สวนปีศาจ พื้นที่ลึกลับที่มีแค่ต้นไม้ชนิดเดียวที่โตได้ในป่าดิบชื้นแอมะซอน

ป่าดิบชื้นแอมะซอน ถือเป็นป่าดิบชื้นเขตร้อนที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยมีพื้นกว่า 5.5 ล้านตารางกิโลเมตร กินพื้นที่ 9 ประเทศในแถบทวีปอเมริกาใต้ ที่สำคัญป่าแอมะซอนยังมีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในโลก โดยมีต้นไม้กว่า 39,000 ล้านต้น และมีพันธุ์ไม้ประมาณ 16,000 ชนิด

แต่ลึกเข้าไปในป่าดิบชื้นแอมะซอนกลับมีพื้นที่อยู่จุดหนึ่งที่แปลกประหลาดไม่เหมือนที่ไหน ๆ เพราะมันมีต้นไม้อยู่เพียงแค่ชนิดเดียว ซึ่งพื้นที่นี้ถูกเรียกว่า ‘สวนปีศาจ’ (Devil’s Garden)

ชนเผ่าพื้นเมืองในป่าดิบชื้นแอมะซอนรู้จักสวนปีศาจมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว หรืออาจนานไปจนถึงหลายพันปี พวกเขามีตำนานที่ถูกเล่าขานกันมานานถึงความน่าขนลุกของวิญญาณปีศาจร้าย ที่เป็นคนปลูกต้นไม้ลึกลับชนิดหนึ่งให้แพร่กระจายไปทั่วป่าจนกลายเป็นที่มาของชื่อ ‘สวนปีศาจ’ แห่งนี้

แน่นอนว่าพื้นที่สวนปีศาจที่อยู่บริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเปรูกลายเป็นจุดสนใจของบรรดานักพฤกษศาสตร์และนักชีววิทยาจำนวนมาก พวกเขาสงสัยว่าทำไมในพื้นที่ป่าที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในโลก กลับมีพื้นที่แห่งนี้ที่มีเพียงต้นไม้ชนิดเดียวเท่านั้นที่สามารถเติบโตได้ และต้นไม้ดังกล่าวก็คือ Duroia hirsuta

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ารากของต้นไม้ชนิดนี้มีสาร Plumericin ที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของต้นไม้อื่น ๆ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเขาได้พบว่าจริง ๆ แล้ว สารจากรากต้นไม้ไม่ใช่สาเหตุสำคัญ แต่กลับเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่อาศัยอยู่บนต้นไม้เหล่านั้นต่างหาก

เมแกน อี. เฟรเดอริกสัน นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดและทีมของเธอได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาเกี่ยวกับสวนปีศาจที่ใช้เวลานานถึง 4 ปี โดยพวกเขากล่าวว่า ต้น Duroia hirsuta ไม่ได้กำจัดต้นไม้อื่น ๆ ที่บุกรุกเข้ามาในอาณาเขตของตนเพียงอย่างเดียว แต่สาเหตุที่แท้จริงคือมันเป็นฝีมือของ มดมะนาว (Lemon Ant)

เมแกนและทีมของเธอพบว่า มดมะนาวพยายามสร้างอาณานิคมของพวกมันที่มีต้นไม้เพียงชนิดเดียวด้วยการฉีด ‘กรดฟอร์มิก’ สารกำจัดวัชพืชตามธรรมชาติลงไปในต้นไม้อื่นที่ไม่ใช่ต้น Duroia hirsuta

ผลจากการกำจัดต้นไม้ชนิดอื่นทำให้มดมะนาวมีพื้นที่ทำรังมากมายนับไม่ถ้วน โดยพวกเขาจะใช้วิธีเข้าไปทำรังบนพื้นที่ว่างบนต้นอ่อนของต้น Duroia hirsuta และขยายอาณาจักรต่อไปยังต้นอ่อนใหม่ ๆ จนพวกมันเติบโตขึ้น นักวิจัยคาดว่าอาณานิคมของมดเหล่านี้ยืนยาวมานานกว่า 800 ปีแล้ว

จากการทดลองนำต้นไม้สายพันธุ์อื่น ๆ ไปปลูกในสวนปีศาจ หรือแม้แต่ในห้องทดลอง เมแกนพบว่ามดมะนาวมีการตอบสนองเกือบจะทันที พวกมันจะโจมตีผู้บุกรุกโดยฉีดกรดฟอร์มิกเข้าไปในใบ และจากนั้นพืชแปลกหน้าก็จะเริ่มเฉาไปภายใน 24 ชั่วโมง และโดยส่วนใหญ่จะอยู่รอดได้ไม่เกิน 5 วัน

แต่เดิมที สวนปีศาจอาจเริ่มต้นจากเพียงแค่ราชินีมดมะนาวที่มาตั้งรกรากบนต้น Duroia hirsuta เพียงต้นเดียว ต่อมาพวกมันก็เริ่มแตกหน่อขยับขยายพื้นที่ออกไปเรื่อย ๆ จากการวิเคราะห์ขนาดของสวนปีศาจก็พบว่าพวกมันมีอัตราการเติบโตมากขึ้นราว 0.7% ต่อปี

เมื่อเป็นเช่นนี้ หลายคนสงสัยว่าทำไมป่าดิบชื้นแอมะซอนถึงไม่กลายเป็นป่าที่มีเพียงต้นไม้สายพันธุ์เดียว คำอธิบายสำหรับเรื่องนี้ก็คือ เมื่ออาณานิคมของมดเติบโตขึ้น สวนปีศาจก็เติบโตเกินกำลังที่พวกมดจะสามารถป้องกันการบุกรุกจากพืชพรรณได้

สวนปีศาจ ถือเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่ง เนื่องจากมันพิสูจน์ให้เห็นว่า มดตัวเล็ก ๆ สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมของพวกมันได้ การสร้างอาณานิคมของพวกมันโดยการกำหนดให้มีต้นไม้เพียงชนิดเดียวในระบบนิเวศที่มีความหลากหลายมากที่สุดของโลก ถือเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง

ที่มา : odditycentral | wikipedia | เรียบเรียงโดย เพชรมายา