ในปัจจุบัน เราใช้กระดาษกันแบบทิ้งขว้างโดยไม่ใส่ใจว่าจะสิ้นเปลืองกันแค่ไหน เนื่องจากราคากระดาษที่เราใช้กันมีราคาถูก แต่หากย้อนกลับไปในอดีต กระดาษไม่ได้มีให้ใช้ได้อย่างฟุ่มเฟือยเหมือนทุกวันนี้ ดังนั้นมนุษย์เราจึงคิดค้นเทคนิคการใช้กระดาษในแบบที่คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะทำได้
ย้อนกลับไปในยุคสงครามกลางเมืองของอเมริกาจนถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 20 กระดาษที่ใช้เขียนจดหมายรวมถึงค่าส่งไปรษณีย์มีราคาแพงมาก จนทำให้ผู้คนใช้วิธีประหยัดเงินด้วยการเขียนตัวอักษรซ้ำไปซ้ำมาลงบนกระดาษแผ่นเดิมในทิศทางที่แตกต่างกัน
เทคนิคดังกล่าวเรียกว่า cross-writing หรือ cross-hatching ถึงแม้เราจะอ่านมันแทบไม่ออกเลยก็ตาม แต่ผู้คนในสมัยก่อนกลับคุ้นเคยกับวิธีการแบบนี้ และสามารถอ่านได้ทุกคำอย่างง่ายดาย
จดหมายที่เขียนด้วยตัวอักษรไขว้กันเริ่มต้นจากการเขียนด้วยวิธีปกติ และเมื่อพวกเขาเขียนมันจนไปถึงบรรทัดล่างสุดของกระดาษ แทนที่จะใช้กระดาษแผ่นใหม่ พวกเขาจะหมุนกระดาษ 90 องศาไปทางด้านข้าง และเขียนทับตัวหนังสือที่เขียนไปแล้ว
ในกรณีที่ต้องการประหยัดกระดาษมาก ๆ พวกเขาสามารถเขียนตัวหนังสือไขว้ในแนวทแยงมุมได้อีกด้วย
ผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้จดหมายของผู้คนสมัยก่อนดูราวกับปริศนาที่คุณต้องถอดรหัส แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การฝึกเขียนตัวอักษรไขว้เป็นเรื่องธรรมดามากในช่วงศตวรรษที่ 19 ที่ใคร ๆ ก็สามารถอ่านจดหมายนี้ได้
สิ่งสำคัญก็คือการฝึกดวงตาให้คุ้นชินกับรูปแบบการเขียนตัวหนังสือที่ไขว้กันไปมา จนทำให้คุณสามารถจดจ่ออยู่กับข้อความที่ต้องการ โดยไม่ต้องสนใจข้อความพื้นหลังที่อยู่คนละทิศทางได้
การเขียนอักษรไขว้แพร่หลายในช่วงเวลาหนึ่ง โดยมีนักวิชาการที่มีชื่อเสียงมากมาย แม้แต่ ชาลส์ ดาร์วิน เองก็ใช้วิธีการดังกล่าวเพื่อประหยัดกระดาษ โชคดีที่ในปัจจุบันนี้เราไม่ต้องลำบากเขียนไขว้กันไปมาอีกแล้ว แต่อย่างน้อยเราก็ควรรู้จักวิธีใช้กระดาษอย่างประหยัด เพื่อให้ลูกหลานของเราได้มีทรัพยากรใช้ต่อไปในอนาคต
ที่มา: odditycentral