เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม และ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1945 สหรัฐอเมริกาได้ทิ้งระเบิดปรมาณู 2 ลูก คือที่นางาซากิและฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าการทิ้งระเบิดทั้ง 2 ครั้งนี้ เป็นการทิ้งระเบิดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มวลมนุษยชาติ และไม่เคยมีสงครามไหนที่เป็นสงครามนิวเคลียร์อีก
ระเบิดลูกแรกมีขนาดเล็ก จึงได้ชื่อว่า “Little Boy” ถูกทิ้งที่ฮิโรชิม่า ส่วนลูกที่สองชื่อว่า “Fat Man” เป็นลูกใหญ่ ถูกทิ้งที่นางาซากิ ซึ่งหลายคนน่าจะได้เห็นภาพผลกระทบของระเบิดนิวเคลียร์ทั้ง 2 ลูกนี้กันมาบ้างแล้ว

แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีการเปิดเผยภาพ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนการทิ้งระเบิดจะเริ่มขึ้น เป็นการเตรียมการของทหารสหรัฐ ที่ต้องตรวจสอบระเบิดและขนย้ายพวกมันขึ้นเครื่องบินไป
บรรดาทหารกำลังตรวจสอบเจ้า Fat Man อย่างละเอียด ซึ่งก่อนหน้านี้ มีการทดสอบทิ้งระเบิดหลายครั้งที่เกาะทิเนียน

ซ้ายมือ ฟรานซิส เบิร์ช นักธรณีฟิสิกส์และผู้เข้าร่วมโปรเจคแมนฮัตตัน กำลังทำเครื่องหมายบางอย่างบนเจ้า Little Boy ในขณะที่ นอร์แมน แรมซีย์ ผู้ที่ต่อมาชนะรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ กำลังยืนดูอยู่

ช่างเทคนิคกำลังฉาบรอยต่อของ Fat Man เพื่อในแน่ใจว่า สภาพแวดล้อมข้างในระเบิดจะเสถียรพอที่ระเบิดจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

ทหารและคนงาน ต่างร่วมเซ็นชื่อและข้อความลงบน Fat Man

มาดูใกล้ๆ กันว่า พวกเขาเขียนว่าอะไรกันบ้าง

Fat Man ถูกขนขึ้นบนรถพ่วง

ระเบิดถูกคลุมด้วยผ้าใบกันน้ำ และขนส่งไปยังฐานทัพอากาศนอร์ทฟิลด์ที่อยู่บนทิเนียน

ที่ฐานทัพอากาศ Fat Man ถูกขนย้ายมายังหลุมที่เตรียมไว้โดยเฉพาะ เพื่อรอเครื่องบินมาโหลดมันไปทิ้งในวันที่ 9 สิงหาคม 1945

หลุมเก็บระเบิดทั้ง 2 แห่งของ Little Boy และ Fat Man มีความลึก 8 ฟุตและ 12 ฟุตตามลำดับ โดยปัจจุบัน มันได้กลายเป็นอนุเสาวรีย์ที่ระลึกบนเกาะแห่งนี้ไปแล้ว

ระเบิดถูกขนลงหลุมด้วยลิฟต์ไฮโดรลิก

คนงานตรวจสอบ Little Boy เป็นครั้งสุดท้าย และพวกเขาก็ทำเหมือนกันกับ Fat Man ในอีก 3 วันต่อมา

Enola Gay เครื่องบินทิ้่งระเบิดโบอิ้ง B-29 เตรียมมารับเจ้า Little Boy แล้ว

ผ้าใบถูกเปิดออก และระเบิดพร้อมถูกโหลดขึ้นเครื่อง

Little Boy ถูกยกขึ้นลิฟต์ไฮโดรลิคอีกครั้ง ขึ้นไปใต้ท้องเครื่องของ Enola Gay

มีการตรวจสอบข้่างในเครื่อง เพื่อความปลอดภัยอีกครั้ง

เปรียบเทียบภาพแรงระเบิดจาก Little Bot ด้านซ้ายที่ถูกทิ้งที่ฮิโรชิม่า และ Fat Man ทางด้านขวาที่ถูกทิ้งที่นางาซากิ การทิ้งระเบิด 2 ครั้งนี้ ทำให้สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากระเบิด 2 ครั้งนี้ถึง 250,000 คน ถือเป็นการสูญเสียจากสงครามครั้งที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ไม่ว่าผู้แพ้หรือผู้ชนะ ต่างก็มีแผลในใจที่ไม่มีวันลบเลือน

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
ที่มา : rocketnews24 | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
			









