ของ 2 สิ่งที่ไม่น่าจะเกี่ยวกันเหล่านี้ กลับมีความสัมพันธ์กันอย่างไม่น่าเชื่อ

โลกของเราล้วนเต็มไปด้วยความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดจนยากเกินคาดเดา ของบางสิ่งเกิดมาจากสิ่งที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันได้ เหมือนกับเรื่องราวดังต่อไปนี้ ที่เพชรมายาขอพาทุกท่านมาชมความเกี่ยวข้องของ 2 สิ่งที่ไม่น่าเกี่ยวข้องกันได้ แล้วคุณจะรู้ว่าโลกเรายังมีอะไรน่าสนใจอีกเยอะจริงๆ

1. ศิลปะ และ ระเบิดนิวเคลียร์

ตั้งแต่การทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ครั้งแรกของโลก ส่งผลให้เกิดไอโซโทปกัมมันตรังสีจำนวนหนึ่ง เช่น ซีเซียม-137 และ สตรอนเทียม-90 ปกคลุมไปทั่วโลก ภาพวาดทั้งหมดที่ถูกวาดขึ้นหลังจากปี ค.ศ. 1945 กลับมีอนุภาคกัมมันตภาพรังสีเหล่านี้ปะปนอยู่ เนื่องจากมีไอโซโทปเหล่านี้ปะปนอยู่ในดินทั่วโลก รวมถึงต้นแฟล็กซ์และน้ำมันในเมล็ดแฟล็กซ์ ที่ถูกนำมาใช้ในการบวนการผลิตภาพในสมัยใหม่ และนั่นทำให้เป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะสร้างงานก๊อปปี้ภาพวาดในอดีตที่มีชื่อเสียงได้ อย่างเช่นภาพวาดของ ลีโอนาร์โด ดาวินชี เพราะผู้เชี่ยวชาญสามารถแยกแยะผลงานต้นฉบับกับของปลอมได้โดยทันทีที่มีการตรวจสอบ

2. ถุงน่อง และ สปีดสเก็ต

ครั้งหนึ่ง วิกเตอร์ โคซิชคิน นักกีฬาชาวโซเวียตต้องเข้าร่วมการแข่งขันสปีตสเก็ตรายการหนึ่งที่เมืองดาวอส และด้วยอากาศที่หนาวจัด ทำให้เขาต้องเข้าไปถามนักกีฬาหญิงชาวเยอรมันคนหนึ่งว่ามีอะไรช่วยให้เขาอบอุ่นขึ้นได้บ้าง และเธอก็ให้ถุงน่องกันหนาวให้กับเขาคู่หนึ่ง ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าวิกเตอร์ใส่ถุงน่องคู่นี้เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 2

หลังจากนั้น วิกเตอร์ชอบผลลัพธ์ของการใส่ถุงน่องอย่างมาก เขาซื้อถุงน่องมาใส่พร้อมกับเสื้อสเวตเตอร์เข้ารูปสีดำ จนกระทั่งในกีฬาโอลิมปิก เขาใส่ชุดนี้เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 1 แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ชุดของวิกเตอร์ได้กลายเป็นกระแส และเป็นต้นแบบของนักกีฬาสปีดสเก็ตในเวลาต่อมา

3. CAPTCHA และ หนังสือเก่า

CAPTCHA ไม่ใช่แค่ชุดอักษรที่ใช้ป้องกันเว็บไซต์จากสแปมเพียงอย่างเดียว แต่มันยังถูกใช้ในการสแกนคำจากหนังสือและหนังสือพิมพ์เก่าที่คอมพิวเตอร์ไม่สามารถอ่านได้ และจัดทำใหม่ในรูปแบบของ E-book ซึ่งในปัจจุบันได้มีการใช้ CAPTCHA มาช่วยในการแปลงตัวหนังสือเป็นข้อมูลดิจิตอล พร้อมๆ กันกับป้องกันไม่ให้บอตสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่กำหนดได้ รวมถึงการแปลงเอกสารเก่าของ The New York Times และหนังสือจาก Google Books ให้เป็นข้อมูลดิจิตอลอยู่

4. หนู กับระเบิด และวัณโรค

หนูยักษ์ถือว่าเป็นกำลังสำคัญอย่างมากในประเทศแทนซาเนีย ต้องขอบคุณความเฉลียวฉลาดและประสาทสัมผัสได้การดมกลิ่นของพวกมัน เนื่องจากสัตว์เหล่านี้เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการตรวจสอบหากับระเบิด หนูที่ถูกฝึกอบรมจนจบหลักสูตรจะถูกเรียกว่า “หนูฮีโร่” และถูกส่งไปทำงานได้ในประเทศอื่นๆ เช่น กัมพูชา นอกจากนั้นพวกมันยังมีส่วนช่วยในงานด้านสาธารณสุข อย่างเช่นการใช้การดมกลิ่นเพื่อวินิจฉัยวัณโรคระยะแรกได้อีกด้วย

5. โทรเลข และ ความโศกเศร้า

ในระหว่างการเดินทางไกลของ ซามูเอล มอร์ส เขาได้รับจดหมายจากพ่อที่กล่าวว่า ภรรยาของเขาล้มป่วยลงจากโรคร้ายแรง และหลังจากนั้นต่อมาอีก 3 วัน เขาก็ได้รับจดหมายว่าภรรยาของเขาเสียชีวิต และจากการติดต่อสื่อสารที่ล่าช้า ทำให้มอร์สไม่เคยได้กล่าวคำว่า “ลาก่อน” กับภรรยาสุดที่รักของเขา

ต่อมา มอร์สได้เข้าฟังการบรรยายเกี่ยวกับไฟฟ้า และเขาได้เริ่มคิดค้นเกี่ยวกับเครื่องมือการสื่อสารที่รวดเร็วขึ้น จนกระทั่งอีก 12 ปีต่อมา เขาได้ประดิษฐ์เครื่องส่งข้อความที่รวดเร็วได้สำเร็จ โดยคำแรกที่เขาส่งจากวอชิงตันดีซีไปบัลติมอร์ก็คือ “สิ่งต่างๆ พระผู้เป็นเจ้าล้วนรังสรรค์ขึ้น”

6. นกพิราบ และ มะเร็ง

ทีมนักวิทยาศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาได้ทดสอบความสามารถของนกพิราบ จากการแยกแยะตัวอย่างเนื้อเยื่อมะเร็งกับเนื้อเยื่อปกติ พวกเขาพบว่านกพิราบมีความสามารถในการแยกแยะได้ดีพอๆ กับมนุษย์ หลังจากที่ได้ฝึกให้นกเรียนรู้ลักษณะหน้าตาของเนื้อร้ายและเนื้อดีจากภาพขยายจากกล้องจุลทรรศน์ และภาพเอ็กซเรย์จากการตรวจด้วยเครื่องแมมโมแกรม โดยหลังจากฝึกฝนไปได้ 2 สัปดาห์ นกพิราบเหล่านี้มีความแม่นยำในการแยกแยะมีสูงถึง 85% และสามารถแยกแยะเนื้อเยื่อมะเร็งจากภาพที่พวกมันไม่เคยเห็นมาก่อนได้อีกด้วย

7. สีชมพู และ ความเป็นชาย

ในอดีตที่ผ่านมา สีชมพูถูกมองว่าเป็นสีของเด็กผู้ชายและสีน้ำเงินถูกมองว่าเป็นสีของเด็กผู้หญิง ส่วนสีขาวนั้นถือว่าเหมาะสำหรับทั้งชายและหญิง แต่รสนิยมด้านสีของมนุษย์เริ่มเปลี่ยนไปในช่วงศตวรรษที่ 20 จากการเคลื่อนไหวด้านสิทธิสตรีและการตลาดที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ ซึ่งทางการศึกษาทางด้านจิตวิทยานั้นพิสูจน์ว่า ทัศนคติด้านสีของเด็กมีพื้นฐานมาจากความคิดเห็นสาธารณะเท่านั้น

8. เหรียญโอลิมปิก และ ศิลปะ

เราเคยคิดว่า โอลิมปิก คือการแข่งขันกีฬาเท่านั้น และกีฬาที่เกี่ยวข้องกับศิลปะมากที่สุดอาจเป็นยิมนาสติก แต่ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 นับตั้งแต่ปี 1912 จนถึงปี 1948 ได้มีการแข่งขันโอลิมปิกด้านศิลปะอยู่ด้วย โดยมันเป็นความตั้งใจของ ปีแยร์ เดอ กูแบร์แต็ง ผู้ก่อตั้งกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ ที่เชื่อว่ากีฬาและศิลปะเป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาสุขภาพทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจให้ดีขึ้น และเขาคิดว่างานดานศิลปะก็ควรเกี่ยวข้องกับกีฬาเช่นกัน ซึ่งการแข่งขันโอลิมปิกด้านศิลปะในสมัยนั้นถูกแบ่งออกเป็น 5 ประเภทได้แก่ ด้านจิตรกรรม, ด้านสถาปัตยกรรม, ด้านวรรณกรรม, ด้านประติมากรรม และด้านดนตรี

9. แสงแดด และ การจาม

อ้างอิงจากข้อมูลของนักวิทยาศาสตร์ ทุกๆ การจาม 1 ใน 4 ของคนบนโลกนี้เกิดจากแสงแดดจ้า มันคือลักษณะทางพันธุกรรมที่สืบทอดกันมา (โอกาสที่จะได้รับสืบทอดอยู่ที่ 50%) การระคายเคืองจอประสาทตาทำให้เกิดการจามที่ต่อเนื่องตั้งแต่ 1 ถึง 10 ครั้ง จากนั้นก็จะหยุดไปนาน 24 ชั่วโมง ซึ่งการจามเมื่อเจอแดดถือเป็นเรื่องปกติ และคนไทยหลายๆ คนก็ประสบกับอาการนี้เช่นกัน

10. สุนัข และ ตีนตุ๊กแก

หลังจากที่ จอร์จ เดอ เมสทรัล วิศวกรชาวสวิสได้พาสุนัขออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้าน เขาได้สังเกตว่ามีดอกหญ้าเจ้าชู้มาเกาะตามขนสุนัขของเขา จอร์จสงสัยว่าทำไมมันถึงได้ติดแน่นแบบนั้น จึงได้นำมันไปส่งกล้องจุลทรรศน์ดูและก็พบว่า ที่ปลายดอกหญ้าเหล่านี้มีตะขอเล็กๆ คล้องกับขนสัตว์อยู่ และนั่นจึงเกิดเป็นไอเดียที่ทำให้เขาคิดค้นแถบตีนตุ๊กแกขึ้นมาโดยถูกจดสิทธิบัตรในชื่อ “เวลโคร” (Velcro)

11. ไวกิ้ง กับ การโฆษณา

เอริก เดอะ เรด คือนักเดินทางและนักสำรวจผู้ค้นพบกรีนแลนด์ เขาคือบุคคลแรกที่ใช้การตลาดที่ยอดเยี่ยมจากการตั้งชื่อเพื่อดึงดูดผู้คน เอริกตั้งชื่อแผ่นดินนี้ว่า “กรีน” ซึ่งหมายถึงสีเขียว แม้ว่าแผ่นดินนี้จะเต็มไปด้วยน้ำแข็งและสีขาว แต่การตั้งชื่อว่า กรีนแลนด์ ของเขาสามารถดึงดูดผู้คนให้ย้ายถิ่นฐาน ติดตามเขาไปยังดินแดนกรีนแลนด์ได้เป็นจำนวนมาก ภายในระยะเวลาแค่ปีเดียวเท่านั้น

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ

ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา