เมื่อเร็ว ๆ นี้ หนุ่มชาวเยอรมันรายหนึ่งถูกตัดสินว่ามีความผิดหลังจากสร้าง “ศูนย์ตรวจคัดกรองโควิดปลอม” เพื่อหลอกรับเงินจากทางรัฐบาลเป็นจำนวนเงินที่สูงถึง 5.7 ล้านยูโร หรือราว 200 ล้านบาท
ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเยอรมนี ผู้ให้บริการด้านสถานพยาบาลเอกชนส่วนใหญ่ล้วนได้รับผลประโยชน์อย่างมากมายจากทางรัฐบาล แต่สำหรับบางคนก็ฉวยโอกาสใช้ช่องโหว่จากตรงนี้หาผลประโยชน์ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ เช่นเดียวกับนักเรียนหนุ่มชาวเยอรมันวัย 17 ปี ที่คิดไอเดียนี้ขึ้นมาในปี 2020 และเขาสามารถทำเงินได้มหาศาลโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย
เด็กหนุ่มวัย 17 ปีจากเมืองไฟรบวร์คอ้างว่าเขาเป็นผู้ดำเนินการศูนย์ตรวจคัดกรองโควิดแห่งหนึ่ง ที่มีการตรวจสอบผู้คนถึง 5,000 เคสต่อวัน โดยมีการเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการจากทางรัฐบาล ทั้ง ๆ ที่ศูนย์คัดกรองของเขาไม่เคยมีอยู่จริง
ในปี 2020-2021 รัฐบาลเยอรมนีได้มอบหมายให้ Kassenärtzlichen Vereinigung (KV) สมาคมแพทย์ที่อนุมัติโดยหน่วยงานประกันสุขภาพของเยอรมนี กำกับดูแลการทดสอบโควิดและการเบิกจ่ายเงินให้กับศูนย์ตรวจคัดกรองโควิดของเอกชนหลายแห่ง
แต่พวกเขาไม่เคยเอะใจเลยว่า ศูนย์คัดกรองโควิดของเด็กหนุ่มรายนี้ไม่มีอยู่จริง ตลอดระยะที่น้อยกว่า 4 เดือน เด็กหนุ่มเรียกเก็บเงินค่าตรวจโควิดไปแล้วมากกว่า 500,000 เคส ถึงแม้ว่าจำนวนดังกล่าวจะดูสูงเว่อร์จนน่าตกใจ แต่ทางสมาคมแพทย์ KV กลับไม่เคยสงสัยแม้แต่น้อย และนั่นทำให้เด็กหนุ่มหัวใสทำเงินไปได้มากถึง 200 ล้านบาท เข้าบัญชีธนาคารของเขาโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย
จริง ๆ แล้ว รัฐบาลอาจถูกโกงเงินต่อไปเรื่อย ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะพนักงานธนาคารรายหนึ่งเกิดสงสัยว่า ทำไมบัญชีธนาคารของนักเรียนธรรมดา ๆ ถึงได้มีเงินฝากเพิ่มสูงขึ้นมากขนาดนี้ และถูกสงสัยว่ามันอาจเป็นการฟอกเงินรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ทางธนาคารจึงติดต่อไปยังตำรวจ และหลังจากการสอบสวนจึงพบว่าเงินก้อนโตนี้ได้มาโดยวิธีการที่ผิดกฎหมาย
ปัจจุบัน เด็กหนุ่มอายุ 19 ปี เพิ่งถูกศาลตัดสินว่ามีความผิด แต่โชคดีที่เขาอายุยังไม่ถึง 18 ปีในขณะก่อเหตุครั้งแรก ดังนั้นเขาจึงถูกพิจารณาคดีในฐานะผู้เยาว์ เขาถูกยึดเงินทั้งหมดและถูกสั่งให้จ่ายค่าปรับแค่เพียง 1,500 ยูโร (5.5 หมื่นบาท) และถูกคุมประพฤติเป็นเวลาหนึ่งปี ก่อนที่จะมีการพิจารณาคดีของเขาอีกครั้ง โดยอาจมีการกำหนดบทลงโทษใหม่อีกด้วย
ที่มา : odditycentral | เรียบเรียงโดย เพชรมายา