คุณเคยพบเจอเงินจากสถานที่ไม่คาดคิดบ้างหรือไม่ มันเป็นจำนวนมากเท่าไหร่ และถ้าจำนวนเงินที่คุณพบมันมากมายมหาศาลเป็นหลักล้าน คุณจะเก็บเงียบเอาไว้เฉย ๆ หรือนำมันไปส่งให้กับตำรวจกันแน่
นี่คือเรื่องราวของชายชาวเกาหลีใต้รายหนึ่งที่ตัดสินใจซื้อตู้เย็นเพื่อมาเก็บกิมจิของเขา แต่สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือมีเงินจำนวนมากถึง 110 ล้านวอน หรือประมาณ 3.15 ล้านบาทอยู่ข้างใน
จากรายงานของสื่อเกาหลีใต้ MBC News ระบุว่า ชายผู้อาศัยอยู่บนเกาะเชจูรายนี้สั่งซื้อตู้เย็นมือ 2 ทางออนไลน์ หลังจากที่เขาได้ตู้เย็นมาเรียบร้อยก็นำมันไปทำความสะอาด แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็คือเขาพบธนบัตรมูลค่า 50,000 วอน (ราว 1,434 บาท) เรียงกันหลายปึกถูกซ่อนเอาไว้ข้างใต้ตู้เย็น
แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่กล้าเก็บเงินจำนวนนี้เอาไว้ เขาจึงตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
“มันเป็นเงินจำนวนมาก มันเป็นเรื่องบ้ามากเพราะเราไม่เคยเจอคดีแบบนี้มาก่อน” เจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งที่ดูแลคดีนี้กล่าว
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามคนขายตู้เย็น รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งตู้เย็นทั้งหมด แต่ถ้าว่ากันตามกฎหมายแล้ว ชายหนุ่มที่สั่งซื้อตู้เย็นมือ 2 จะได้ผลประโยชน์จากเรื่องนี้เช่นกัน
ในกรณีที่โชคดีสุด ๆ ถ้าตำรวจไม่สามารถหาเจ้าของเงินโดยชอบธรรมได้ เขาจะได้รับเงินจำนวนนี้ไปแต่จะต้องเสียภาษีเป็นจำนวน 22 เปอร์เซ็นต์ แต่นั่นก็ถือว่าไม่ใช่ปัญหาสำหรับแจ็กพอตก้อนโตนี้
และถึงแม้ว่าทางตำรวจจะหาเจ้าของเงินเจอ ชายคนนี้ก็จะยังได้ค่าตอบแทนประมาณ 5 ถึง 20 เปอร์เซนต์ของมูลค่าเงินทั้งหมด ถึงแม้มันจะเป็นจำนวนน้อยหน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นเงินที่เขาได้รับอย่างชอบธรรมไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ถ้าหากซวยสุด ๆ ตำรวจพบว่าเงินก้อนนี้มีการเชื่อมโยงกับการก่ออาชญากรรม จะไม่มีใครได้เงินก้อนนี้ไปและมันจะถูกส่งมอบให้กับรัฐแทน
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจสงสัยว่าจะมีคนเอาเงินไปเก็บใต้ตู้เย็นแช่กิมจิจริงหรือ คำตอบคือ “ใช่”
เพราะในช่วงนี้เกาหลีใต้ประสบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ ผู้คนที่มีเงินมากมายไม่อยากฝากเงินในธนาคารอีกต่อไป ดังนั้นพวกเขาจึงเก็บเอาไว้ที่บ้าน และสถานที่ ๆ ผู้คนมักนิยมเอาไปซ่อนมากที่สุดก็คือใน “ตู้เย็นแช่กิมจิ” ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการเก็บธนบัตรให้อยู่ในอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสม ธนบัตรก็จะไม่ซีดจางไปตามกาลเวลา
สำหรับตู้เย็นขนาดทั่วไปจะสามารถเก็บเงินสดได้มากถึง 1 พันล้านวอน หรือประมาณ 29 ล้านบาทเลยทีเดียว
ที่มา : MBCNEWS | mashable | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
