สาวเอสกิโมตอบโต้ชาววีแกน ด้วยการเผยราคาผักผลไม้สุดโหดที่บ้านเกิดของเธอ

เมืองไทยถือเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งและเราสามารถหาซื้อผักผลไม้รับประทานได้ในราคาถูกมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น แต่สำหรับผู้คนที่อยู่ในพื้นที่โลกที่ห่างไกลไม่ได้โชคดีขนาดนั้น โดยเฉพาะในพื้นที่เขตอาร์ติกส่วนหนึ่งของประเทศแคนาดาที่ไม่สามารถปลูกผักผลไม้เองได้ เนื่องจากฤดูหนาวที่ไม่มีวันสิ้นสุด ผักและผลไม้เหล่านี้จึงต้องถูกจัดส่งไปทงเรือหรือเครื่องบินเป็นระยะทางไกล ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคาของมันแพงอย่างที่คุณคาดไม่ถึง

เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดย คาทารา หญิงสาวที่อาศัยอยู่ใน Igloolik หมู่บ้านเล็ก ๆ ของชาวเอสกิโมทางตอนเหนือของประเทศแคนาดา เธอได้เปิดประเด็นเกี่ยวกับราคาผักผลไม้ในซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีราคาแพงอย่างมาก และเรื่องนี้ก็กลายเป็นกระแสบนทวิตเตอร์ทันที

เธอโพสต์ภาพผักผลไม้มากมายพร้อมกับป้ายราคาสินค้าที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมคนพื้นเมืองเหล่านี้ถึงคิดว่าการใช้ชีวิตแบบชาววีแกนคือต้องรวยจริง ๆ เท่านั้น

นี่คือราคาป้ายที่น่าจะเป็นราคา ดอลลาห์แคนาดา (1 CAD = 23 THB) ดอกกระหล่ำหัวเดียว จะตกอยู่ที่ 300 บาท

บร็อกโคลี่ หัวละเกือบ 400 บาท

ผักกาดขาว 1 หัว ราคา 420 บาท

มะเขือเทศ 4 ลูก 220 บาท

น้ำผลไม้เป็นกล่องเล็ก ๆ แบบนี้ก็แพงเช่นกัน แพ็คนี้ 10 กล่อง ประมาณ 1,070 บาท ตกกล่องละร้อยกว่าบาท

น้ำส้มกล่องใหญ่ 300 กว่าบาท

ผักกาดหอมใส่สลัดถุงเดียว 235 บาท

องุ่น 1 แพ็ค 377 บาท

แตงโมกิโลกรัมละ 235 บาท ลูกนี้ลูกเดียวราคา 1,670 บาท

องุ่นแพ็คนี้ 288 บาท

น้ำส้มขวดใหญ่ 3.49 ลิตร ราคา 620 บาท

สลัดกล่องนี้ 1,179 บาท

ผลไม้รวมกล่องนี้เกือบ 1,500 บาท

หน่อไม้ฝรั่ง 1 กำ 778 บาท

กล่องที่บรรจุไปด้วยบร็อกโคลี่และเบบี้แครอทพร้อมน้ำสลัด 1,650 บาท

มะเขือเทศกิโลกรัมละ 235 บาท

และไม่ใช่แค่ผักผลไม้ที่แพง แต่น้ำเปล่าขวด 500 มิลลิลิตร 24 ขวด มีราคาสูงถึง 2,477 บาท ตกขวดละ 100 กว่าบาท

คาทารากล่าวว่า “”ชาวเอสกิโมจำนวนมากอาศัยอยู่อย่างยากจนและไม่สามารถใช้ชีวิตแบบวีแกนที่หรูหราได้ เราต้องออกล่าเพื่อหาอาหารเท่านั้น เราอยู่รอดมาได้หลายพันปีแบบนี้ เราจึงเคารพสัตว์ในฐานะที่เป็นอาหารให้กับเรา”

ส่วนใครบอกว่าทำไมไม่ย้ายลงมาอยู่ใต้หน่อย เธอจึงยกตัวอย่างการเดินทางจากบ้านเกิดของเธอมายังเมือง Ottawa ในแคนาดา ยังต้องมีค่าเดินทางสูงเกือบ 3 หมื่นบาท

สุดท้ายนี้เธอกล่าวถึงชาววีแกนที่ต่อว่าชาวเอสกิโมเกี่ยวกับการทารุณกรรมสัตว์ เธอขอให้ไปศึกษาประวัติศาสตร์และประเพณีของชาวเอสกิโมให้ดีเสียก่อนว่าต้องเอาชีวิตรอดแบบไหนในสภาพอากาศที่เลวร้าย ทั้งเรื่องการอาหารและการให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย บทความเกี่ยวกับวีแกนทั้งหลายที่โจมตีชาวเอสกิโมไม่ได้รับรู้ในจุดนี้ และเธอหวังว่าชาวโลกจะเข้าใจวิถีชีวิตของชาวเอสกิโมมากขึ้น

ที่มา : twitter | เรียบเรียงโดย เพชรมายา

สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ข้างล่างครับ