วัตถุที่มนุษย์สร้างที่เร็วที่สุดในโลก คือฝาท่อจากการทดสอบนิวเคลียร์

การตั้งข้อสงสัยกับอะไรสักอย่าง ถือเป็นการเปิดประตูสู่ความรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องราวที่เป็นที่สุดบนโลกใบนี้ เช่น ถ้ามีคนถามคุณว่า ตึกอะไรสูงที่สุดในโลก หรือ สัตว์อะไรตัวใหญ่ที่สุดในโลก คุณอาจรู้คำตอบดีอยู่แล้วว่ามันคือตึกเบิร์จคาลิฟา และวาฬสีน้ำเงิน

แต่ถ้าถามว่ามีวัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้น ที่ทำความเร็วได้มากที่สุดในโลกล่ะ คุณคิดว่าสิ่งนั้นคืออะไร ? คำตอบที่คาดเดาได้อาจเป็นเครื่องบินที่ทันสมัยที่สุดแห่งยุค แต่ความเร็วของสิ่งที่คุณตอบเหล่านี้อาจเทียบไม่ได้เลยกับคำตอบที่แท้จริง เพราะมันคือ “ฝาท่อ” นั่นเอง

ย้อนกลับไปในช่วงปลายทศวรรษที่ 1950 สหรัฐอเมริกาได้ทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์มากมายหลายครั้งภายใต้โครงการที่ชื่อว่า Operation Plumbbob

การทดสอบทั้งหมด 29 ครั้ง เกิดขึ้นในพื้นที่การทดสอบเนวาดา ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม จนถึงเดือนตุลาคม 1957 และหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นก็คือการทดสอบที่ชื่อว่า Pascal-B (เดิมชื่อ Galileo-B) เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 1957 ในช่วงเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนเที่ยงคืน โดยเป็นการทดสอบนิวเคลียร์ใต้ดิน

การทดสอบนิวเคลียร์ใต้ดินคืออะไร ?

หลายคนอาจคิดว่าการทดสอบนิวเคลียร์คือการใช้เครื่องบินทิ้งมันลงบนพื้นดิน แต่ในความเป็นจริง หลาย ๆ ประเทศโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ได้ริเริ่มการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ใต้ดินซึ่งถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด เนื่องจากกัมมันตภาพรังสีที่ถูกปล่อยออกมาจะไม่หลุดลอยไปยังชั้นบรรยากาศ

ส่วนวิธีการทดสอบมีขั้นตอนคือ การขุดอุโมงค์ที่มีความลึกตั้งแต่ 200-800 เมตร และกว้างประมาณ 1-3 เมตร ตามด้วยการใส่ระเบิดนิวเคลียร์ลงไป ปิดทับด้วยวัสดุอย่างเช่น ทราย ยิปซัม น้ำมันดิน รวมถึงซ็นเซอร์วัดความแรง

สำหรับการทดลอง Pascal-B ได้มีการปิดฝาหลุมด้วยแผ่นเหล็กที่มีน้ำหนักมากถึง 900 กิโลกรัมอยู่ด้านบน เหมือนกับฝาท่อระบายน้ำ ซึ่งแรงระเบิดทำให้ฝาเหล็กกระเด็นขึ้นไปบนฟ้าด้วยความเร็วสูงถึง 240,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนกลายเป็นวัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้นที่มีความเร็วที่สุดในโลก ซึ่งกล้องถ่ายภาพความเร็วสูงสามารถจับภาพเอาไว้ได้ แต่ไม่เคยมีใครพบเห็นมันอีกเลย

ความเร็วระดับนี้ถือว่าเร็วกว่า “ความเร็วหลุดพ้น” ที่สามารถพาวัตถุออกไปให้พ้นจากอิทธิพลแรงโน้มถ่วงของโลกถึง 6 เท่า หรือถ้าเทียบเป็นวินาทีคือ 66 กิโลเมตรต่อวินาที สมมุติว่าเรากระพริบตาแค่ครั้งเดียว ฝาเหล็กนี้ก็อาจปลิวไปไกลข้ามจังหวัดได้เลยทีเดียว

ดร.โรเบิร์ต บราวน์ลี ผู้ออกแบบการทดลองคาดว่า ฝาเหล็กดังกล่าวได้ปลิวขึ้นไปยังชั้นบรรยากาศ มีความเป็นไปได้ว่ามันอาจหลุดไปในอวกาศ หรือไม่ก็ถูกเผาไหม้ไปในชั้นบรรยากาศเนื่องจากความเร็วของตัวมันเอง

น่าเสียดายที่เราไม่สามารถหาหลักฐานว่ามันได้ลอยออกไปถึงอวกาศหรือไม่ เพราะถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง ฝาท่อเหล็กชิ้นนี้จะไม่ใช่แค่วัตถุที่เร็วที่สุดในโลกเพียงอย่างเดียว แต่มันจะเป็นวัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้นชิ้นแรกที่เดินทางไปถึงอวกาศ ก่อนที่โซเวียตจะส่งดาวเทียม “สปุตนิก 1” ขึ้นไป เพียงเดือนกว่า ๆ เท่านั้น

ที่มา : boredpanda | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ