ถ้าพูดถึง “วันสิ้นโลก” หลายคงอาจมองว่าเป็นเรื่องไกลตัวที่ไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงชีวิตเรา แต่หลังจากเราผ่านปี 2020 มาอาจพูดได้ว่า วันโลกาวินาศอาจมาเร็วกว่าที่คิด ในขณะที่ชาวเน็ตบางคนก็แซวว่า ในเดือนสุดท้ายที่เหลือของปีนี้ การะบาดของเชื้อซอมบี้ หรือการรุกรานจากมนุษย์ต่างดาวอาจกลายเป็นเรื่องจริงก็เป็นได้
และถ้าคุณเป็นมหาเศรษฐีที่กำลังมองหาทางรอดจากสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดล่ะก็ เราขอแนะนำให้รู้จักกับอดีตฐานยิงจรวดมิสไซล์ของสหรัฐอเมริกาในสมัยสงครามเย็น ที่ถูกรีโนเวทใหม่ให้กลายเป็นบังเกอร์หลบภัยที่น่าทึ่งที่สุดในโลก
ฐานลับแห่งนี้ตั้งอยู่บนทุ่งกว้างทางตอนเหนือของเมืองวิชิตา รัฐแคนซัส ดูภายนอกคุณอาจไม่รู้ว่าที่นี่คืออะไรเสียด้วยซ้ำ
แต่ภายในคุณจะได้พบกับชั้นใต้ดินที่ลึกลงไปถึง 15 ชั้น ที่ทำให้คุณสามารถรอดพ้นจากภัยพิบัติส่วนใหญ่ได้ รวมไปถึงยังป้องกันคุณจากระเบิดนิวเคลียร์ได้อีกด้วย
ด้วยพื้นที่กว่า 2 หมื่นตารางฟุต ทำให้บังเกอร์แห่งนี้สามารถรองรับได้ถึง 75 คน หรือประมาณ 12 ครอบครัว
โดยมีทรัพยากรให้คุณใช้ได้นานกว่า 5 ปีเต็ม
รวมถึงแหล่งพลังงานไฟฟ้าที่มีเพียงพอให้คุณได้ใช้งาน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
คุณสามารถใช้ชีวิตที่นี่ได้อย่างสุขสบาย โดยมีทุกสิ่งที่คุณต้องการ
ขอแสดงความยินดีกับคนรักหนังเพราะที่นี่มีโรงภาพยนตร์อยู่ด้วย
ที่นี่มีเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่าง เหมือนที่บ้านหลังหนึ่งควรจะมี
ลิฟต์ที่ทำให้คุณเดินทางไปทั่วทุกชั้นได้อย่างสะดวกสบาย
ห้องรักษาความปลอดภัยที่ทำให้คุณเห็นทุกมุมของบังเกอร์ผ่านกล้องวงจรปิด
ถึงแม้จะเป็นใต้ดิน แต่ที่นี่ก็มีสระว่ายน้ำอีกด้วย มันอาจดูดีจนเรียกเป็นสวนน้ำก็ได้
ตามด้วยหน้าผาจำลอง สำหรับใครที่ชอบสายแอดเวนเจอร์
ห้องออกกำลังกายที่ทำให้คุณฟิตแอนด์เฟิร์มตลอดเวลา
ห้องนอนที่มีภาพหน้าจอจากด้านนอก เหมือนกับหน้าต่างที่ทำให้คุณไม่รู้สึกเหมือนอยู่ใต้ดิน
ห้องสำหรับปฐมพยาบาลและการแพทย์
พื้นที่ทำการเกษตร ในกรณีที่คุณอาจต้องใช้เวลาอยู่ที่นี่นานกว่า 5 ปี
หรือหากคุณจำเป็นต้องฝึกฝนฝีมือการยิงปืนเพื่อสู้กับซอมบี้ เรามีสนามซ้อมยิงปืนให้กับคุณด้วย
ห้องกิจกรรมที่ทำให้คุณไม่ต้องเบื่อกับการใช้ชีวิตใต้ดิน
หรือหากคุณต้องการมุมสำหรับจัดปาร์ตี้เล่นเกมคอมพิวเตอร์
และสุดท้าย หากคุณต้องการพื้นที่สีเขียวเพื่อพาสุนัขไปเดินเล่นหรือนั่งปิกนิกล่ะก็ เราก็มีให้เช่นกัน
สำหรับบังเกอร์แห่งนี้ถูกแบบแบ่งเป็นห้องพักจำนวน 12 ห้องสำหรับ 12 ครอบครัว โดยห้องราคาถูกสุดแบบครึ่งชั้นจะอยู่ที่ 1.5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 45 ล้านบาท) ส่วนห้องที่ได้พื้นที่เต็มชั้นจะอยู่ที่ราคา 3 ล้านดอลลาหร์ (ประมาณ 90 ล้านบาท) และห้องสวีทจะอยู่ที่ราคา 4.5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 135 ล้านบาท)
ราคานี้อาจแพงเกินไปสำหรับห้องที่อยู่ใต้ดินบนพื้นที่ห่างไกล แต่วันไหนที่โลกเราใบนี้เกิดมหันตภัยที่เราคาดไม่ถึง วันนั้นห้องที่นี่จะกลายเป็นสถานที่ ๆ ทุกคนต้องการอย่างแน่นอน ส่วนคนธรรมดาอย่างเราอาจต้องนอนรับชะตากรรมอยู่ที่บ้านหลังเล็ก ๆ กันต่อไป
ที่มา : boredpanda | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
