ในขณะที่โลกของอุตสาหกรรมได้เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ผู้เชี่ยวชาญก็ได้พบว่ามีมลพิษเกิดขึ้นในแหล่งน้ำมากมายไม่ว่าจะเป็นในแม่น้ำ ทะเลสาบ หรือมหาสมุทร ซึ่งมนุษย์ใช้เป็นสถานที่รองรับในการกำจัดของเสียจากโรงงาน ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียที่ปนเปื้อนสารเคมีหรือขยะมูลฝอยที่ไม่ได้ถูกกำจัดอย่างถูกวิธี ปัญหาเหล่านี้จะทำให้โลกของเราเน่าเฟะขึ้นจนมีการคาดการณ์ว่า มนุษย์เราจะหาแหล่งน้ำสะอาดได้ยากมากขึ้นกว่า 10 เท่า ภายในระยะเวลาอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้านี้
แต่วันนี้เพชรมายาขอพาทุกท่านมาพบกับ มาริโน โมริคาวา นักวิทยาศาสตร์ชาวเปรูเชื้อสายญี่ปุ่นที่ต้องการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ก่อนที่จะสายเกินไป หลังจากที่เขาได้ยินว่า ทะเลสาบที่เขาเคยมาเที่ยวเมื่อตอนเป็นเด็ก กลายเป็นทะเลสาบที่ไม่สามารถลงไปแหวกว่ายได้อีกต่อไป
The Cascajo Wetlands คือทะเลสาบที่ตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่งตะวันตกของประเทศเปรูที่เน่าเสียอย่างหนัก เมื่อมาริโนที่ทำงานอยู่ในประเทศญี่ปุ่นได้ทราบข่าวนี้ เขาจึงบินกลับมายังเปรูเพื่อพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง และสิ่งที่เขาพบก็คือทะเลสาบแห่งนี้ดูเหมือนกับ “บ่อบำบัดน้ำเสีย” แตกต่างจากที่เขาพบมันครั้งสุดท้ายเมื่อ 20 ปีที่แล้วอย่างสิ้นเชิง
น้ำในทะเลสาบส่งกลิ่นเหม็นอย่างหนัก ในอดีตทะเลสาบแห่งนี้มีพื้นที่กว่า 937 ไร่ แต่มันกลับลดหายลงไปเหลือแค่เพียง 250 ไร่เท่านั้น มาริโนจึงตัดสินใจว่าเขาต้องทำอะไรสักอย่างแล้วตอนนี้
โชคดีที่มาริโนมีดีกรีเป็นถึงนักวิทยาศาสตร์ในสาขาอุตสาหกรรมชีวภาพ เขาได้ใช้ความรู้ทั้งหมดที่มีคิดค้นเทคโนโลยีที่จะช่วยควบคุณคุณภาพของน้ำ เพื่อช่วยให้ทะเลสาบแห่งนี้ใสสะอาดมากขึ้นกว่าเดิม เขาลงทุนใช้เงินเก็บของตัวเองรวมถึงกู้เงินจากธนาคารหลายแห่งเพื่อสานฝันโครงการของเขาให้เป็นจริงให้ได้
และสิ่งที่มาริโนนำมาใช้ก็คือ “นาโนเทคโนโลยี” มาริโนอธิบายว่า “ฟองอากาศแบบไมโครนาโนจะมีสนามแม่เหล็กไฟฟ้าจะมีไอออนประจุบวกและประจุลบที่จะทำงานคล้ายกับแม่เหล็ก ในระหว่างที่อยู่บนผิวน้ำ มันก็จะดึงดูดไวรัสและแบคทีเรียเข้ามาหาคล้ายกับการจับพวกมันอยู่ให้อยู่ในใยแมงมุม”
มาริโนทดลองให้เห็นภาพแบบชัด ๆ เราจะเห็นว่าน้ำที่ผ่านกระบวนการกำจัดของเสียแล้วมีความใสขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากสิ่งสกปรกที่อยู่ข้างใต้จะถูกดูดขึ้นมาอยู่บนผิวน้ำทั้งหมด
มาริโนใช้เวลาพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ของเขาเป็นเวลา 6 เดือน และใช้มันทำความสะอาดทะเลสาบนาน 4 เดือน ผลลัพธ์ก็คือน้ำในทะเลสาบสะอาดขึ้น ใสขึ้น และมีนกนับ 10 ชนิดอพยพกลับมายังทะเลสาบแห่งนี้ รวมทั้งยังพบปลาอีก 10 ชนิดที่กลับมาอยู่อาศัยในแหล่งน้ำบ้านเกิดของพวกมันอีกด้วย
นอกเหนือจากการทำความสะอาดทะเลสาบแล้ว มาริโนยังจัดทำโครงการที่ช่วยสร้างความตระหนักถึงชาวเปรูทุกคน และแสดงให้เห็นว่าการลงมือทำของเขามันช่วยสิ่งแวดล้อมได้มากมายขนาดไหน โดยหลังจากนี้ มาริโนและทีมงานของเขาจะออกเดินทางไปทำความสะอาดทะเลสาบตามท้องถิ่นต่าง ๆ ต่อไป
ถึงแม้เทคโนโลยีของมาริโนจะมีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ปัญหาเดียวที่เกิดขึ้นกับภารกิจกู้โลกอันยิ่งใหญ่ของเขาก็คือ มันมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ดังนั้นเขาหวังว่าจะมีคนที่เห็นคุณค่าของโครงการนี้และคอยช่วยสนับสนุนเพื่อให้เปรูกลายเป็นประเทศที่กลับมามีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ได้อีกครั้ง
ที่มา : brightside | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ