ในช่วงเทศกาลฟุตบอลโลกถือเป็นสีสันอย่างหนึ่งที่หลายคนเฝ้าติดตามรอคอยเพื่อเชียร์ทีมชาติที่ตนเองรัก รวมถึงเชียร์ประเทศบ้านเกิดของตนเองให้ประสบความสำเร็จ และนั่นทำให้แฟนบอลในประเทศที่ได้เข้ารอบสุดท้ายต่างตื่นตัวกันอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปเชียร์ยังประเทศกาตาร์ หรือจะเชียร์อยู่ที่หน้าจอที่บ้านก็ตาม
แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ แฟนบอลชาวอาร์เจนตินารายหนึ่งกลับถูกจับกุมในข้อหาปล้นรถเมล์ที่มีผู้คนเต็มรถ เพื่อที่เขาจะได้กลับบ้านได้ทันเวลาเพื่อชมเกมที่อาร์เจนตินาจะพบกับโครเอเชึยในรอบรองชนะเลิศ
ในทุก ๆ เกมที่อาร์เจนตินาลงเตะถือเป็นช่วงเวลาที่แฟนบอลชาวอาร์เจนไตน์ต่างรอคอยเฝ้าชมไม่ให้พลาด ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีธุระด่วนแค่ไหนก็ตาม ดังนั้นเมื่อชายคนนี้ต้องติดอยู่บนรถเมล์ในชั่วโมงเร่งด่วน และเหลือเวลาเพียงไม่กี่นาทีก่อนฟุตบอลนัดประวัติศาสตร์จะเริ่มขึ้น เขาจึงตัดสินใจใช้วิธีที่สุดโต่งในการแก้ปัญหานี้
ชายที่ไม่ถูกเปิดเผยชื่อวัย 53 ปี รายนี้ ตระหนักได้ทันทีว่า รถเมล์สาย 440 ที่เดินทางระหว่างย่าน Fraga และ Avenida Ricardo Balbín ไม่มีทางพาเขากลับบ้านได้ทันเวลา หากยังขับไปอย่างเชื่องช้าและจอดทุกป้ายเช่นนี้
ดังนั้น ทันทีที่รถเมล์ติดไฟแดงและคนขับก้าวออกไปซื้อของที่ร้านค้าใกล้ ๆ เขาจึงตัดสินใจกระโดดขึ้นหลังพวงมาลัยและเริ่มขับรถไปที่บ้านของเขาทันที
คนขับรถเมล์ตกใจอย่างมากและรีบโทรหาตำรวจเพื่อรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แค่เพียงไม่นาน รถตำรวจหลายคันก็ถูกส่งไปยังสถานที่เกิดเหตุ
ส่วนชายผู้ก่อเหตุขับรถเมล์คันดังกล่าวไปประมาณ 6.5 กิโล ก่อนที่จะจอดทิ้งมันไว้ใกล้กับบ้านของเขา จากนั้นเขาก็ออกวิ่งต่อไปตามทางที่เหลือ
แต่สุดท้าย แฟนบอลรายนี้ถูกตำรวจจับได้ในขณะวิ่งอยู่ใกล้กับสี่แยกของถนนเส้นหนึ่ง และถูกนำตัวไปสอบปากคำทันที
นอกจากความพยายามของเขาจะไร้ผลจนไม่ได้เชียร์ทีมชาติของเขาแล้ว เขายังถูกตั้งข้อหาจี้รถสาธารณะ และยังไม่ชัดเจนว่าเขาสามารถประกันตัวออกมาสู้คดีได้หรือไม่ เพราะหากเขายังติดอยู่ในคุกจนถึงวันอาทิตย์นี้ล่ะก็ เขาจะพลาดชมเกมรอบชิงชนะเลิศระหว่างอาร์เจนตินากับฝรั่งเศสแน่นอน
ที่มา: odditycentral
