ถ้าปราสาทที่เหลือแต่ซากถูกบูรณะขึ้นใหม่ จะมีหน้าตาเป็นแบบไหน

หากคุณได้มีโอกาสไปเที่ยวยังโบราณสถานในต่างประเทศ คุณอาจเห็นว่าสิ่งก่อสร้างโบราณเหล่านั้นแตกหักเสื่อมสลายไปตามกาลเวลาจนอาจหาสภาพสมบูรณ์ได้ยาก หลายคนมองเห็นซากปรักหักพังเหล่านี้แล้วจินตนาการถึงส่วนต่างๆ ที่หายไป แต่นั่นก็ยังไม่อาจช่วยให้คุณได้มองเห็นภาพที่แท้จริงของสิ่งก่อสร้างโบราณเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน

เมื่อเร็วๆ นี้ ทาง On Stride Financial ได้หยิบปราสาทโบราณในสหราชอาณาจักร 6 แห่ง มาทำการบูรณะใหม่ผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ช่วยทำให้คุณเห็นว่า ปราสาทที่เหลือแต่ซากปรักหักพังเหล่านี้ ถ้ามันถูกบูรณะกลับมาให้เหมือนใหม่จริงๆ จะมีสภาพเป็นอย่างไร และจะแตกต่างจากที่เห็นอยู่ในปัจจุบันแค่ไหน

1. ปราสาทดันลูซ (Dunluce Castle), เทศมณฑลแอนทริม, ไอร์แลนด์เหนือ

นี่คือหนึ่งในปราสาทที่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจที่สุดในบรรดาปราสาททั้งหมด มันถูกสร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 1500 ก่อนที่จะถูกทิ้งร้างในปี ค.ศ. 1639 หลังจากที่ห้องครัวที่อยู่ฝั่งหน้าผาได้พังทลายลงไปพร้อมกับคนงานที่ติดอยู่ในนั้น จมไปสู่ทะเลเบื้องล่าง ในขณะที่ครอบครัวของท่านเอิร์ล แห่งแอนทริมกำลังนั่งคอยอาหารเย็นอยู่

สองปีต่อมา เมืองเล็กๆ ค่อยๆ ถือกำเนิดขึ้นรอบๆ ปราสาทที่ถูกทิ้งร้าง จนปัจจุบันปราสาทแห่งนี้กลายเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญที่ทำให้เราได้ศึกษาถึงประวัติศาสตร์ของผู้คนในสมัยนั้นได้อย่างแท้จริง

2. ปราสาทดันสแตนเบิร์ก (Dunstanburgh Castle), นอร์ทัมเบอร์แลนด์, อังกฤษ

เอิร์ลโธมัสแห่งแลนคาสเตอร์ คือบารอนที่มีอำนาจมากที่สุดของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 2 เขาตัดสินใจสร้างปราสาทที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ขึ้นเพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของตัวเอง หลังจากที่เกิดความขัดแย้งกับกษัตริย์ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ดื่มด่ำกับความยิ่งใหญ่ของปราสาท ก็ดันถูกจับไปประหารเสียก่อน

ในช่วงสงครามดอกกุหลาบ (ค.ศ. 1455-1485) ปราสาทแห่งนี้ได้รับความเสียหายอย่างมากเนื่องจากเป็นจุดปะทะ และในทุกวันนี้มันกลายเป็นปราสาทที่เหลือแต่ซากปรักหักพัง แสดงถึงความน่ากลัวและหม่นหมองในเขตนอร์ทัมเบอร์แลนด์

3. ปราสาทโบธเวลล์ (Bothwell Castle), เซาท์ ลานาร์คเชียร์, สกอตแลนด์

ปราสาทที่ถูกสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 แห่งนี้ มีบทบาทสำคัญในสงครามประกาศอิสรภาพสกอตแลนด์ มันถูกเปลี่ยนมือครั้งแล้วครั้งเล่าระหว่างสกอตแลนด์และอังกฤษ ในระหว่างเกิดสงคราม

สถาปัตยกรรมของปราสาทโบธเวลล์มีความโดดเด่นตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น โดยเฉพาะป้อมปราการที่อยู่ภายในปราสาท ถึงแม้มันจะเสียหายไปมากก็ตาม มีเรื่องเล่าว่าหากคุณไปเยี่ยมชมปราสาทแห่งนี้ในคืนฮาโลวีน คุณอาจได้พบกับวิญญาณของ “บอนนี จีน” หญิงสาวชนชั้นสูงที่จมน้ำเสียชีวิตในระหว่างที่ข้ามแม่น้ำไคลด์ เพื่อหนีไปกับคนรักของเธอ

4. ปราสาทกูดริช (Goodrich Castle), เฮียร์ฟอร์ดเชียร์, อังกฤษ

ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1102 โดยขุนนางชาวแองโกล-แซกซอนคนหนึ่งหลังจากที่ชาวนอร์มันรุกรานอังกฤษ ซึ่งสภาพของมันยังดูดีอยู่จนกระทั่งเกิดสงครามกลางเมืองในปี ค.ศ. 1642-1646 ปราสาทแห่งนี้ถูกโจมตีด้วยกระสุนปืนใหญ่หนัก 200 ปอนด์ จนเสียหายอย่างหนัก

ปัจจุบัน ปราสาทกูดริชได้ชื่อว่าเป็นซากปรักหักพังที่มีชื่อเสียงที่สุดในเขตเฮียร์ฟอร์ดเชียร์ และถูกเป็นสถาปัตยกรรมทางการทหารที่ดีที่สุดในอังกฤษ และนักท่องเที่ยวยังสามารถเข้ามาเยี่ยมชมการจัดแสดงนิทรรศการทางประวัติศาสตร์และทัศนียภาพที่งดงามได้อีกด้วย

5. ปราสาทแคร์ลาเวอร์ร็อค (Caerlaverock Castle), ดัมไฟรส์ และ กัลโลเวย์, สกอตแลนด์

ปราสาทรูปทรงสามเหลี่ยมแห่งเดียวในสหราชอาณาจักรมีประวัติศาสตร์รื้อถอนทั้งหมด 3 ครั้งด้วยกัน ถูกสร้างขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1280 และถูกรื้อถอนตามความต้องการของเซอร์ โรเบิร์ต บรูซ ในช่วงศตวรรษที่ 14 เพื่อป้องกันไม่ให้มันตกไปอยู่ในมือของจักรวรรดิอังกฤษ หลังถูกสร้างขึ้นใหม่ มันถูกรื้อทิ้งโดยท่านเอิร์ลแห่งซัสเซ็กส์ ในปี ค.ศ. 1570 และต่อมามันถูกสร้างขึ้นใหม่อีกครั้ง และเป็นเวลาแค่ 13 สัปดาห์ ก่อนที่มันจะถูกรื้อถอนครั้งสุดท้ายในระหว่างสงครามบิชอป ซึ่งทำให้มันมีสภาพอย่างที่เห็นในทุกวันนี้

ปัจจุบัน ถึงแม้สภาพของปราสาทเหลือแต่ซากปรักหักพัง แต่มันก็ยังดูมีมนต์ขลัง โดยเฉพาะหอคอยคู่และชั้นใต้ดินของปราสาท ที่ถูกจัดแสดงนิทรรศการเพื่อแสดงถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของปราสาทแห่งนี้

6. ปราสาทคิดเวลลี (Kidwelly Castle), ดาเฟด, เวลส์

ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกด้วยไม้ตอนที่ชาวนอร์มันผ่านเข้ามาทางตอนใต้ของเวลส์ ในช่วงปี ค.ศ. 1106 ส่วนป้อมปราการหินได้ถูกเพิ่มเข้ามาในช่วงท้ายของทศวรรษที่ 1300 เพื่อทำหน้าที่ป้องกันการก่อจราจลของ โอเวน กลินดว์ ที่ปิดล้อมปราสาทแห่งนี้นานถึง 5 เดือน

หลายปีต่อมาหลังความสงบสุขกลับคืน ปราสาทแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่พักอาศัยและแสดงความยิ่งใหญ่ของกองกำลังทหาร ก่อนที่จะถูกปล่อยทิ้งร้างไปในที่สุด ปราสาทคิดเวลลี ถือเป็นหนึ่งในปราสาทที่สวยงามที่สุดในเวลส์ โดยคุณสามารถมาชมหมอกยามเช้าที่สวยงาม ราวกับทำให้คุณหลุดเข้าไปในช่วงเวลาประวัติศาสตร์ของปราสาทแห่งนี้

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ

ที่มา : onstride | boredpanda | เรียบเรียงโดย เพชรมายา