Banksy คือศิลปินสตรีทอาร์ตที่ไม่เคยเปิดเผยตัวตนและสร้างผลงานของเขาไปทั่วเมืองลอนดอน รวมไปถึงสถานที่ต่าง ๆ ของโลก และทุกครั้งที่ผลงานของเขาปรากฎขึ้นก็จะกลายเป็นปรากฎการณ์ที่ฮือฮา กลายเป็นหน้าข่าวบนโลกออนไลน์ และทำให้สถานที่นั้นมีชื่อเสียงและเป็นสิ่งล้ำค่าขึ้นมาทันที
หนึ่งในนั้นก็คือภาพผลงานของเด็กหญิงถือชะแลงที่ถูกวาดบนผนังร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งหนึ่งในเมืองโลเวสทอฟต์เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดยหลังจากที่ผลงานนี้ปรากฎขึ้นก็ทำงานเมืองชายทะเลแห่งนี้มีชื่อเสียงขึ้นมาทันที
แต่ล่าสุด คู่รักเจ้าของร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าตัดสินใจที่จะขายภาพวาดของ Banksy ที่อยู่บนกำแพงร้านของพวกเขา ด้วยการตัดมันไปทั้งแผ่น และคาดการณ์ว่าผลงานกราฟิตีดังกล่าวถูกขายไปได้ในราคาที่สูงถึง 2 ล้านปอนด์ หรือราว 90 ล้านบาท
การตัดสินใจของทั้งคู่ได้สร้างความผิดหวังและไม่พอใจให้กับชาวเมืองโลเวสทอฟต์อย่างมาก จนถึงขนาดภาครัฐออกมาพูดถึงการกระทำในครั้งนี้
นาซิมา เบกัม รองนายกเทศมนตรีของเมืองได้ออกมากล่าวว่า “เป็นเรื่องน่าละอายที่มีคนตัดสินใจหากำไรจากสิ่งที่ไม่ใช่ของพวกเขา”
“ฉันแน่ใจว่า Banksy ไม่ได้วาดมันลงไปบนกำแพงเพื่อหวังว่าจะมีคนหากำไรจากมัน”
“เป็นเรื่องน่าเสียดายจริง ๆ เพราะงานศิลปะของ Banksy สร้างความฮือฮาและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มายังที่นี่จำนวนมาก”
ในขณะที่ จอห์น แบรนด์เลอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะและนักสะสมผลงานของ Banksy กล่าวว่า ภาพวาดกราฟิตีของ Banksy ชิ้นนี้เอาจทำเงินให้กับเจ้าของกำแพงได้มากถึง 1.5 ถึง 2 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
มีข่าวลือว่า แกรี และ นาดีน ชวาตซ์ คู่รักเจ้าของร้านดังกล่าวได้ส่งงานศิลปะไปยัง Julien’s Auctions บริษัทประมูลสิ่งของล้ำค่าที่เกี่ยวกับภาพยนตร์ เพลง กีฬา รวมไปถึงงานศิลปะ แต่ดูเหมือนว่าผลงานดังกล่าวจะไม่ได้ถูกส่งออกไปจากแผ่นดินอังกฤษ เนื่องจากผู้บริหารของ Julien’s Auctions ปฏิเสธเรื่องนี้ และบอกว่ามันคือการขายกันแบบส่วนตัวไม่ได้เปิดเผยแต่อย่างใด
จอห์น แบรนด์เลอร์ กล่าวว่าราคามาตรฐานสำหรับผลงานของ Banksy ที่ Julien’s Auctions ประเมินไว้ต่ำเกินไป ซึ่งผลงานของ Banksy สามารถขายได้ราคาสูงกว่านั้นมาก
แต่ไม่ว่ามันจะขายได้ในราคาสูงมากแค่ไหน แต่ชาวเมืองก็ไม่พอใจสำหรับการขายผลงานที่ควรเป็นของเมือง แล้วคุณล่ะคิดว่าการตัดสินใจขายภาพบนกำแพงร้านของคู่รักคู่นี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรือไม่
ที่มา : mirror | เรียบเรียงโดย เพชรมายา