เมื่อเบาะรองนั่งที่แสนสบาย กลายเป็นที่ตรวจสอบการอู้งานของคุณ ชีวิตการทำงานของคุณจะยังเป็นสุขอยู่หรือเปล่า
พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งในจีนหลงดีใจ ที่เจ้านายมอบเบาะรองนั่งสุดไฮเทคเป็นของขวัญปีใหม่ แต่ปรากฏว่าเบาะดังกล่าวกลายเป็นเครื่องตรวจสอบเวลาทำงาน
เรื่องดังกล่าวเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดียของจีน เมื่อพนักงานสาว ในบริษัทแห่งหนึ่งของมณฑลเจ้อเจียง ได้โพสต์ว่าบริษัทแอบตรวจสอบการทำงานของเธอ ผ่านเบาะรองนั่งสุดไฮเทค ที่ให้เป็นของขวัญปีใหม่ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมและกฏหมาย
ผู้ใช้โซเชียลมีเดีย ชื่อ Wang ได้เล่าเรื่องนี้ว่าเธอและพนักงานอีก 9 คนในออฟฟิศ ได้รับการตรวจสอบผ่านเบาะรองนั่งสุดไฮเทคในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เบาะรองนั่งนี้เป็นของขวัญจากผู้บริหารของบริษัท โดยบอกว่าเบาะนี้จะช่วยเรื่องสุขภาพ ในเวลานั่งทำงาน แต่ความจริงมันไม่ใช่
Wang เล่าว่าตอนแรกเธอและเพื่อนร่วมงานดีใจกับของขวัญของบริษัท เนื่องจากเบาะรองนั่ง มีคุณสมบัติพิเศษมากมาย สามารถวัดอัตราการหายใจ อัตราการเต้นของหัวใจ และท่าทางการนั่ง แถมยังเตือนให้พวกเขายืดตัว หรือลุกขึ้นหากพวกเขานั่งทำงานยาวนาน ซึ่งพนักงานทุกคนรู้สึกดี ที่บริษัทให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ของพนักงาน
จนวันหนึ่ง Wang พบกับผู้จัดการแผนกทรัพยากรบุคคล เขาได้ถามเธอว่าทำไมเธอไม่อยู่ที่โต๊ะทำงานระหว่าง 10.00 – 10.30 น. ของวัน ก่อนพูดติดตลกเพิ่มเติมว่า ฝ่ายบริหารจะตัดโบนัสรายเดือนของเธอ หากพฤติกรรมนี้ยังคงอยู่ เธอรู้เลยว่าวิธีเดียวที่ HR จะรู้เวลาที่แน่นอนว่าเธอไม่อยู่จากโต๊ะทำงานคือ เบาะรองนั่งอัจฉริยะ
“ ฉันรู้สึกเหมือนถูกตรวจสอบในที่ทำงานราวตลอดเวลา ราวกับมีอุปกรณ์ติดตามตัวติดอยู่ ข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดในช่วงเวลาทำงาน เช่นระยะเวลาที่คุณใช้ในที่ทำงาน เมื่อคุณอยู่และไม่อยู่ ในโต๊ะทำงาน เห็นได้ชัดว่า แผนกทรัพยากรบุคคลได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลนี้ ดังนั้นประสิทธิภาพการทำงานของเราจะได้รับการประเมินตามข้อมูลดิจิทัลหรือไม่” เธอสงสัย
โพสต์ของ Wang กลายเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดีย และถูกนำเสนอข่าว จนบริษัท Hebo Technology ต้องเผชิญกับกระแสวิจารณ์มากมาย และต้องออกแถลงการณ์ โดยตัวแทนของบริษัท ยอมรับว่า บริษัทได้มีการมอบเบาะรองนั่งเป็นของขวัณแก่พนักงาน แต่ปฏิเสธว่า บริษัท ไม่ได้ใช้เบาะดังกล่าวเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบ
“บริษัทได้มอบเบาะรองนั่งให้กับพนักงาน เพื่อรวบรวมข้อมูลการทดสอบเพิ่มเติม ใม่ใช่ตรวจสอบพวกเขา” ตัวแทนบริษัทกล่าว ซึ่งคำอธิบายดังกล่าวทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของบริษัทลดลงเล็กน้อยเพราะเหตุผลไม่เพียงพอ
หนังสือพิมพ์ 21st Century Business Herald เปิดเผยว่าพนักงานได้รับแบบฟอร์มการยินยอมในการรวบรวมข้อมูล แต่เป็นภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาจีน
ทนายความหยางเหวินซาน กล่าวว่า บริษัท ละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัว โดยอนุญาตให้แชร์ข้อมูลที่รวบรวมกับพนักงานคนอื่น ๆ เช่นการจัดการทรัพยากรบุคคล หากบริษัท ได้แจ้งให้พนักงานทราบเกี่ยวกับการทดสอบนี้จะถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามเอกสารยินยอมที่ส่งไปยังเจ้าหน้าที่ทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษแทนที่จะเป็นภาษาจีน”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกกับประเด็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวในจีน เพราะเมื่อ 2-3 ปีก่อน เคยมีบริษัทหนึ่งผลิตเครื่องแบบอัจฉริยะที่ใช้ GPS สำหรับนักเรียน และยังมีการออกแบบระบบจดจำใบหน้าที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อตรวจสอบความสนใจของนักเรียนระหว่างชั้นเรียน
ที่มา : scmp | odditycentral | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ