ฟินแลนด์กำลังจะกลายเป็นประเทศแรกที่ไม่มีคนไร้บ้านอีกต่อไป

คนไร้บ้าน ถือเป็นปัญหาที่สำคัญในหลาย ๆ ประเทศที่ยากจะแก้ไข แม้แต่ในประเทศที่เจริญแล้วมากมายก็มีคนไร้บ้านเป็นจำนวนมาก ตัวอย่างเช่นในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอีกหลายประเทศในยุโรป

แต่สำหรับประเทศฟินแลนด์กำลังจะกลายเป็นประเทศแรกที่ไม่มีคนไร้บ้านหลงเหลืออยู่ในประเทศ และเป็นประเทศเดียวในสหภาพยุโรปที่มีคนไร้บ้านลดลง

Housing First คือนโยบายการลดจำนวนคนไร้บ้านของรัฐบาลฟินแลนด์ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2008 โดยหลังจากเริ่มนโยบายนี้ก็ทำให้ปริมาณคนไร้บ้านลดลงถึง 40% จนกระทั่งปลายปี 2020 มีรายงานระบุว่า จำนวนคนไร้บ้านในฟินแลนด์เหลือเพียงแค่ 4,341 คน หรือคิดเป็น 0.08% เท่านั้น

ย้อนกลับไปในปี 1987 ปัญหาคนไร้บ้านในฟินแลนด์ถือว่าหนักมาก จนถึงขนาดเคยมี “หมู่บ้านเต็นท์” กลางเมืองหลวงมาแล้ว ในปีนั้นเองเก็บข้อมูลคนไร้บ้านเป็นครั้งแรก และก็พบว่ามีจำนวนคนไร้บ้านมากถึง 18,000 คน

ต่อมาในปี 2008 รัฐบาลฟินแลนด์พยายามแก้ไขปัญหาคนไร้บ้านอย่างจริงจังแต่ก็ไร้ผล มีการสร้างที่พักอาศัยชั่วคราว แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้คนไร้บ้านได้มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งอย่างจริงจัง

ในตอนนั้นเอง มีจำนวนคนไร้บ้านมากกว่า 8,000 คนที่ไม่สามารถหางานทำได้เนื่องจากพวกเขาไม่มีที่อยู่อาศัย ซึ่งการจะมีที่อยู่อาศัยได้นั้นพวกเขาจำเป็นต้องมีเงินจ่ายค่าเช่า แต่ในเมื่อพวกเขาไม่มีงานก็ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าพวกเขาจึงไม่มีที่อยู่ ดังนั้นปัญหาคนไร้บ้านจึงถือเป็นปัญหาโลกแตกที่รัฐบาลทั่วโลกต่างกุมขมับ

รัฐบาลฟินแลนด์ทำอะไรเพื่อลดจำนวนคนไร้บ้าน

รัฐบาลฟินแลนด์ตัดสินใจว่าพวกเขาต้องใช้แนวทางที่แตกต่างออกไป มันเป็นวิธีง่าย ๆ คือการให้ที่อยู่อาศัยแก่ผู้คนแบบไม่มีเงื่อนไข พร้อมทั้งให้การสนับสนุนเพื่อให้พวกเขาสามารถอยู่ที่นั่นได้ ไม่มีข้อกำหนดหรือหน้าที่ใด ๆ ให้คนไร้บ้านต้องทำเป็นการแลกเปลี่ยนเพื่ออยู่ที่นั่น หรือแม้แต่การหางานทำก็ตาม

แนวคิดเบื้องหลังนโยบาย Housing First ก็คือ การจัดการกับปัญหาของตัวบุคคลที่ทำให้พวกเขากลายเป็นคนไร้บ้าน ตัวอย่างเช่น พวกเขาไม่อาจเลิกยาได้ถ้าต้องถูกไล่ออกจากที่พัก ดังนั้น การทำให้พวกเขามีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่งจะช่วยแก้ปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้

นอกจากการแก้ไขเรื่องที่อยู่อาศัยให้กับคนไร้บ้านแล้ว รัฐบาลยังมีระบบสนับสนุนที่จะช่วยเหลือพวกเขาให้กลับมายืนด้วยลำแข้งตัวเองได้อีกครั้ง

ตัวอย่างเช่นการสนับสนุนในการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ และครอบครัวเพื่อสร้างตัวตนของพวกเขาใหม่ บางคนมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่และมีอาการป่วยที่ต้องได้รับการดูแล บางคนไม่มีการศึกษาหรือทักษะที่จะไปประกอบอาชีพ นโยบาย Housing First จะสนับสนุนคนเหล่านี้ในทุก ๆ เรื่อง เพื่อทำให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อยู่ตามลำพังอีกต่อไป

ตัวอย่างที่พักที่ทางรัฐบาลฟินแลนด์จัดให้กับคนไร้บ้าน

นโยบายนี้ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง คนไร้บ้านจาก 4 ใน 5 คนสามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้สำเร็จ แต่ในการทำให้เกิดสิ่งนี้ขึ้นมาได้ รัฐบาลฟินแลนด์ต้องลุงทุนด้วยเงินจำนวนมาก โดยเฉพาะการหาที่พักให้กับคนไร้บ้านเหล่านี้

สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ แฟลตราคาถูกจึงถูกรัฐบาลกว้านซื้อ มีการสร้างอาคารใหม่และรีโนเวทอาคารเก่าหลายแห่งให้กลายเป็นที่พักอาศัยได้ แต่การลงทุนนี้ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า เพราะมันคือการสร้างวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น

จากจำนวนคนไร้บ้าน 19,000 คนในปี 1987 จนเหลือ 4,341 คนในปี 2020 และรัฐบาลฟินแลนด์ตั้งเป้าเอาไว้ว่าพวกเขาจะลดจำนวนคนไร้บ้านให้ได้ครึ่งหนึ่งภายในปี 2023 และทั้งหมดประเทศในปี 2027

เรื่องนี้ทำให้เราได้เห็นว่า นอกจากระบบการศึกษาที่ดีเลิศแล้ว ฟินแลนด์เป็นประเทศที่น่าทึ่งมาแค่ไหน

ที่มา : boredpanda | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ