ดอรา รัตเยน ชายในร่างหญิง กลโกงที่อื้อฉาวที่สุดในกีฬาโอลิมปิก

ย้อนกลับไปในปี 1918 ตอนที่ ดอรา รัตเยน ลืมตาดูโลก พยาบาลเรียกเขาว่าเป็นเด็กผู้ชาย แต่ 5 นาทีต่อมาเธอกลับบอกว่า “ยังไงก็ตาม เธอคือเด็กผู้หญิง” นั่นจึงทำให้เด็กทารกถูกตั้งชื่อว่า ‘ดอรา’

ดูเหมือนนั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นของความโกลาหลในครอบครัวรัตเยน เพราะเด็กน้อยถูกแจ้งเกิดในฐานะเด็กผู้หญิง จนกระทั่ง 9 เดือนต่อมา ดอราป่วยจนต้องไปหาหมอ เพื่อทำการตรวจร่างกายแล้วก็พบว่าดอราคือเด็กผู้ชาย

แต่ ไฮน์ริช รัตเยน ผู้เป็นพ่อกล่าวว่า “ช่างมัน คุณทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว”

ดอราเติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูแบบเด็กผู้หญิง สวมชุดของผู้หญิงมาตลอดตั้งแต่เล็กจนโต จนกระทั่งอายุได้ 10-11 ขวบ เขาเริ่มตระหนักว่าตนเองไม่ใช่ผู้หญิง แต่เป็นผู้ชาย และเขาก็ไม่เคยถามพ่อแม่ว่าทำไมเขาที่เป็นผู้ชายถึงต้องใส่เสื้อผ้าของผู้หญิง

ความเป็นเลิศด้านกีฬา

ดอราเป็นเด็กที่โดดเด่นทางด้านกีฬาอย่างมาก และเขาก็ลงแข่งกีฬาประเภทต่าง ๆ แต่เป็นในฐานะของเด็กผู้หญิง ซึ่งแม้แต่เพื่อนร่วมทีมของเธอยังไม่เคยสงสัยเรื่องนี้แม้แต่นิดเดียว

“เธอไม่เคยมาอาบน้ำกับเรา ฉันคิดว่ามันออกจะแปลกไปสักหน่อย แต่ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเป็นผู้ชาย” เพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งกล่าว

ในโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1936 ที่กรุงเบอร์ลิน ดอราลงแข่งขันกีฬากระโดดสูงประเภทหญิงให้กับเยอรมนี โดยจบอันดับที่ 4 หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็คว้าเหรียญทองจากการแข่งขันกีฬาแห่งชาติของเยอรมนีในปี 1937

ในปี 1938 ดอราคว้าเหรียญทองการแข่งขันกีฬาแห่งชาติยุโรปด้วยการทำลายสถิติโลก และในอีก 1 ปีต่อมาเธอก็สามารถทำลายสถิติโลกของตัวเองได้อีกครั้ง แต่ในครั้งนั้นเอง โดโรธี ไทเลอร์-โอดัม นักกีฬาจากสหราชอาณาจักรที่สงสัยในตัวดอราได้แจ้งต่อคณะกรรมการให้ตรวจสอบว่าดอราเป็นผู้หญิงจริงหรือไม่

ความจริงถูกเปิดเผย

ในช่วงเวลาดังกล่าว ดอราต้องเดินทางโดยรถไฟจากเวียนนาไปโคโลญ เจ้าหน้าที่รถไฟคนหนึ่งรายงานต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีในมักเดบูร์กว่า “มีผู้ชายแต่งตัวเป็นผู้หญิง” อยู่บนรถไฟ

ดอราถูกสั่งให้ออกจากขบวนรถไฟและถูกสอบสวน เขาแสดงเอกสารที่ระบุว่าตนเองเป็นผู้หญิง แต่หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง เขาก็ยอมรับว่าตนเองเป็นผู้ชาย

ดอราถูกนำตัวไปตรวจร่างกายกับแพทย์และผลการตรวจก็พบว่าเขาเป็นผู้ชาย อย่างไรก็ตาม แพทย์อธิบายว่าอวัยวะเพศของดอรามีความพิเศษ โดยมีรอยแผลเป็นยาวและระบุว่าเขาไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ด้วยอวัยวะนี้ได้

ต่อมาเขาถูกนำไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลกีฬา Hohenlychen เพิ่มเติมและก็ได้ผลลัพธ์เช่นเดียวกัน และเขาถูกดำเนินคดีอาญาในข้อหาหลอกลวง

จนกระทั่งไม่กี่เดือนต่อมา พนักงานอัยการกล่าวว่า “ในกรณีของดอราไม่ถือว่าเป็นการหลอกลวงได้ เพราะเขาไม่มีเจตนาที่จะหาประโยชน์กับเงินรางวัล” ส่วนดอราสัญญากับทางการว่าเขาจะ “ยุติการเล่นกีฬาโดยมีผลทันที”

ในตอนแรก พ่อของดอรายืนยันว่าเขาควรได้รับการปฏิบัติในฐานะผู้หญิงต่อไป แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาได้เขียนจดหมายถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งเบรเมนว่า “หลังจากการเปลี่ยนแปลงรายการทะเบียนเกี่ยวกับเพศของเด็ก ผมขอให้คุณเปลี่ยนชื่อแรกของเด็กเป็น ไฮน์ริช”

นั่นส่งผลให้เหรียญทองที่เขาเคยได้รับจากการแข่งขันกีฬาทั้งหมดถูกริบคืนและชื่อของเขาก็ถูกลบออกจากสถิติทั้งหมด

สิ่งที่ไม่ชัดเจนจนถึงตอนนี้

ดอราในบทบาทของไฮน์ริช กลับไปใช้ชีวิตด้วยการเป็นพนักงานเสิร์ฟ และเข้ามาบริหารบาร์ของพ่อแม่ โดยเรียกตัวเองว่า ‘ไฮนซ์’ รวมถึงไม่เคยปริปากพูดเรื่องนี้กับสื่อใดเลย ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในปี 2008

อย่างไรก็ตาม ในปี 1966 นิตยสาร TIME เขียนบทความเกี่ยวกับ ดอรา รัตเยน โดยระบุว่า ในปี 1957 ดอราที่มีสถานะเป็นผู้ชายและเป็นพนักงานเสิร์ฟในเบรเบนออกมาสารภาพทั้งน้ำตาว่า “ผมถูกพวกนาซีบังคับให้สวมบทบาทเป็นผู้หญิง เพื่อเกียรติยศและชัยชนะของเยอรมนี ผมใช้ชีวิตเป็นเด็กผู้หญิงนานถึง 3 ปี มันน่าเบื่อที่สุด”

แต่สื่อยักษ์ใหญ่ของเยอรมนีอย่าง Der Spiegel ได้เผยว่า ไม่ชัดเจนว่า TIME เคยพูดคุยกับดอราจริง ข้อมูลในบทความดังกล่าวมีน้อยและไม่แม่นยำ ซึ่งเรื่องที่นาซีบังคับให้ดอราลงแข่งขันในโอลิมปิกอาจไม่จริงก็เป็นได้

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ชื่อของ ดอรา รัตเยน ก็ถูกพูดถึงว่าเป็นหนึ่งในการโกงที่อื้อฉาวที่สุดในการแข่งขันโอลิมปิก ไม่ว่าเขาจะตั้งใจโกงหรือไม่ก็ตาม

ที่มา: wikipedia