นี่คือที่ดินส่วนบุคคลที่อาจเล็กที่สุดในโลก มีขนาดเท่ากับพิซซ่า

มหานครนิวยอร์กเต็มไปด้วยที่ดินแปลก ๆ ที่หลงเหลืออยู่จากโครงการก่อสร้างต่าง ๆ แต่ที่ดินที่โดดเด่นที่สุดกลับเป็นพื้นที่เล็ก ๆ ที่คุณไม่สามารถเอาไปทำอะไรได้เลย

Hess Triangle คือที่ดินส่วนบุคคลที่มีจุดเริ่มต้นในปี 1910 เมื่อนิวยอร์กซิตีอ้างสิทธิ์ในการเวนคืนและรื้อถอนอาคาร 253 หลัง รวมถึง Voorhis อะพาร์ตเมนต์ 5 ชั้นที่มีเจ้าของคือนักธุรกิจที่ชื่อว่า เดวิส เฮสส์

หลังจากการต่อสู้ทางกฎหมายมานานกว่า 3 ปี ในปี 1913 เดวิสก็ไม่มีทางเลือกนอกจากยืนดูทรัพย์สินของเขาถูกรื้อถอนออกไปจนหมด

อย่างไรก็ตาม ในอีก 15 ปีต่อมา ในขณะที่ทายาทของเฮสส์กำลังตรวจสอบเอกสารเกี่ยวกับทรัพย์สิน พวกเขาพบว่าทางเมืองทำผิดพลาดที่ไม่ได้ยึดที่ดินแปลงเล็ก ๆ บริเวณหัวมุม Plot 55 ไป และนั่นทำพวกเขายื่นเอกสารแจ้งครอบครองที่ดินดังกล่าวอย่างรวดเร็ว

และนั่นเป็นเหตุผลที่ Hess Triangle ที่ดินแปลงเล็ก ๆ ที่เป็นรูป 3 เหลี่ยมได้เกิดขึ้น และกลายเป็นที่ดินที่มีขนาดเล็กที่สุดในนิวยอร์ก

Hess Triangle มีพื้นที่เพียง 0.0000797113 เอเคอร์ หรือเท่ากับ 0.32 ตารางเมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าชิ้นพิซซ่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากนี้มันแทบไม่สังเกตเห็นได้เลย ถ้าไม่มีการปูพื้นด้วยกระเบื้องโมเสกขนาดเล็กสีขาวดำ และมีข้อความที่ระบุว่า

“ทรัพย์สินของ Hess Estate ที่ไม่เคยถูกอุทิศเพื่อวัตถุประสงค์สาธารณะ”

เพียงไม่นานหลังจากที่บริษัท Hess Estate ของครอบครัวตระกูลเฮสส์อ้างสิทธิ์อย่างถูกกฎหมาย เมืองนิวยอร์กก็ขอให้ครอบครัวเฮสส์บริจาคที่ดินดังกล่าวให้กับสาธารณชน แต่พวกเขาตัดสินใจที่จะเก็บมันไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านและท้าทายอำนาจของเมือง

ต่อมา ในปี 1938 Hess Triangle ได้ถูกขายให้กับ Village Cigars ร้านซิการ์ในหมู่บ้านที่อยู่ติดกันในราคา 1,000 เหรียญ มันอาจฟังดูไม่มาก แต่เมื่อพิจารณาจากขนาดที่ดินและอัตราเงินเฟ้อแล้ว มันจะมีมูลค่าประมาณ 17,000 เหรียญ (ราว 5.6 แสนบาท) หรือคิดเป็น 68,000 เหรียญต่อตารางเมตร (ราว 2.24 ล้านบาท)

นั่นหมายความว่า Hess Triangle ไม่ได้เป็นที่ดินที่มีขนาดเล็กที่สุดเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นหนึ่งในที่ดินที่มีราคาแพงที่สุดในนิวยอร์กอีกด้วย

บางข้อมูลอ้างว่า Hess Triangle ยังคงมีเจ้าของโดย Village Cigars แต่ข้อมูลจาก Wikipedia ระบุว่า มันถูกขายให้กับ Yashiva University ซึ่งขายต่อไปให้กับ 70 Christopher Realty Corporation ในปี 1995 ซึ่งเจ้าของทุกคนเลือกที่จะเก็บข้อความและกระเบื้องของเดิมเอาไว้

ที่มา : odditycentral | เรียบเรียงโดย เพชรมายา