รับปริญญาจากมหาวิทยาลัย จอห์สัน ซี. สมิธ โดยเธอใช้เวลาหลังจากเรียนจบมาทำอาชีพเป็นผู้ให้บริการดูแลเด็ก
ในปี 2008 โรงเรียนฮาร์ดิง ไฮสคูลได้มอบประกาศนียบัตรกิตติมศักดิ์ให้กับโดโรธี และในปี 2010 เธอได้รับคำขอโทษจากหนึ่งในกลุ่มฝูงชนที่คุกคามเธอตอนที่เธอเข้าเรียนวันแรกนั่นเอง
ที่มา : wikipedia | เรียบเรียงโดย เพชรมายา