เมื่อ 67 ปีที่แล้ว เคยเกิดหมอกควันในลอนดอนที่คร่าชีวิตผู้คนนับหมื่น

ถ้าคุณเคยชมภาพยนตร์เรื่อง The Mist ที่เกี่ยวกับหมอกมรณะที่แฝงมาด้วยอสูรกายคอยคร่าชีวิตผู้คนล่ะก็ เรื่องจริงเรื่องนี้อาจเป็นเหตุการณ์ที่คล้ายกันมากที่สุด ถึงแม้จะไม่ได้มีอสูรกายเวอร์เหมือนในภาพยนตร์ แต่มันก็มีความโหดร้ายไม่ต่างกัน

great-smog-01

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 1952 ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดที่กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ เมื่อจู่ๆ ก็ได้มีหมอกควันลึกลับเข้าปกคลุมเมืองอย่างรวดเร็ว กว่าที่ผู้คนจะรู้ตัวว่ามันเป็นหมอกที่เกิดจากควันพิษก็สายไปเสียแล้ว

great-smog-08

สาเหตุหลักของหมอกพิษเหล่านี้ มาจากการเผาไหม้ถ่านหินที่เป็นเชื้อเพลิงหลักของคนสมัยก่อนทั้งในบ้านเรือนและในโรงงาน ประกอบกับสภาวะอากาศเย็น ผสมผสานกับสภาวะแอนติไซโคลนและสภาวะไร้ลม ส่งผลให้หมอกพิษไม่สามารถขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศได้ และก่อตัวเป็นชั้นหนาทึบลอยปกคลุมเมืองทั้งเมือง ซึ่งกว่าที่ผู้คนจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว

great-smog-10

หมอกพิษแพร่กระจายไปทั่ว ผู้คนสูญเสียการมองเห็นเนื่องจากมีหมอกหนาทึบปกคลุม แถมมันยังสามารถเล็ดลอดผ่านเข้าไปในบ้านเรือนผู้คนได้ไม่ยาก

great-smog-03

สิ่งที่น่ากลัวก็คือ ทุกคนไม่รู้ว่ามันคือหมอกพิษ และคิดว่ามันเป็นหมอกธรรมดา ไม่มีใครตื่นตระหนกตกใจหรือหาที่หลบซ่อน ปัญหาอย่างเดียวของพวกเขาคือ ใช้ชีวิตลำบากมากขึ้นเพราะหมอกควันดังกล่าวบดบังทัศนวิสัย ทำให้พวกเขามองเห็นไปได้ไกลเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น

great-smog-06

ถึงแม้กรุงลอนดอนจะเคยประสบปัญหาหมอกหนาจัดมาบ้าง แต่หมอกพิษครั้งนี้กลับต่างออกไป เพราะมันหนาแน่นและยาวนานกว่าหมอกทั่วๆ ไป ผู้คนไม่สามารถขับรถได้ ขนส่งสาธารณะส่วนใหญ่หยุดให้บริการ มีแค่เพียงรถไฟใต้ดินที่สามารถวิ่งได้ตามปกติ

great-smog-05

นอกจากนั้น รถพยาบาลก็หยุดให้บริการ คอนเสิร์ตถูกยกเลิก กิจกรรมกีฬากลางแจ้งก็หยุดชะงัก ทุกคนหยุดก้าวท้าวออกจากบ้าน และยิ่งลำบากมากขึ้นในตอนกลางคืน แสงไฟจากโคมไฟถนนก็ไม่ได้ช่วยอะไรพวกเขาได้เลย

Fog in Stretford

คุณสามารถมองเห็นได้ไกลเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น รถโดยสารประจำทางบางเที่ยวยังคงมีอยู่ แต่ต้องวิ่งไปได้อย่างช้าๆ ด้วยความระมัดระวัง

great-smog-11

ตำรวจกำลังช่วยอำนวยความสะดวกให้กับรถที่ยังมีความจำเป็นต้องสัญจรไปมา

Outside the Bank of England, an officer keeping traffic moving through the Great Smog of London.

ส่วนในตอนกลางคืน ต้องมีคบเพลิงจุดไฟ เพื่อต่อสู้กับความมืดมิด

great-smog-12

แจ็ค เคลซีย์ นายประตูของทีมอาเซนอล ยังคงยืนอยู่ภายใต้หมอกอันหนาทึบ แต่เนื่องจากหมอกลงหนามาก เกมการแข่งขันจึงต้องยุติลง

1952 smog crisis : Arsenal goalkeeper Jack Kelsey peers into the fog

เหตุการณ์หมอกพิษกินเวลานานกว่า 5 วันเต็ม และภายในสัปดาห์เดียวก็มีรายงานว่า หมอกมรณะนี้ได้คร่าชีวิตผู้คนไปถึง 4,000 คน ซึ่งรายงานในปัจจุบันระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจริงๆ แล้วมีมากถึง 12,000 คน และเจ็บป่วยมากถึง 1 แสนคนเลยทีเดียว

great-smog-04

และนี่ก็คือเหตุการณ์ทางมลพิษครั้งประวัติศาสตร์ที่เลวร้ายที่สุดบนเกาะอังกฤษ และถูกขนานนามว่า Great Smog of London และถึงแม้ในกรุงเทพบ้านเรายังไม่เจอเหตุการณ์ที่เลวร้ายขนาดนี้ แต่เราควรปกกันตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก ด้วยการหาหน้ากากที่เหมาะสมใส่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เหตุการร์หมอกควันในบ้านเราจะดีขึ้น

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจเพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ

ที่มา : wikipedia | เรียบเรียงโดย เพชรมายา