สาวอเมริกันเผยชีวิต LGBTQ แสนสุขในบาหลี จนถูกเนรเทศออกนอกประเทศ

คริสเตน เกรย์ อินฟลูเอนเซอร์สายท่องเที่ยวได้ใช้เวลาตลอดทั้งปี 2020 ของเธอในบาหลี และเรื่องราวของเธอกำลังกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ไม่ใช่เพียงเพราะการที่เธอเปิดเผยชีวิตที่แสนดีงามบนเกาะแห่งนี้ แต่เป็นเพราะเธอกำลังจะถูกเนรเทศ เนื่องจากโพสต์ของเธอบนทวิตเตอร์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

คริสติน ได้ทวิตประสบการณ์การย้ายจากอเมริกามายังเกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซียประมาณ 1 ปี กับแฟนสาวของเธอ แซนดรา อเล็กซานดรา

ทวิตของเธอเหมือนกับการบอกเล่าประสบการณ์ชีวิตทั่วไป เธอกล่าวว่าเกาะแห่งนี้เป็นอะไรที่มหัศจรรย์อย่างมาก ชีวิตที่ดีขึ้นที่มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่ถูกลง ที่ LA เธอต้องจ่ายค่าเช่า 1,300 ดอลลาร์ แต่ตอนนี้เธอจ่ายค่าเช่าแค่ 400 ดอลลาร์เท่านั้น

ภาพเปรียบเทียบบ้านที่ LA ของเธอในเดือนธันวาคม 2019 กับบ้านที่บาหลีในเดือนมกราคม 2021

คริสเตนกล่าวต่อไปว่า การเป็น “คนเร่ร่อนดิจิทัล” คือทุกสิ่งแล้ว เธอทำธุรกิจกราฟิกดีไซน์ได้ทุกที่ ทำงานให้ตัวเองแบบ 100% ตอนแรกมันคือการท้าทาย แต่เธอก็เติบโตจนเป็นผู้บริหารกิจการเองได้

ต้องอธิบายคำว่า คนเร่ร่อนดิจิทัล (Digital Nomad) หมายถึงบุคคลที่สามารถทำงานได้เงินผ่านระบบออนไลน์ โดยที่คุณสามารถเดินทางไปทำงานที่ไหนก็ได้บนโลก เพียงแค่มีแล็ปท็อปกับอินเทอร์เน็ตเท่านั้น

กลับมาที่คริสเตน เธอยังคิดว่าการย้ายมาที่นี่มันมาจากสัญชาตญาณ มันมีพลังงานบางอย่างที่เธอต้องมาหยุดที่นี่ บาหลีคือยาที่สมบูรณ์แบบ

ในเดือนมีนาคม หลังจากการระบาดของโควิด-19 แผนการท่องเที่ยว 6 เดือนของเธอก็ล้มพับไป เธอกับแฟนสาวจึงตัดสินใจอยู่ที่บาหลีเพื่อรอการระบาดจบลง และเธอก็อยู่ที่นั่นนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

สิ่งที่เธอได้จากการมาอยู่บาหลีก็คือ ความปลอดภัย ค่าครองชีพต่ำ ไลฟ์สไตล์ที่หรูหรา ชาว LGBT ที่เป็นมิตรและชุมชนคนผิวสีในบาหลี

มีกลุ่มคนผิวสีที่เป็นชาวท้องถิ่นที่นี่ นี่เกิดขึ้นหลังจากมีเหตุการณ์ของ จอร์จ ฟลอยด์ เธอได้รับการต้อนรับจากคนในชุมชนที่เป็นมิตรต่อกันมาก

นอกจากนั้น การมาอยู่บาหลียังช่วยเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจของเธอ เช่น ความเจ็บปวดในวัยเด็ก และโรคทางกายอย่างลำไส้แปรปรวนและกรดไหลย้อน เธออยากหยุดชีวิตแบบอเมริกันเพื่อมาพักและเยียวยาที่นี่

คริสเตนเริ่มลงท้ายด้วยการชักชวนผู้คนและวิธีการเดินทางมายังประเทศอินโดนีเซียในระหว่างโควิด

เธอแปะลิงค์ขาย E-Book ของเธอรวมไปถึงช่องทางติดตามเธอบนโซเชียลอย่างอินสตาแกรมและติ๊กตอก

ดูเหมือนในช่วงท้ายของทวิตเธอจะเป็นการสร้างดราม่าอย่างใหญ่หลวง เพราะประเทศอินโดนีเซียเองได้ทำการล็อคดาวน์ไม่ให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศมาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด รวมไปถึงกิจกรรมสาธารณะต่าง ๆ บนเกาะชวาและเกาะบาหลีก็ถูกงดทั้งหมด

รัฐบาลอินโดนีเซียมองว่า ทวิตของคริสเตนเข้าข่าย “เผยแพร่ข้อมูลที่ปลุกปั่นต่อสาธารณะ” และตัดสินใจที่จะเนรเทศเธอออกนอกประเทศโดยทันที

จากคำแถลงของรัฐบาลระบุว่า ข้อความของเธอถือเป็นการเตรียมจัดหาที่อยู่ให้กับชาว LGBT และชักชวนให้มาอยู่ร่วมกันในระหว่างการแพร่ระบาด รวมไปถึงลิงก์ E-Book ของเธอยังเป็นเอเจนซี่ที่ให้ความช่วยเหลือชาวต่างชาติที่ต้องการย้ายมายังเกาะบาหลีอีกด้วย

ในลิงก์ของเธอระบุว่า เธอสามารถพาเข้ามายังเกาะบาหลีได้ง่าย ๆ ผ่านหน่วยงานที่เธอแนะนำ โดยมีข้อเสนอทั้งค่าครองชีพที่ต่ำ ความสะดวกสบายและชุมชน LGBTQ ที่เป็นมิตร

คริสเตนเสนอขาย E-Book ในราคา 30 ดอลลาร์ รวมถึงให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเป็นชาวต่างชาติในบาหลีที่ราคา 50 ดอลลาร์ เธอถูกสงสัยว่ากำลังทำธุรกิจการท่องเที่ยวในบาหลี

ในขณะที่คริสเตนออกมาบอกว่า “ฉันไม่ผิด ฉันไม่ได้อยู่เกินวีซ่า (ท่องเที่ยว) ของฉันด้วย ฉันไม่ได้หาเงินปูเปียห์กับชาวอินโดนีเซีย ฉันออกแถลงการณ์เกี่ยวกับ LGBT และฉันถูกเนรเทศเพราะเป็น LGBT”

เรื่องนี้ถือเป็นประเด็นที่น่าสนใจ เพราะถึงแม้การเป็น LGBT ในทางเทคนิคจะไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย (ยกเว้นในอาเจะห์ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีกฏหมายอิสลามที่เข้มงวด) แต่ก็มีการกลั่นแกล้งต่อบุคคลเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น โดยผลสำรวจจาก Pew Research Center ระบุว่า มีชาวอินโดนีเซียเพียง 9% เท่านั้นที่ยอมรับความรักในเพศเดียวกัน

แล้วคุณล่ะ คิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องราวของคริสเตน เกรย์ กันบ้าง มาแสดงความคิดเห็นของคุณได้ในคอมเมนต์

ที่มา : boredpanda | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ