ชาวบ้านตะลึง เมื่อพายุเฮอร์ริเคนดูดน้ำทะเลขึ้นจนเกลี้ยงกลายเป็นแผ่นดิน

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ได้สร้างปรากฏการณ์ช็อคโลกด้วยการเคลื่อนที่เข้าถล่มพื้นที่ในแถบหมู่เกาะคาริบเบียน ก่อนที่จะเข้าสู่รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา และบาฮามาส ซึ่งทำให้เกิดความสูญเสียจำนวนมาก ผู้คนกว่า 2.6 ล้านคนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์พายุถล่มครั้งนี้

 

และหนึ่งในปรากฏการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นคือ พื้นที่ชายหาดหลายแห่งในบาฮามาสที่เต็มไปด้วยน้ำทะเลกลับเปลี่ยนไปชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ และนี่คือภาพก่อนที่จะเกิดพายุ

 

ส่วนนี่คือภาพชายฝั่งหลังเกิดพายุ จะเห็นได้ว่าเฮอร์ริเคนลูกนี้ได้ดูดน้ำทะเลขึ้นไปจนเกลี้ยงชายหาด จนกลายเป็นแผ่นดินไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา และทำให้บริเวณแห่งนี้ไม่มีทะเลอีกต่อไป

 

แองเจลา ฟริตซ์ บรรณาธิการข่าวพยากรณ์อากาศของวอชิงตันโพสต์ระบุว่า สาเหตุของปรากฏการณ์ที่น่าตื่นตะลึงนี้เกิดจากความกดอากาศต่ำของพายุที่ทำให้เกิด “กระบวนการดูด” โดยเป็นการดูดอากาศเข้าไปข้างในพายุ โดยเฉพาะสิ่งที่อยู่ด้านใต้ขึ้นไป และนั่นทำให้มันเปลี่ยนพื้นผิวของมหาสมุทรไปโดยสิ้นเขิง

 

สิ่งที่น่าเป็นห่วงกว่าน้ำทะเลที่หายไปก็คือระบบนิเวศน์ในพื้นที่มหาสมุทรบริเวณดังกล่าว

 

พยูนหลายตัวถูกพบเกยตื้นอยู่บริเวณชายฝั่ง แน่นอนว่าน้ำหนักของมันที่มีมากกว่า 200 กิโลกรัม ทำให้การเคลื่อนย้ายพยูนที่จมอยู่บนพื้นทรายที่เหมือนโคลนเหล่านี้ กลับลงไปที่ทะเลเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบากมาก

 

มาร์เซโล คลาวิโย กับชาวบ้านในบริเวณนั้นก็เป็นอีกกลุ่มที่พยายามช่วยเหลือพยูน 2 ตัวที่เขาพบเกยตื้นบริเวณชายฝั่งให้กลับลงไปสู่ทะเล ด้วยการกลิ้งตัวมันลงบนผ้าใบ และช่วยกันลากกลับลงน้ำที่อยู่ห่างออกไปราว 100 เมตร ซึ่งพวกเขาก็ทำได้สำเร็จ

 

และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้เราได้ตระหนักถึงความน่ากลัวของภัยธรรมชาติ ที่สามารถเนรมิตสิ่งที่น่าเหลือเชื่อให้เกิดขึ้นได้เสมอ

 

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ

ที่มา : boredpanda | เรียบเรียงโดย เพชรมายา