ถือเป็นปัญหาโลกแตกมายาวนาน สำหรับที่จอดรถคนพิการ ที่เรามักเห็นคนปกติธรรมดาทั่วไปขับรถเข้าไปจอดหน้าตาเฉย โดยไม่รู้สึกผิดสักนิดเดียว แต่ในบางครั้งเราก็อาจสับสนกับคำว่า “ที่จอดรถคนพิการ” ได้เช่นกันว่า บุคคลประเภทไหนบ้าง ที่สามารถใช้สิทธิ์ที่จอดรถนี้ได้ อย่างเช่นเรื่องราวที่เพชรมายาขอพาทุกท่านมาชมต่อไปนี้
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จัสมิน สวิฟต์ หญิงสาวชาวอังกฤษวัย 19 ปีจากเมืองแอชฟอร์ด ที่มีอาการป่วยเป็นโรคปอดรุนแรง ได้เดินทางไปผับแห่งหนึ่งในเมืองเทนเทอร์เดน กับเพื่อนคนหนึ่งของเธอ
หลังจากที่เธอจอดรถในที่จอดคนพิการและไปเที่ยวตามปกติเสร็จเรียบร้อย เธอกลับมาที่รถแล้วก็ต้องพบกับข้อความบนหน้ากระจกรถที่เขียนเอาไว้บนกระดาษว่า “คุณจอดรถผิดกฏหมาย คุณไม่ได้พิการ ฉันจะแจ้งเจ้าหน้าที่”
“ฉันโกรธและผิดหวังมาก ฉันดูเด็กและเหมือนกับคนปกติ ผู้คนจึงตัดสินฉันอย่างรวดเร็วว่าฉันปกติ คุณแค่ยืนดูฉันก้าวออกจากรถและไม่มาพูดอะไรกับฉันสักคำ แต่กลับเขียนโน๊ตทิ้งเอาไว้แทน”
ใช่แล้ว… อาการป่วยของเธอไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก เมื่อ 7 เดือนที่แล้ว จัสมินได้รับการวินิจฉัยว่าเธอป่วยเป็นโรคความดันหลอดเลือดแดงในปอดสูง เป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อปอดรวมทั้งระบบต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งนำมาสู่อาการหายใจลำบาก เวียนศีรษะ หมดสติชั่วคราว ขาบวม หรืออาการอื่นๆ จนทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลง อาการนี้อาจเกิดขึ้นได้อย่างเฉียบพลัน และรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตได้อีกด้วย
ปัจจุบันยังเป็นการยากที่จะอธิบายสาเหตุของโรคนี้อย่างชัดเจน จัสมินต้องหยุดทำงานเป็นเวลากว่า 6 เดือนเพื่อเรียนรู้วิธีรับมือกับโรคร้ายนี้ เธอต้องถูกรักษาด้วยการให้ยาทาง IV (เป็นการให้ยาโดยการฉีดหรือหยอดยาเข้าทางหลอดเลือด) ต่อไปอีกถึง 17 ปีด้วยกัน
“มันเป็นอาการป่วยที่จำกัดชีวิตฉันมาก ฉันมักหายใจถี่ เหนื่อยง่าย บางครั้งก็หมดสติเอาดื้อๆ ตอนที่ฉันเริ่มเป็นโรคนี้แรกๆ ฉันสังเกตว่าขาของฉันบวม ท้องของฉัน หลังของฉัน ตาของฉันก็บวมและช้ำอีกด้วย”
“ฉันเคยไปยิม 5 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ตอนนี้แค่เดินอยู่ในบ้านยังเหนื่อย สุขภาพของฉันมันมีแต่แย่ลงกับแย่ลง แม่ของฉันกลัวว่าจะเสียฉันไปในเร็ววันนี้”
ถึงแม้เธอจะมีสิทธิ์ใช้ที่จอดรถคนพิการได้อย่างเต็มที่ แต่ปัญหาคืออาการป่วยของเธอมันไม่ได้แสดงให้ทุกคนเห็นได้ชัดเจนจากภายนอก เธอดูเหมือนหญิงสาวปกติทั่วไป จัสมินกล่าวว่า เธอรู้สึกดีขึ้นกว่าแต่ก่อนตอนที่รู้อาการป่วยของเธอครั้งแรก แต่ตอนนี้เธอกลับใช้ชีวิตยากขึ้นกว่าเดิม
“ถ้าฉันมีโอกาสพูดกับคนที่ทิ้งโน๊ตเอาไว้ ฉันจะบอกเขาว่า อย่าตัดสินคนอื่น เพียงเพราะแค่ฉันไม่ได้นั่งวีลแชร์หรือมีอาการป่วยที่มองเห็นได้ มันไม่ได้หมายความว่าฉันจะใช้ที่จอดรถคนพิการไม่ได้”
หลังจากที่จัสมินโพสต์เรื่องราวของเธอลงบนเฟสบุ๊ค เธอก็ได้กระแสตอบรับกลับมามากมมาย ซึ่งคนส่วนใหญ่ต่างก็เข้าใจและให้กำลังใจเธอให้สู้ต่อไป แล้วคุณล่ะ คิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องราวของเธอกันบ้าง
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ
ที่มา : | เรียบเรียงโดย เพชรมายา