ชายผู้โชคร้ายติดบนเรือร้างนาน 4 ปี โดยไม่สามารถไปไหนได้

โมฮัมเม็ด ไอชา กะลาสีเรือชาวซีเรียที่ทำงานอยู่บนเรือบรรทุกสินค้าของบาห์เรนต้องพบกับความโชคร้ายที่สุดในชีวิต หลังเรือลำดังกล่าวมาจอดบนชายฝั่งของประเทศอียิปต์ แต่แทนที่จะได้รับความช่วยเหลือให้ได้กลับประเทศ โมฮัมเม็ดกลับถูกบังคับให้ใช้เวลา 4 ปี บนเรือลำนี้ หลังจากศาลสั่งให้เขาเป็นผู้พิทักษ์ตามกฎหมายของเรือลำนี้

ปัญหาของกะลาสีหนุ่มรายนี้เริ่มต้นขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2017 เมื่อเรือ MV Aman ที่เขาทำงานอยู่ต้องถูกเจ้าหน้าที่กักเอาไว้ที่ท่าเรือ Adabiya ของอียิปต์ เนื่องจากอุปกรณ์ความปลอดภัยและใบสําคัญรับรองการตรวจเรือหมดอายุ

ตามปกติแล้วปัญหาในลักษณะนี้สามารถแก้ไขได้ไม่ยาก แต่เจ้าของเรือในบาห์เรนกลับประสบปัญหาทางด้านการเงิน ในขณะที่กัปตันเรือชาวอียิปต์ขึ้นฝั่งและหายตัวไปหลังจากที่มันถูกทิ้งไว้ในทะเล

ในทางเทคนิคแล้ว โมฮัมเหม็ดที่เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่บนเรือจึงถูกแต่งตั้งให้กลายเป็นผู้พิทักษ์เรือลำนี้โดยศาลท้องถิ่น หลังจากที่เขาลงนามในเอกสารที่เขาไม่รู้เลยว่าชะตากรรมตัวเองหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร

เมื่อเร็ว ๆ นี้ โมฮัมเหม็ดได้ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่าเขาไม่รู้ว่าการเป็นผู้พิทักษ์ตามกฎหมายของเรือ MV Aman คืออะไร แต่เขาไม่สามารถไปไหนได้เลย แถมพาสปอร์ตก็ยังถูกเจ้าหน้าที่ชายฝั่งยึดไปอีกด้วย

แค่เพียง 4 เดือนหลังจากนั้น ลูกเรือคนอื่น ๆ ก็ทยอยออกจากเรือไปจนหมด เหลือเพียงแค่เขาคนเดียวที่ไม่สามารถออกไปไหนได้ เพราะกฎหมายกำหนดเอาไว้ให้เขาต้องอยู่กับเรือจนกว่าเรือจะถูกขายหรือจะมีคนมารับหน้าที่แทนเขาเท่านั้น

แม้แต่ใน Google Maps เองเราก็ยังเห็นเรือ MV Aman จอดอยู่ริมชายฝั่งของอียิปต์

ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา โมฮัมเหม็ดต้องใช้ชีวิตอยู่บนเรือที่ไม่สามารถแล่นไปไหนได้ ไม่มีสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และไม่มีข้อมูลด้วยว่าเขาจะต้องอยู่แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน

ในทุก ๆ วัน โมฮัมเหม็ดต้องอยู่กับเรือร้างที่เต็มไปด้วยหนู แมลง และยุงมากมายในตอนกลางคืน เขาทำได้แค่เฝ้ามองเรือผ่านเข้าออกจากคลองสุเอซที่อยู่ใกล้ ๆ รอเพื่อสักวันที่เขาจะได้กลับบ้านอีกครั้ง

ในเดือนมีนาคม 2020 เรือที่เขาอาศัยอยู่ถูกพายุพัดออกไปจากชายฝั่งไกลหลายไมล์ก่อนที่จะกลับมาลอยห่างจากชายฝั่งไม่กี่ร้อยเมตร โมฮัมเหม็ดมองว่านี่คือพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าที่อนุญาตให้เขาว่ายน้ำกลับฝั่งเพื่อหาอาหารและชาร์จโทรศัพท์มือถือได้อีกครั้ง

หลังจากใช้เวลามากว่า 4 ปี ตอนนี้เขาได้รับอนุญาตให้บินกลับบ้านไปพบครอบครัวและเพื่อน ๆ อีกครั้ง

ในขณะที่ทาง Tylos Shipping and Marine Services ที่เป็นนายจ้างของโมฮัมเหม็ดกล่าวว่า พวกเขาพยายามช่วยเหลือกะลาสีชาวซีเรียผู้นี้มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จ แถมยังตำหนิไปยังตัวโมฮัมเหม็ดที่ไปเซ็นเอกสารคำสั่งศาลอีกด้วย

นี่ถือว่าเป็นเคสพิเศษที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับใครมาก่อน และมันสะท้อนให้เราได้เห็นว่าระบบยุติธรรมที่ควรจะให้ความเป็นธรรมกับเขา กลับไม่ได้ให้ความยุติธรรมกับตัวเขาเลยแม้แต่น้อย

ที่มา : BBC News | BBC | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ